ผู้จัดการรายวัน 360 - ต้องยอมรับว่ากีฬาว่ายน้ำของไทยนั้นซบเซามานาน โดยเฉพาะศึก "เอเชียน เกมส์" ที่ถ้าจำกันได้ความสำเร็จครั้งสุดท้ายนั้นต้องย้อนไปนานถึง 16 ปีจากเหรียญทองแดงประเภทกบ 200 เมตรที่เป็นผลงานของ "ฉลามนุ๊ก" รัฐพงศ์ ศิริสานนท์
นับตั้งแต่ปี 2002 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ไทยก็แทบจะไม่มีลุ้นเหรียญเลยจากกีฬาว่ายน้ำ จนมาถึง "เอเชียน เกมส์ 2018" ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 18 สิงหาคมนี้ ก็ทำให้เป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่ถูกพูดถึงน้อยมาก
กระนั้นก็ตามล่าสุดมีชื่อของความหวังใหม่อย่าง กศิภัทร ช่อกระถิน หนุ่มจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พกดีกรีแชมป์ประเทศไทย ล่าสุดก็เพิ่งไปคว้าเหรียญทองในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์สิงคโปร์ เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งรายการนี้เจ้าตัวสามารถทำลายสถิติประเทศไทยในท่ากรรเชียง 50 เมตร ด้วยเวลา 25.77 วินาที
แต่กว่าจะมาเป็น "ฉลามเบส-กศิภัทร" นั้นเจ้าตัวเล่าว่า "ผมเริ่มว่ายน้ำอย่างจริงจังตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะก่อนหน้านั้นเคยจมน้ำจนเกือบเสียชีวิต แต่คุณแม่มาช่วยไว้ได้ทัน แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่รู้สึกกลัวและยังสนุกกับการว่ายน้ำอยู่"
จากนั้น กศิภัทร ก็เริ่มเข้าสู่ทีมชาติไทยด้วยวัย 12 ปี ในชุดเยาวชน และโชว์ผลงานติดลมบนมาตลอดจนมีชื่อร่วมทีมชุดใหญ่ลุยมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่ด้วยวัยเพียง 15 ปี ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถหยิบเหรียญรางวัลติดมือกลับมาได้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาจนถึงวันนี้เด็กหนุ่มวัย 24 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซีเกมส์ 4 สมัย และเข้าร่วมศึกชิงแชมป์โลก 2015 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ภายใต้การดูแลของ "ฉลามเอ็กซ์" อาวุธ ชินนภาแสน และ "ฉลามเคน" ปภังกร อิงคนนท์ อดีตนักว่ายน้ำทีมชาติไทย
"ปัจจุบันผมเรียนปริญาโท อยู่ที่จุฬาฯ ทำให้ต้องแบ่งเวลาเรียนและฝึกซ้อม โดยจะได้พักสัปดาห์ละ 1 วันเท่านั้น แต่ก็ทำให้ได้เจอ โค้ชเอ็กซ์และโค้ชเคนที่เรียนด้วยกัน และสอนทักษะต่างๆ รวมถึงวิธีการคิดบวกจากผลแข่งขันที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง"
"แน่นอนการมีชื่อติดทีมชาติไทยเข้าร่วมเอเชียนเกมส์นับเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมากๆ เพราะเอเชียนเกมส์คือทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดระดับเอเชีย แม้การลุ้นเหรียญอาจจะยาก แต่ผมก็จะพยายามให้เต็มที่ จริงๆแล้วผมชอบท่าฟรีสไตล์ที่สุด แต่หลังๆ มักจะว่ายท่ากรรเชียงได้ดี จึงลงแข่งกรรเชียง 50 เมตร และ 100 เมตร ซึ่งประเภทนี้มีแชมป์โลกจากญี่ปุ่น จุนยะ โคกะ มาแข่งขันด้วย อีกทั้งยังมีนักกีฬาจาก เกาหลีใต้ และ คาซัคสถาน ที่ผลงานดีอีกเช่นกัน" นักว่ายน้ำเจ้าของส่วนสูง 178 เซ็นติเมตร กล่าว
จากที่เอ่ยมาทำให้ "ฉลามเบส" เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกคาดหวังให้ก้าวขึ้นมาแทนที่ตำนานนักว่ายน้ำไทยอย่าง "ฉลามนุ๊ก" รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ ซึ่งแน่นอนว่าผลงานที่ เอเชียน เกมส์ 2018 จะเป็นตัวตัดสินเอง
กศิภัทร ทิ้งท้ายว่า "ส่วนตัวผมเทียบผลงานของพี่นุ๊กไม่ได้เลย ส่วนหนึ่งคือเขาเก่งทุกประเภท ได้เหรียญรางวัลหลายประเภท ในขณะที่ผมถนัดเพียงประเภทเดียว แต่ก็ไม่ได้กดดันที่ถูกตั้งความหวัง เพราะตั้งใจทำตามเป้าหมายของตนเองในการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้ก่อน"
