"กิเลนผยอง" เตรียมส่ง "กอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร คัมแบ็คออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในไทยลีกครั้งแรกในเกมบิ๊กแมตช์ หลังบาดเจ็บไปนาน ด้าน "ฉลามชล" ยอมรับเจอวิกฤตนักเตะบาดเจ็บโดยเฉพาะผู้รักษาประตู พร้อมหวังเก็บ 1 แต้มจากอิ่นเอสซีจี สเตเดียม กลับบ้านให้ได้
วันที่ 3 กันยายน 2561 เวลา เวลา 13.00 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 24 การกีฬาแห่งประเทศไทยฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขัน "มีต เดอะ วอร์ริเออร์" เกมโตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 27 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เปิดบ้าน พบกับ ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 10
กิเลนผยองถือว่าทำผลงานในช่วงก่อนพักเบรคทีมชาติได้ไม่ดีนักหลังชนะมาแค่เกมเดียวจากห้านัดหลังสุด ขณะที่ ฉลามชล ฟอร์มหลุด หลังตกรอบบอลถ้วยสองรายการ รวมถึงในลีกก็ไม่ชนะมาสีเกมติด โดยเกมแรกที่ทั้งสองทีมพบกับ เสมอกัน 1-1
โดยทาง ชัยกร ชมชื่น ผู้ช่วยผู้จัดการทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า "เกมนี้เราจะขาดแค่วัฒนา พลายนุ่ม ที่ติดโทษแบน ส่วนผู้เล่นที่เหลือก็พร้อมเต็มที่ ที่ผ่านมานักเตะก็ได้มีเวลาทบทวนเรื่องแท็คติก และฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ทีมได้ทำงานหนัก และพร้อมสำหรับเกมที่เหลือ"
"ช่วงที่ผ่านมา อดิศักดิ์ ไกรษร ก็ทำผลงานได้ดี อาจจะได้เห็นเขาลงเล่นในไทยลีกปีนี้ในเกมนี้ แต่ก็ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง"
"ส่วนเรื่องปัญหาเกมรับ โค้ชก็พยายามแก้ปัญหาตรงจุดนี้ แปดเกมที่เหลือ เราจะพยายามเสียประตูให้ได้น้อยที่สุด และรักษาสกอร์ตามที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้"
"ก่อนหน้านี้ในปีนี้เรามีผลงานที่ไม่ดีในเกมเจอกับ ชลบุรี โค้ชก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ทำการบ้านให้หนัก และหวังที่จะเอาชนะให้ได้"
"เรื่องโปรแกรมถี่ เราก็วางแผนโรเตชั่น ซึ่งตัวโค้ชก็วางแผนระยะยาวไปตลอดแปดเกมที่เหลือ แต่ผลการแข่งขันเราก็จะดูกันเกมต่อเกม เราขอเชิญชวนแฟนบอลทั้งสองทีม เพราะเกมนี้ถือเป็นเกมใหญ่ก็อยากให้แฟนบอลเข้ามาเยอะๆ" ชัยกร ชมชื่น กล่าว
ด้าน จีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อ ชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า "ช่วงนี้ถือเป็นวิกฤตของชลบุรี นอกจากผลงานที่ไม่ค่อยดีนัก ส่วนอาการบาดเจ็บก็เยอะมาก เราหวังว่าช่วงพักจะทำให้นักเตะฟื้นฟู แต่กลับกลายเป็นว่าในการฝึกซ้อมก็มีนักเตะเจ็บเพิ่ม ตัวเก่าที่เจ็บอยู่อาจจะสมบูรณ์ไม่เต็มร้อย แต่ล่าสุด เราเสีย ธณชัย หนูราช ที่เจ็บต้องผ่าและพักยาวถึงหกเดือน ก่อนหน้านี้เราขาดชนินทร์ แซ่เอียะ และมือสามก็เจ็บอีกถือว่าเป็นปัญญาใหญ่ในการไปเยือน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด"
"ส่วนวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ก็ไม่สมบูรณ์ และยังมีผู้เล่นติดโทษแบนคือ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ ถือว่าเป็นปัญหาของโค้ชที่ต้องวางแผนให้ดีในการไปเยือน เมืองทอง เราเป็นรองอยู่แล้ว และนักเตะก็ไม่สมบูรณ์ เราคงต้องเช็คความฟิตถึงวินาทีสุดท้าย"
