xs
xsm
sm
md
lg

เพราะว่ารัก “ดาร์ลิง-อารดา” ทิ้งวงการบันเทิงมุ่ง “ไตรกีฬา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดาร์ลิง กับเหรียญรางวัลอันดับ 3 ใน บางกอกไตรกีฬา
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - สมัยนี้เรามักเห็นดารานักร้องนักแสดงหลายๆ คน หันมาออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ บางคนอาจแบ่งเวลาช่วงหนึ่งในแต่ละวันมาเข้าโรงยิม เล่นกีฬา เล็กๆน้อยๆ แต่บางคนอาจใช้เวลาส่วนใหญ่มุ่งมั่นกับทางนี้โดยเฉพาะ

“ดาร์ลิง” อารดา อารยวุฒิ สาวจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายคนอาจรู้จักเธอในฐานะอดีตนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปวงชูการ์ อายส์ (Suger Eyes) หรือรู้จักเธอในฐานะนักแสดงในละครโทรทัศน์ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักเธอในฐานะ “นักกีฬา”

ถ้าใครเคยชมละครเรื่องหมอผีไซเบอร์ ทางช่อง 3 คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับน้อง “ดาร์ลิง” พอสมควร กับบทบาทของ บราลี ซึ่งเธอได้เล่นเรื่องนี้ร่วมกับ “แพท” ณปภา ซึ่งเป็นบทที่โดดเด่นพอสมควร หรือย้อนไปก่อนหน้านั้นในยุคที่เมืองไทยเต็มไปด้วยเกิร์ลกรุ๊ป ก็อาจจะรู้จักเธอที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวงชูการ์ อายส์ แต่แล้ววันเวลาผันเปลี่ยนไป ช่วงหลังเธอแทบปลีกตัวออกมาจากวงการบันเทิง เบนเข็มกลายมาเป็นนัก “ไตรกีฬา” อย่างจริงๆ จังๆ ซึ่งเธอได้เปิดใจถึงการเข้ามาสู่วงการกีฬาแบบเต็มตัวว่า...

- จุดเริ่มต้นการเริ่มเล่น “ไตรกีฬา”

“ก่อนอื่นต้องขอเล่าไปตั้งแต่ตอนเด็ก คือ ดาร์ลิง คลอดออกมาแบบก่อนกำหนด ทำให้ตัวเองมีปัญหาในเรื่องสภาพร่างกายมาโดยตลอด เป็นภูมิแพ้ง่าย และดูจะไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่พอโตขึ้นมาได้เข้าโรงเรียนนานาชาติสมัยประถม และมัธยม เจาจะมีพวกชมรมทีมฟุตบอล, ทีมว่ายน้ำ, ทีมฮ็อคกี้, ทีมบาสเกตบอล ซึ่งเราก็คลุกคลีอยู่กับชมรมพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก ทำให้เรากลายเป็นคนที่ชอบกีฬามากๆ และเมื่อได้เล่นกีฬามันก็ทำให้ร่างกายของเราจากที่ดูอ่อนแอก็กลับมาแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเยอะ หลังจากนั้นก็เริ่มจริงจังในการเล่นกีฬาจนเป็นนักกีฬาของโรงเรียน ทั้งบาสเกตบอล, ว่ายน้ำ ตอนนั้นเราก็เล่นหลายกีฬาด้วย”

“แต่จริงๆ แล้วเราโตมากับการว่ายน้ำ เพราะคุณพ่อเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติมาก่อน จับเราเรียนว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เรามีทักษะตรงนี้มานานแล้ว พอช่วงที่เข้าวงการบันเทิงมาได้สักพักเราก็เริ่มวิ่ง เข้าร่วมรายการวิ่งต่างๆ พวกวิ่งมาราธอน, มินิมาราธอน ก็ผ่านมาหลายรายการ จนมาเห็นเพื่อนๆในวงการตอนนั้นเขาขี่จักรยานกันเยอะมาก เราก็อยากจะลองดูบ้างเลยยืมเพื่อนมาปั่นดูก่อน ปั่นไปปั่นมารู้สึกชอบเลยตัดสินใจซื้อจักรยานเป็นของตัวเองเลย”

