คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ศึกมวยกรงรายการใหญ่ของเอเชีย One Fighting Championship จัดศึกใหญ่ “Reign of Kings” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยรายการนี้ทาง One FC ระดมยอดฝีมือมาอย่างคับคั่ง คู่เอกเอา “แชมป์เข็มขัดสองเส้น” มาร์ติน เหงียน มาชิงเข็มขัดรุ่นที่ 3 ในรุ่นแบนตั้มเวทในแบบ “เฉพาะกาล” แต่ไม่สำเร็จพ่ายนักสู้เจ้าถิ่นไป รวมถึงนักสู้ดังอย่างเอดวร์ด โฟลายาง ที่ขึ้นสังเวียนเรียกฟอร์มอีกทีเอาชนะคะแนนคู่ต่อสู้ไปได้ และศึกแห่งตำนานที่ดึงนักสู้ดังวัย 51 ปีจากตระกูล “เกรซี่” อย่าง เรนโซ่ เกรซี่ มาขึ้นสังเวียนกับยูกิ คอนโดะ นักสู้ระดับตำนานเหมือนกันชาวญี่ปุ่นวัย 43 ปี ซึ่งเรนโซ่ เกรซี่ ก็โชว์ฝีมือให้เห็นจับล็อกจนนักสู้ญี่ปุ่นยอมแพ้ไปในท่า Rear-Naked Choke แค่ยกสอง
รวมทั้งดึงนักสู้ไทยดาวรุ่งอย่าง “เพชฌฆาตหน้ายิ้ม” พงษ์ศิริ มิตรสาธิต ที่ก่อนหน้านี้ขึ้นสู้มา 9 ไฟต์ (กับ One FC 3 ไฟต์) ชนะรวด มาพบกับนักสู้ที่กำลังพุ่งแรงเหมือนกันชาวฟิลิปปินส์เจ้าถิ่น โจชัว แพ็คชิโอ ปรากฏว่างานนี้ “เจ้าเปี๊ยก” พงษ์ศิริ พลาดถูกจับเอามือดัดหลังต้องยอมแพ้ไปในยกแรก แล้วยังมีฉมวกทอง ไฟต์เตอร์มวยไทย นักมวยไทยแชมป์เข็มขัดหลายเส้น ขึ้นสังเวียนในกติกามวยไทยในรายการ One Super Series พอเป็นกติกามวยไทยแบบนี้นักชกไทยก็ยิ้มประเคนแข้ง เข่า ศอกใส่คู่ต่อสู้ชาวเนเธอร์แลนด์ก่อนเอาชนะคะแนนไปสบาย
แต่ที่แฟนๆ ชาวไทยรอคอย คือไฟต์ของนักสู้ MMA ตัวจริงขวัญใจชาวไทย “ตอง วันชิน” ชนนภัทร วิรัชชัย ที่คราวนี้ได้คิวขึ้นเป็นคู่รองเจอนักสู้ระดับตำนานที่เป็นขวัญใจวัยเด็กและเป็นแรงบันดาลใจให้ชนนภัทรรักกีฬาศิลปะการต่อสู้อย่าง ชินยะ อาโอกิ ที่แม้จะวัย 35 แล้วแต่ยังทั้งแกร่งและเก๋า งานนี้ขึ้นเวทีปุ๊บเจ้าตำรับเกมนอนสู้อย่างอาโอกิไม่ปล่อยให้ “ครูตอง” ได้ออกอาวุธตามที่ถนัดเข้าพยายามจับทุ่มทันที แม้ชนนภัทรจะพยายามขืนตัวสู้ได้ช่วงแรกแต่อาโอกิโชว์ฝีมือจอมนอนสู้เบี่ยงน้ำหนักตัวแล้วทุ่มล้มทำ “เทคดาวน์” ได้ทันทีแค่ 30 วินาทีแรก
พอลงพื้นปุ๊บเราก็เป็นรองทันที แม้นักสู้ไทยรายนี้จะถือว่ามีพื้นฐานเกมต่อสู้บนพื้นที่ดีมาระดับหนึ่งแต่มาเจอปรมาจารย์แบบนี้ก็ดิ้นไม่หลุด ชินยะ อาโอกิ โชว์เทคนิคระดับเทพอีกครั้งจากที่นอนกอดรัดกันอยู่ สามารถดันตัวขึ้นตั้งได้ พอถึงตรงนี้ “ตอง วันชิน” เป็นรองสุดกู่โดนตำนานนักสู้ญี่ปุ่นประเคนอาวุธทั้งหมัดทั้งศอกจนแตกยับ กรรมการยุติการต่อสู้ไปด้วยเวลา 2:16 นาทีในยกแรกนี้เอง ชนนภัทรพ่ายแบบไม่ครบยกเป็นครั้งแรก
ไฟต์นี้จริงๆ “ครูตอง” เตรียมตัวมาดีมาก เพราะรู้ตัวว่าโดนลากลงเล่นเกมบนพื้นแน่ แต่นักสู้ญี่ปุ่นโชว์ฝีมือและเทคนิคระดับปรมาจารย์จริงๆ จนชนนภัทรเปิดตำราไม่ทัน ถือว่าเป็นครูให้นักสู้ไทยเราได้เรียนรู้จากยอดฝีมือตัวจริงแบบนี้ ต่อไปก็จะได้รู้ทางรับมือ และต่อไปเจอนักสู้สายเกมบนพื้นก็จะได้ไม่ต้องเกรงกลัวแล้ว จะมีน่าเสียดายนิดหนึ่งก็ตรงที่ดูเหมือนชนนภัทรจะให้ความเคารพนักสู้รายนี้มากจนไม่แน่ใจว่าทำให้เสียสมาธิและความมุ่งมั่นกับเกมบนเวทีไปบ้างหรือเปล่า อย่างไรก็ตามทุกอย่างถือเป็นตำราเรียนให้นักสู้ไทยได้เอาไปพัฒนาตัวเองกลับมาเข้าฟอร์มให้ได้อีกครั้ง แฟนๆ รอเชียร์อยู่