"บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกโรงให้ความเห็นเรื่องโควต้าอาเซียนในศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 ที่เตรียมเพิ่มอีก 3 โควต้าในฤดูกาลหน้า โดยชี้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ลีกสูงสุดของไทย และทุกสโมสรคงไตร่ตรองเป็นอย่างดีในการใช้โควต้าดังกล่าว พร้อมลั่น หากนักฟุตบอลไทยเก่งจริง จะกลัวทำไมกับการเข้ามาของนักเตะเพื่อนบ้าน
ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่ตกเป็นข่าวใหญ่สำหรับวงการฟุตบอลไทย จากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ประชุมร่วมกับสโมสรสมาชิกที่ศึกโตโยต้า ไทยลีก มีมติเห็นชอบที่จะเพิ่มโควต้านักเตะอาเซียนเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 3 คน ซึ่งจะทำให้ในฤดูกาล 2019 แต่ละสโมสรสามารถส่งนักเตะต่างชาติได้อย่างเต็มที่ถึง 7 คน ต่อหนึ่งเกม
แต่ล่าสุด "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า "ทุกสโมสรที่เข้ามาร่วมประชุมในวันนั้นต่างเห็นดีเห็นชอบด้วยในเรื่องนี้ ผมคิดว่าทุกทีมเขาคิดไตร่ตรองมาดีแล้วเกี่ยวกับเรื่องโควต้าดังกล่าว คงไม่มีสโมสรไหนที่จะส่งนักเตะที่ความสามารถไม่ถึง หรือไม่ได้ดีไปกว่านักเตะไทย ลงสนามแน่นอน ที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็น อย่างเช่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคยเซ็นสัญญานักเตะเวียดนามมา แต่สุดท้ายเล่นไม่ได้ ก็ส่งกลับบ้านไป"
"การเพิ่มโควต้าดังกล่าวมันจะมีแต่เรื่องที่ดีตามเข้ามา อย่างเช่นการขายลิขสิทธิ์ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน แม้ฤดูกาลนี้จะยังไม่มีการขายลิขสิทธิ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะ แต่ก็มีผู้ที่พร้อมจะมาซื้อลิขสิทธิ์บางส่วนไป และได้ติดต่อมาทางสมาคมฯ แล้ว แต่เนื่องจากอะไรหลายๆที่ยังไม่ลงตัวทำให้การเจรจาต้องยุติลงไป"
"ถ้านักฟุตบอลไทยเก่งจริง มีความสามารถจริง จะกลัวอะไรกับการเข้ามาของนักเตะเพื่อนบ้าน ถ้าไทยจะยกว่าตัวเองเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน นักเตะไทยก็ต้องกระตือรือร้น พัฒนาตัวเองเพื่อให้ไม่โดนแย่งตำแหน่งภายในทีม มันเป็นเรื่องที่ดีนะ ผมรู้ว่าทุกสโมสรเขาเล็งเห็นถึงอะไรบางอย่างในเรื่องนี้ คงไม่มีทีมไหนที่เอานักเตะอาเซียนที่อ่อนกว่านักเตะไทยเข้ามาสู่ทีมหรอก มันเปลืองงบประมาณเปล่าๆ หลายๆทีมตอนนี้แม้จะมีนักเตะอาเซียน แต่ก็นั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรอง จะเห็นก็แต่ อ่องธู ของเทโร ที่สามารถยึดตัวจริงได้อย่างถาวร ที่สำคัญโควต้านี้เราก็ไม่ได้บังคับ ถ้าทีมไหนเห็นว่านักเตะไทยภายในทีมดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ ซึ่งเราการกำหนดคุณลักษณะของนักเตะอาเซียนเอาไว้คร่าวๆ คือต้องติดทีมชาติอย่างน้อย U19 ของชาตินั้นๆ ถึงจะสามารถเซ็นสัญญากับทีมในไทยได้"
"ผมยกตัวอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยามได้ลงสนามให้กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร คนไทยแห่กันดู และเชียร์ตลอดทุกเกม แต่ถ้าแมตช์ไหนเขาไม่ได้ลงหรือถูกเปลี่ยนตัวออก ผมก็เห็นคนไทยหลายๆคนก็เปลี่ยนช่องหนี เรื่องนี้มันมีผลดีต่อหลายๆฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์ต่างๆ การขายเสื้อต่างๆ มันก็คงคล้ายๆกันกับโควต้าอาเซียนของเรา ดูอย่างโปลิศ เทโร ได้อ่องธูเข้ามา เขาขายเสื้อได้กำไรเยอะมาก ไหนจะฟอร์มการเล่นที่ดีของนักเตะอีก ซึ่งถ้าเราดึงสตาร์ของชาตินั้นๆมาได้ จะทำให้ธุรกิจฟุตบอลในไทยนั้นขายต่างชาติได้มากขึ้นกว่าเดิม" นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ร่ายยาว