- เริ่มลงแข่งขันไตรกีฬารายการต่างๆ

“ช่วงแรกตอนที่ลงวิ่งมาราธอนรายการต่างๆ เราไม่ได้ซ้อมอะไรเลย ไปถึงงานก็วิ่งๆอย่างเดียว เอาแค่ประคองให้เข้าเส้นชัย แต่พอหลังๆ เริ่มติดใจและคิดว่ามันต้องซ้อม ก็เลยเริ่มซ้อมอย่างจริงๆจังๆ ทั้งวิ่ง, ว่ายน้ำ และจักรยาน ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อน ก็มีคนมาชวนให้ลองลงแข่งไตรกีฬาดูซึ่งตัวเราเองก็ได้หมดทั้ง 3 อย่าง เราก็เลยลอง รายการแรกเลยคือมันจะเป็น “ไตรแดช” (Tri-Dash) คือจำลองไตรกีฬาแบบจริงๆ แต่จะว่ายน้ำกันในสระน้ำยังไม่ได้ลงแม่น้ำหรือทะเล หลังจากนั้นก็เลยชอบไตรกีฬามาโดยตลอด แต่จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ต้องไปเรียนปริญญาโทที่นิวยอร์ก กับฮ่องกง ก็เลยหยุดไปประมาณปีเศษ แต่ตอนนี้ก็กลับมาจริงจังอีกครั้ง”

“หลังจากนั้น ก็เริ่มลงแข่งไตรกีฬาแบบจริงๆ ว่ายน้ำในแม่น้ำ ในทะเลจริง ตอนนี้ก็ลงแข่งขันมาแล้วประมาณ 3 รายการ 2 เดือนก่อนก็แข่งไตรกีฬาที่หาดสามร้อยยอด ปราณบุรี และล่าสุดแข่งรายการบางกอกไตรกีฬาที่กรุงเทพฯ ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เป็นการลงว่ายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเราก็ได้อันดับ 3 มา ในรุ่นอายุ 18-29 ปี นอกจากนั้นก็มีลงพวกรายการวิ่งมาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน ทั้งในประเทศแล้วก็ต่างประเทศด้วย ตอนนี้ก็กำลังจะเตรียมตัวไปลงแข่งฟูจิ มาราธอน ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญเราก็ดีใจและเป็นปลื้มที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการก้าวคนละก้าว ได้ไปวิ่งเคียงข้างพี่ตูน บอดี้สแลม ด้วย”

- มีแพลนการซ้อมกีฬาอย่างไร

“ช่วงหลังเราแทบจะไม่ได้รับงานในวงการบันเทิงเลย จะเรียกได้ว่าเบนเข็มมาเล่นกีฬาจริงจังเลยก็ว่าได้ จะมีก็แต่ออกอีเวนต์เกี่ยวกับกีฬานิดหน่อย มันก็ทำให้เรามีเวลาซ้อมมากขึ้น ปกติจะซ้อมวิ่งอยู่เป็นประจำช่วงนี้ยิ่งเน้นเลยเพราะเตรียมไปแข่งมาราธอนที่ญี่ปุ่น ปั่นจักรยาน เสาร์-อาทิตย์ วิ่งทุกวันพุธ ว่ายน้ำก็ตอนเย็นหลังเลิกงาน สรุปแล้วซ้อมกีฬาก็ประมาณ 5 วันต่อสัปดาห์ มีลงซ้อมกับทีมของ Under Amour ด้วย และทุกๆอย่างก็มีคุณพ่อเป็นคู่บัดดี้ทั้งการวิ่งและเล่นกีฬามาด้วยกันตลอดจนถึงมาเล่นไตรกีฬาด้วยกัน ตั้งแต่เด็กจนโต เราก็ได้ความมีวินัยในการซ้อมกีฬามาจากคุณพ่อเต็มๆ พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยเป็นนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติเขาซ้อมหนักมาก หนักกว่านี้หลายเท่า เราก็อยากทำได้แบบคุณพ่อบ้าง”