"มันเป็นปัญหาที่เราต้องแก้ อาจจะต้องใช้ผู้รักษาประตูมือ 4 หรือคนที่พอเล่นได้ แต่ต้องรอจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ที่ขาดแน่ๆคือ ชนินทร์ และ ธณชัย คิดว่าไม่น่าจะมีสโมสรไหนเจอปัญหาแบบนี้ แต่เรายังมีข่าวดีเล็กน้อยคือ สุทธินันท์ พุกหอม หายเจ็บกลับมาหลังพักนาน อาจจะได้เห็นเขาลงเล่นในเกมนี้ เช่นเดียวกับ คิม คยอง มิน ที่ช่วงก่อนเอเชียน เกมส์ เขาก็ไม่ได้เล่นมา 5-6 นัด ก็ซ้อมได้แล้ว ก็ถือว่าเป็นข่าวดีเล็กๆ ในข่าวร้าย"
"ปีนี้ ชลบุรี เกมเยือนเราไม่ดี เพราะเรามีดาวรุ่งหลายคน และยังไม่มีประสบการณ์ และการไปเยือนเมืองทอง แม้ว่าผลงานเขาจะตกลงมา แต่เขาก็ยังเป็นทีมที่ดี น่ากลัว และประสิทธิภาพสูง เขาก็ต้องการชนะชลบุรีให้ได้ ก็ถือเป็นงานหนักในการไปเยือนเมืองทอง ครั้งนี้"
"ก่อนหน้านี้เราเคยชนะในบอลถ้วย และเสมอในบ้านมา แต่ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเป็นจังหวะของฟุตบอล เราโชคดีที่มีโอกาสและจบสกอร์ได้ แต่วันนี้ต่างจากวันนั้น เมืองทองต้องการแก้แค้น เราก็ต้องเปิดตำรารับมือให้ได้"
"ชลบุรี ตอนนี้แทบไม่มีตัวโรเตชั่น เพราะนักเตะเจ็บเยอะๆจริง การเจอกับเมืองทอง ถ้าได้หนึ่งคะแนนก็ดีใจครับ เรารู้ศักยภาพของตัวเอง ถ้าเราได้คะแนน เราก็จะมีกำลังใจไปสู้ต่อ หลังจากนี้การเจอแอร์ฟอร์ซ ก็ประมาทไม่ได้ การไปเยือนประจวบก็หนัก เราก็ต้องพยายามหนีตกชั้นให้ได้"
"ปกติการเจอกันสองทีมนี้ต้องมีแฟนบอลมากันเยอะ ผมเชื่อว่าเกมนี้ก็เช่นกัน แม้สถานการณ์ของเราจะไม่ดี แต่การเจอกันของทั้งสองทีม จะยังคงความสนุกไว้แน่นอน" จีระศักดิ์ โจมทอง กล่าว
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2018 นัดที่ 27
วันพุธที่ 5 กันยายน 2561
เวลา 17.45 น. สุโขทัย เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่สนาม ทุ่งทะเลหลวง ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 2
เวลา 17.45 น. แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี พบกับ ราชนาวี ที่สนาม ธูปเตมีย์ ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 7
เวลา 18.00 น. ชัยนาท ฮอร์นบิล พบกับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ที่สนาม เขาพลอง สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูวิชันส์ ช่อง 445
เวลา 18.00 น. ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่สนาม ทรู เตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 2
เวลา 19.00 น. ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่สนาม สิงห์ สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 3
เวลา 19.00 น. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนาม ช้าง อารีนา ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 6
เวลา 19.00 น. พัทยา ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่สนาม เทศบาลเมืองหนองปรือ ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 4 และ ทรูวิชันส์ ช่อง 358
เวลา 20.00 น. พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่สนาม สามอ่าว สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต เอชดี 2
เวลา 20.00 น. เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่สนาม เอสซีจี สเตเดียม ถ่ายทอดสด ทาง ทรูสปอร์ต 2