พรรษา เหมวิบูลย์ กลายเป็นฮีโร่ หลังโหม่งประตูชัยให้ทีม "ปราสาทสายฟ้า" เฉือนชนะ "กูปรีอันตราย" ฉิวเฉียด 2-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ "ช้าง เอฟเอ คัพ" ไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 5
การแข่งขันฟุตบอล "ช้าง เอฟเอ คัพ 2018" วันที่ 26 กันยายน 2561 เป็นการลงสนามฟาดแข้งในรอบ 4 ทีมสุดท้าย ใช้สังเวียนสนามกลางในการแข่งขัน ที่สนามบุณยะจินดา "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี พบ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์รายการนี้ 4 สมัย
เกมนี้ "ปราสาทสายฟ้า" ภายใต้การคุมทีมของ โบซิดาร์ บันโดวิช ที่เพิ่งคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ไปครองเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงยึดแข้งตัวหลักลงสนามเช่นเคย โดยส่ง ฮาเวียร์ ปาตินโญ จับคู่หน้ากับ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต โดยมี จักรพันธ์ แก้วพรม, รัตนากร ใหม่คามิ คุมเกมแดนกลาง
ขณะที่ ศรีสะเกษ เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม ไม่มีลุ้นหนีตกชั้นหรือลุ้นเลื่อนชั้นในลีกแชมเปียนชิพ เกมนี้นำทัพโดย สุขพร วงศ์เชียงคำ เจ้าของฉายา "เมสซี่ลาว"
น.13 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดด้วยซ้ายเข้ามาในเขตโทษ ณัฐชานนท์ โจถาวร ชกบอลพลาดบอลมาตกที่ ฮาเวียร์ ปาตินโญ ตอกลูกส้นเข้าประตูไป
ถัดมา 10 นาที ศรีสะเกษ ได้ประตูไล่ตามตีเสมอ 1-1 จักรพงษ์ สมบูรณ์ โยนบอลจากด้านขวาเข้าไปในเขตโทษ พรรษา เหมวิบูลย์ โขกสกัดบอลมาเข้าทาง สุขพร วงศ์เชียงคำ วิ่งมาจากแถวสองกดตูมเดียวบอลพุ่งเข้าประตูไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งเวลาหลังเริ่มมาเพียง 10 นาที ปราสาทสายฟ้า มาได้ประตูนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดด้วยซ้ายเข้าไปในเขตโทษผู้เล่นศรีสะเกษ โหม่งบอลออกหลังเป็นลูกเตะมุม กรกช เปิดเข้าไปกลางประตู พรรษา เหมวิบูลย์ ทะยานขึ้นโขกบอลมุดคานเข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา 90 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 5 ในรายการนี้