คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
หากนึกถึงผู้เล่นต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากสุดของ บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงเลือก เดิร์ก โนวิตซ์กี ฟอร์เวิร์ด ดัลลัส มาเวอริกส์ ที่เคยสัมผัสแชมป์ , รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) และรั้งอันดับ 6 ทำคะแนนสูงสุดตลอดกาล 31,187 แต้ม คาดว่า น่าจะแซง วิลท์ แชมเบอร์เลน ภายในฤดูกาล 2018-19 ที่จะถึงนี้
สำหรับอีกหนึ่งตัวต่างชาติ ซึ่งถูกจับตามองว่า อาจมีชื่อเข้าหอเกียรติยศสัก 4 ปีข้างหน้า คือ มานู จิโนบิลี การ์ดชาวอาร์เจนไตน์ ที่เพิ่งปิดฉาก 16 ซีซันบนสังเวียน NBA และ 23 ปี ตลอดอาชีพ รวมสมัยอาละวาดอยู่ทวีปยุโรป
อาร์.ซี. บูฟอร์ด ผู้จัดการทั่วไป สเปอร์ส ค้นพบ จิโนบิลี ตั้งแต่ปี 1997 รายการชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ที่ประเทศออสเตรเลีย ทั้งๆ ไม่เคยมีใครเอ่ยถึง หนุ่มเลือดฟ้าขาวรายนี้ มาก่อน และหากเช็กตาม “ม็อค ดราฟต์ (แบบจำลองการดราฟต์)” ช่วงเดือนมิถุนายน ปี 1999 ก็ยังไม่มีชื่อติดตามโผของสื่อสำนักใดๆ เลย
อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส คัดเลือก จิโนบิลี รอบ 2 อันดับ 57 เพียงไม่กีวัน นับตั้งแต่สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ NBA สมัยแรกของแฟรนไชส์ ซึ่งนักกีฬาดังๆ รุ่นเดียวกัน ติด ออล-สตาร์ รวม 9 ครั้ง กับ 3 รางวัลสำรองยอดเยี่ยม (ประกอบด้วย จิโนบิลี , เจสัน เทอร์รี และ ลามาร์ โอดอม)
หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ยุโรป 3 ซีซัน จิโนบิลี กลับสู่รัง เอที แอนด์ ที เซ็นเตอร์ สวมบทอะไหล่ของ สตีฟ สมิธ มือปืนรุ่นเก๋า ฤดูกาล 2002-03 ติดทีมรุกกีแห่งปี ชุดที่ 2 ลงเล่นเฉลี่ย 20.7 นาที ส่อง 7.6 แต้ม 2.3 รีบาวน์ด 2.0 แอสซิสต์ ก่อนก้าวมาเป็นอาวุธสำคัญของ เกร็กก์ โพโพวิช เฮดโค้ช ช่วงเพลย์ออฟ ซิวโทรฟี “แลร์รี โอ'ไบรอัน” สมัยที่ 2
ช่วงพีกสุดขีดของ จิโนบิลี น่าจะเป็นรอบชิงชนะเลิศ ปี 2005 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ของแฟรนไชส์ และสมัยแรก นับตั้งแต่หมดยุค “ดิ แอดมิรัล” เดวิด โรบินสัน เซ็นเตอร์ระดับตำนาน เอาชนะ ดีทรอยต์ พิสตันส์ อย่างดุเดือด 4-3 เกม ซัดเฉลี่ย 18.7 แต้ม 4.0 แอสซิสต์ ตลอดซีรีส์ ทว่ารางวัล MVP กลับตกเป็นของ ทิม ดันแคน ฟอร์เวิร์ดคู่หู ชนิดค้านสายตา ไมค์ บูเดนโฮลเซอร์ ผู้ช่วยโค้ช กับ บูฟอร์ด ที่มองว่าทั้งคู่น่าจะครองร่วมกัน
นอกจากนี้ จิโนบิลี ยังเป็นหนึ่งในขุนพล อาร์เจนตินา ชุดสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เหมา 29 แต้ม โค่น สหรัฐอเมริกา ที่มี เลอบรอน เจมส์, อัลเลน ไอเวอร์สัน , สเตฟอน มาร์บิวรี และ คาร์เมโล แอนโธนี รอบรองชนะเลิศ 89-81 รวมถึงยิง 2 คะแนนด้วยมือซ้ายข้างถนัด วินาทีสุดท้าย รอบชิงชนะเลิศ เชือด เซอร์เบีย หวุดหวิด 83-82
เชื่อว่า แฟนๆ น่าจะรู้จัก อาร์เจนตินา ด้านกีฬาฟุตบอล ด้วยชื่อเสียงของซูเปอร์สตาร์อย่าง ดีเอโก มาราโดนา หรือ ลิโอเนล เมสซี แต่ถ้านึกถึง บาสเก็ตบอล ก็ต้องมี มานู หรือ เอ็มมานูเอล จิโนบิลี เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าเช่นกัน หากวัดกันแง่ความสำเร็จระดับอาชีพที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
เดี๋ยวนี้เวลาชาติใดก็ตาม มีนักฟุตบอลตัวเล็กๆ เลี้ยงบอลคล่องแคล่ว จะถนัดเท้าซ้ายหรือไม่ก็ตาม ล้วนถูกตั้งชื่อเป็น “เมสซี” ของประเทศนู้น ประเทศนี้ ไม่เว้นกระทั่งบ้านเรา สมมติว่าหากมีนักบาสเก็ตบอล อาร์เจนตินา สักคน แน่นอนว่า ก็อาจจะเป็น “นิว จิโนบิลี” บ้างก็ไม่เห็นแปลก ดังนั้นคงไม่ผิดอะไรกระมัง ถ้าอยากจะเปรียบ จิโนบิลี เป็น เมสซี แห่งวงการยัดห่วง