xs
xsm
sm
md
lg

ออกรอบไม่ได้ ก็ขอให้ “แกว่งแขน” / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

“เฮีย..พุงออกแล้วนะ..จะไว้พุงแข่งกับเจ้าเก่งหรือไงครับ?”

“โธ่หมอ..ฝนตกทุกวัน ไม่ได้ออกรอบเลยช่วงนี้..ทำไงได้ล่ะ?”

“ออกกำลังไว้ซิครับ...อย่าอยู่นิ่ง...แกว่งแขนก็ได้ ช่วยลดพุงลดโรคนะ”

“แกว่งแขนเหรอ...ก็ไอ้ตุ๊มันบอก คนแก่ไม่ควรทำ เพราะทำให้เอ็นกล้ามเนื้อบ่าไหล่ฉีกขาด และปวดเข่า ปวดขาได้”

“อย่าไปเชื่อมัน..แสดงว่ามันทำไม่ถูกวิธี..เดี๋ยวผมสอนวิธีที่ถูกต้องให้”

ยืนยัน “แกว่งแขนถูกวิธี ไม่เป็นอันตราย”

สสส.รณรงค์เรื่องการแกว่งแขนผ่านแคมเปญ “ลดพุง ลดโรค” มาตั้งแต่ปี 2556 ถือเป็นศาสตร์ที่มีองค์ความรู้ถ่ายทอดมานานหลายร้อยปี เป็นกิจกรรมทางกายอย่างง่ายที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย แต่ต้องปฏิบัติอย่างถูกวิธีจึงจะได้ประโยชน์และไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือบาดเจ็บ จากการวิจัยพบว่า การแกว่งแขนสามารถเผาผลาญได้ถึง 230 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับการเดิน และไม่เกิดผลเสียใดๆทั้งระยะสั้นและระยะยาว หลักการแกว่งแขนที่ถูกต้องคือ แกว่งแขนให้ถูกวิธีต่อเนื่องสะสมอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน จะช่วยพัฒนาระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง หรือแกว่งแขนสะสมครั้งละ 10 นาที รวม 30 นาทีต่อวัน เป็นประจำทุกวันสม่ำเสมอควบคู่กับการควบคุมอาหาร จะช่วยทำให้สามารถลดพุงลดโรคได้สำเร็จ

การแกว่งแขนผิดวิธีที่พบบ่อยมี 3 ประเภท 1.แกว่งแขนแรงเกินไป เพราะอยากให้เผาผลาญมากๆ ให้เกิดผลทันตา จนอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บของเอ็นหรือกล้ามเนื้อของไหล่ได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว 2.คว่ำหรือหงายมือ ไม่ปล่อยมือทั้งสองลงตามธรรมชาติ 3.แกว่งแขนพร้อมกับย่อเข่ามากเกินไป และมีการขย่มตัวขึ้นลง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บของข้อเข่าได้

สำหรับวิธีแกว่งแขนที่ถูกต้อง ทำได้ง่ายๆ โดยการยืนตรง เท้าทั้ง 2 ข้างแยกออกจากกันให้มีระยะห่างเท่ากับหัวไหล่ ย่อเข่าเพียงเล็กน้อยเพื่อการทรงตัว ปล่อยมือทั้ง 2 ข้างลงตามธรรมชาติ จากนั้นแกว่งแขนเบาๆเหมือนลูกตุ้มนาฬิกา เมื่อแกว่งไปข้างหน้าจะรู้สึกตัวเซไปข้างหน้าเล็กน้อย ใช้เท้ารับน้ำหนักถ่ายน้ำหนักไปที่ปลายเท้า เพื่อสร้างสมดุลกับตัวที่เซไปข้างหน้า เมื่อแกว่งไปข้างหลังก็ถ่ายน้ำหนักไปที่ส้นเท้าเพื่อให้สมดุลกับน้ำหนักลำตัวที่เซไปข้างหลัง อย่างไรก็ตาม การแกว่งแขนเป็นภาพลวงตาว่าใช้กำลังเฉพาะแขน แต่ที่จริงเราได้ออกกำลังโดยใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ด้านล่างถึง 12 มัด เช่น กล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง กล้ามเนื้อส่วนน่อง ด้านสันหน้าแข้ง และน่องด้านหลัง กล้ามเนื้อที่ฝ่าเท้า ดังนั้นการแกว่งแขนจะเหมือนกับการออกกำลังกายโดยการเดิน เมื่อคนเห็นประโยชน์จากการแกว่งแขนซึ่งเป็นกุศโลบายให้ขยันร่างกายแทนการเนือยนิ่ง ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คนหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น

“ไอ้เก่ง...จะไปไหน...มาแกว่งแขนเป็นเพื่อนเฮียเดี๋ยวนี้ ไอ้พุงโต!”


กำลังโหลดความคิดเห็น