- ไตรกีฬา ให้อะไรมากกว่าการเป็นนักกีฬา

“พอได้เข้ามาเล่นไตรกีฬาก็รู้สึกว่ามีระเบียบวินัยในตัวเองมากขึ้น เพราะการจะเป็นนักกีฬาไตรกีฬาได้มันต้องฝึกซ้อมตลอด ถ้าไม่ซ้อมจะลงแข่งขันอะไรแบบนี้ไม่ได้เลย เพราะเรื่องร่างกายมันสำคัญที่สุดในไตรกีฬา มันแตกต่างกับพวกวิ่งมาราธอนที่บางครั้งไม่ต้องซ้อม มาถึงไปลงวิ่งได้เลย การเล่นกีฬามันทำให้เรามีเป้าหมายใหม่ๆให้ตัวเองอยู่เสมอ และมันทำให้รู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นๆในตอนนี้”

“หนูเชื่อนะว่าทุกคนทำได้ ทุกคนอาจจะมีความกลัวเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในใจเกี่ยวกับการเล่นไตรกีฬาเพราะมันดูจะเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายเยอะ อาจจะกลัวการว่ายน้ำ หรืออาจจะไม่มั่นใจในการปั่นจักรยานของตัวเอง แต่อยากให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจอย่าไปกลัว ตอนแรกต้องกล้าที่จะเริ่ม และฝึกฝนไปเรื่อยๆ ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการลงแข่งขันวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน มันจะมีคนที่เก่งกว่าเราเสมอ อยากให้เอาพวกเขามาเป็นแบบอย่าง ที่สำคัญที่ผ่านมาตัวดาร์ลิงเองมีคุณพ่อมีพี่ๆคอยให้คำช่วยเหลือแนะนำตลอด ก็อยากจะให้น้องๆมาเริ่มต้นเล่นไตรกีฬากัน อาจจะวิ่งในระยะสั้นก่อนก็ได้ แล้วค่อยพัฒนามาเรื่อยๆ”

“เร็วๆ นี้ ก็เตรียมจะไปร่วมปั่นจักรยานในกิจกรรม “รวมหัวใจ ไปให้สุด ที่แดนใต้” จากกรุงเทพฯ ถึง อ.เบตง จ.ยะลา เป็นโครงการที่จะช่วยเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วยการท่องเที่ยวภาคใต้ ก็จะมีดารานักแสดงหลายๆท่านไปร่วม นอกจากดาร์ลิงเองก็มีจะมี พี่โย ยศวดี, พี่พิงกี้, พี่ธัญญ่า, แอนด์ดรูว์ กรเศก แล้วก็อีกหลายๆ คน จะเริ่มปั่นกันในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ รวมระยะทางก็ประมาณ 1,300 กิโลเมตร ก็ขอฝากกิจกรรมนี้เอาไว้ด้วยนะคะ สามารถร่วมกันบริจาคได้ที่ ธนาออมสิน บัญชี รวมหัวใจ ไปให้สุดที่แดนใต้ เลขที่ : 020-2-4688504-8 หรือ SMS พิมพ์ T และส่งไปที่ 4899503”

หลังจากนี้ เราคงอาจจะไม่ได้เห็น “ดาร์ลิง” อารดา ในบทบาทของนักแสดงอีกต่อไป เพราะเธอกำลังหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของ “ไตรกีฬา” แบบเต็มๆ เพราะมันเป็นตัวของตัวเองมากกว่า...
ในบทบาทนักแสดงร่วมกับ แพท ณปภา
คุณพ่อที่เป็นบัดดี้ซ้อมกีฬาตั้งแต่เด็ก
ร่วมวิ่ง ก้าวคนละก้าว เคียงข้าง ตูน บอดี้สแลม
ปั่นจักรยานในไตรกีฬา
สวมวิญญาณนักว่ายน้ำตั้งแต่เด็ก
ลงแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการต่างๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น