รวมแข้งเอเชียบุก “พรีเมียร์ ลีก” ฟิลิปปินส์เปิดหัวค้าแข้งอังกฤษ

หากจะให้เอ่ยชื่อแข้งเอเชียบนเวที พรีเมียร์ ลีก แน่นอนว่า ปาร์ค จี ซอง กับ ซุน จี ไห่ จะต้องผุดขึ้นมาลำดับต้นๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีแข้งเอเชียค้าแข้งลีกสูงสุดของอังกฤษหลายต่อหลายคน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ดังนั้น เพื่อเป็นการต้อนรับฤดูกาลใหม่ 2018-19 ที่เปิดฉากไปแล้ว เราได้รวบรวบทั้งหมด 9 รายมาฝากกันตรงนี้แล้ว

นีล เอเธอริดจ์ (ฟิลิปปินส์) - อดีตเยาวชนของ เชลซี กับ ฟูแล่ม มีเชื้อสายอังกฤษ เป็นกำลังสำคัญช่วย คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดฤดูกาลนี้ ซึ่งก็ลงเฝ้าเสาแมตช์แรกโดนรับน้องบุกพ่าย บอร์นมัธ 0-2 โดยผู้เล่นวัย 28 ปีย้ายจาก วอลซอลล์ เมื่อปี 2017 แบบฟรีทรานเฟอร์ ปีที่แล้วลงเล่นเวที แชมเปี้ยนชิป แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยช่วยทีมเสีย 39 ประตูจาก 46 นัด ส่วนทีมชาติชุดใหญ่ติดธงไปทั้งสิ้น 59 นัดและถือเป็นคนแรกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เล่น พรีเมียร์ ลีก

โยชิโนริ มูโตะ (ญี่ปุ่น) - แข้ง “ซามูไรบลู” รายล่าสุดบนเวที พรีเมียร์ ลีก โดย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นำเข้าจาก ไมนซ์ 05 ด้วยค่าตัว 9.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 408 ล้านบาท) หลังเตะตาผลงาน 23 ประตูจาก 72 นัดรวมทุกรายการ โดยหอกวัย 26 ปีเล่นไปแล้วเกมแรกแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คาบ้าน 1-2 ระดับทีมชาติเล่น 25 นัดยิง 2 ประตูและได้ไปลุย เวิลด์ คัพ 2018 ที่ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย

อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์ (อิหร่าน) - จอมทัพชุดตกรอบแรก เวิลด์ คัพ 2018 ส่วนหนึ่งก็เพราะอยู่กลุ่มเดียวกับ สเปน รวมถึง โปรตุเกส ซึ่ง ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน สอยมาเพราะติดใจผลงานกับ เอแซด อัล์คมาร์ เมื่อปีที่แล้วที่ซัด 21 ประตูคว้าดาวซัลโว เอเรดิวีซี ลีก ดัตช์ ถือเป็นแข้งเอเชียคนแรกที่คว้ารองเท้าทองคำลีกระดับเมเจอร์ของยุโรป ระดับทีมชาติจอมทัพวัย 25 ปีซัดไปแล้ว 4 ประตูจาก 41 นัด จากนี้ต้องดูว่าจะปรับตัวกับเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ได้ดีแค่ไหน

แมทธิว ไรอัน (ออสเตรเลีย) - นัดแรกของปีนี้ผลงานไม่สู้ดีนักบุกพ่าย วัตฟอร์ด 0-2 ย้อนไปนั้นถูกซื้อตัวมาจาก บาเลนเซีย เมื่อปี 2017 ปีที่แล้วลงเฝ้าเสาเต็มๆ 38 นัดบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แถมเก็บคลีนชีตได้ถึง 10 นัดเลยทีเดียว แน่นอนว่า ชาตินั้นตั้งอยู่ในโซนโอเชียเนีย แต่ว่าได้รับรองจาก เอเอฟซี ในฐานะทีมของเอเชีย โดยมีประสบการณ์เฝ้าเสาชุดใหญ่ไปทั้งสิ้น 47 นัด โดยมือกาววัย 26 ปี อยู่ในชุดแชมป์ เอเชียน คัพ ปี 2015 อีกด้วย

อารอน มอย (ออสเตรเลีย) - ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ยืมตัวกองกลางวัย 27 ปีมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่จะซื้อขาด โดยปีที่แล้วคือกำลังสำคัญพาทีมอยู่รอดบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ซัดไป 4 ประตูจาก 36 นัด เวิลด์ คัพ 2018 ก็ไปช่วยทัพ “จิงโจ้” แต่ไม่อาจผ่านรอบแรก รวมรับใช้ชาติไปทั้งสิ้น 5 ประตูจาก 37 นัด

คี ซุง-ยอง (เกาหลีใต้) - เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึงเคยอยู่กับ กลาสโกว์ เซลติก, สวอนซี ซิตี้ ก่อนที่จะหมดสัญญาแล้ว นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปเซ็นเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีเด็ดก็คือความขยันและลูกยิงไกลจากแถวสอง ติดธง “โสมขาว” มากถึง 104 นัดยิงไปทั้งสิ้น 10 ประตู

มายะ โยชิดะ (ญี่ปุ่น) - ได้รับคำชมค่อนข้างมากใน เวิลด์ คัพ 2018 ที่ทัพ “ซามูไรบลู” ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งก็เพราะประสบการณ์อันล้นปรี่ 6 ปีบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ กับ เซาแธมป์ตัน ซึ่งปราการหลังวัย 29 ปีเคยติดทีมชาติมาแล้ว 88 นัดยิง 10 ประตู

ชินจิ โอกาซากิ (ญี่ปุ่น) - กองหน้าจอมเก๋าวัย 32 ปีอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว 3 ปี ไฮไลต์สำคัญที่สุดในชีวิต ก็คือ ฤดูกาล 2015-16 ที่เป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แบบสุดเซอร์ไพรส์ แม้ว่าจำนวนสกอร์ที่ยิงให้กับทีมจะไม่เยอะ แต่ว่าเป็นนักเตะในสไตล์ที่มีประโยชน์กับทีม โดย เวิลด์ คัพ 2018 ก็ติดทัพไปรัสเซียเช่นเดียวกัน รวมแล้วกดให้ทัพ “ซามูไรบลู” 50 ประตูจากทั้งหมด 116 นัด

ซอง เฮือน-มิน (เกาหลีใต้) - กำลังช่วยทัพ “โสมขาว” ล่าเหรียญทอง เอเชียน เกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ก็เพื่อจะใช้เกียรติยศนี้มาเลี่ยงรับราชการทหาร โดย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซื้อมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปี 2015 จากนั้นก็เป็นแกนหลักในแนวรุก 3 ปีกดไปแล้ว 47 ประตูจาก 139 นัดรวมทุกรายการ เวิลด์ คัพ 2018 ไม่อาจช่วยทีมผ่านรอบแรกรวมแล้วยิงให้ทีมชาติ 23 ประตูจาก 70 นัด ซัมเมอร์นี้แม้ว่า “ไก่เดือยทอง” จะไม่ได้เสริมใคร แต่การรั้งนักเตะแกนหลักเอาไว้ได้ทั้งหมดก็ถือเป็นเรื่องที่ดี