เมซุต โอซิล เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ยืนยันว่า การถ่ายรูปคู่กับ ทายิป เออร์โดกาน ประธานาธิบดีตุรกี ในช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียจะเริ่มต้น ไม่ได้มันัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด
เมซุต โอซิล และ อิลคาย กุนโดกัน 2 ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน มีเชื้อสายตุรกีทั้งคู่ ซึ่งทั้งสองคนได้เดินทางไปเข้าพบกับประธานาธิบดีตุรกีที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในงานอีเวนต์การกุศลงานหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากรูปคู่ดังกล่าวระหว่าง โอซิล, กุนโดกัน และ เออร์โดกาน ทำให้เกิดประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล ถึงขนาดที่ สเตฟาน เอฟเฟนแบร์ก ตำนานดาวเตะทีมอินทรีเหล็ก เยอรมนี เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าควรตัดชื่อทั้งสองคนออกจากเยอรมนีก่อนลุยฟุตบอลโลก 2018 เลยทีเดียว
แต่ล่าสุด เมซุต โอซิล ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการผ่านสื่อโซเชียลของตัวเองอย่างทวิตเตอร์ ร่ายยาวถึงเหตุผลในการถ่ายรูปคู่ดังกล่าวกับประธานาธิบดีตุรกี โดยมีใจความสำคัญว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการเมืองแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่การไปออกอีเวนต์การกุศลทางการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่อย่างที่หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้
“หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ผมมีเวลาทบทวน และเวลาที่จะคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนหลัง ทำให้ผมอยากแบ่งปันความคิดและความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ก็เหมือนกับหลายๆ คน บรรพบุรุษของผมมีผ่านมามากกว่าแค่ประเทศเดียว ในขณะที่ผมเติบโตในเยอรมนี ครอบครัวของผมมาจากทางตุรกี”
“ผมมีหัวใจสองดวง ดวงนึงเป็นเยอรมันอีกดวงนึงเป็นตุรกี ในตอนเด็กๆ แม่ผมสอนให้ผมเคารพอยู่เสมอและอย่าลืมว่าผมมาจากไหน และนั่นยังเป็นสิ่งที่ผมตระหนักคิดมาจนถึงทุกวันนี้”
“ในเดือนพฤษภาคมผมได้พบกับท่านประธานาธิบดีเออร์โดกานที่ลอนดอน ระหว่างอีเวนต์การกุศลและการศึกษา”
“เราพบกันหนแรกในปี 2010 หลังเขากับอังเกล่า แมร์เคิลร่วมชมเกมเยอรมนีพบตุรกีที่เบอร์ลิน นับตั้งแต่นั้นมาเราก็ได้พบปะกันอีกหลายครั้งทั่วโลก”
“ผมตระหนักว่าภาพดังกล่าวทำให้เกิดเสียงตอบรับขึ้นมากมายในสื่อเยอรมนี และในขณะที่หลายคนกล่าวหาผมว่าโกหกหรือหลอกลวง ภาพที่เราถ่ายร่วมกันนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการเมืองเลย”
“เหมือนอย่างที่ผมบอกไป แม่ผมไม่เคยปล่อยให้ผมลืมต้นตระกูล, จุดกำเกิดและสิ่งที่ครอบครัวสืบทอดต่อกันมา”
“สำหรับผมแล้วการถ่ายรูปคู่กับท่านประธานเออร์โดกานไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรือเลือกตั้ง มันเป็นการแสดงความเคารพต่อบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่สูงสุดของประเทศครอบครัวผม”
“หน้าที่ของผมคือการเป็นนักฟุตบอลไม่ใช่นักการเมือง และการพบปะของเราก็ไม่ได้มีเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองเลย อันที่จริงแล้วเราคุยกันด้วยเรื่องเดิมที่เราคุยกันทุกครั้งเวลาเจอหน้ากัน นั่นคือฟุตบอล เพราะตอนเด็กๆ เขาก็เคยเป็นนักเตะ”
“ถึงแม้สื่อเยอรมนีจะบอกเล่าในสิ่งที่แตกต่างจากนี้ ความจริงคือหากไม่พบกับท่านประธานาธิบดีก็จะกลายเป็นการไม่ให้ความเคารพต่อต้นตระกูลผม ที่ผมรู้ว่าจะภูมิใจกับจุดที่ผมอยู่เป็นในทุกวันนี้”
“สำหรับผมแล้ว ไม่สำคัญเลยว่าใครคือประธานาธิบดี มันสำคัญที่ว่านั่นคือประธานาธิบดี”
“การให้ความเคารพต่อคนการเมืองคือมุมมองที่ผมมั่นใจว่าราชินีและเทเรซา เมย์นายกรัฐมนตรีคิดแบบนั้นเช่นกันในการต้อนรับเออร์โดกานที่ลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีของตุกรีหรือเยอรมนี การกระทำของผมก็ไม่ต่างกัน”
“ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นสิ่งยากจะเข้าใจ เพราะในวัฒนธรรมส่วนใหญ่แล้ว ความเป็นผู้นำด้านการเมืองถูกมองให้แยกจากตัวบุคคลไม่ได้”
“แต่ในเคสนี้แตกต่างออกไป ไม่ว่าผลลัพธ์การเลือกตั้งจะเป็นไปตามก่อนหน้านี้หรือการเลือกตั้งก่อนหน้านั้น ผมก็ยังจะคงถ่ายรูปเหมือนเดิม” โอซิล ร่ายยาวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว
ทั้งนี้ เมซุต โอซิล กำลังอยู่ในช่วงระหว่างปรีซีซั่นกับต้นสังกัด อาร์เซน่อล และเตรียมเดินทางมาลงเล่นฟุตบอลอินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปียนส์ คัพ 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยการดวลกับ แอตเลติโก มาดริด และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
The past couple of weeks have given me time to reflect, and time to think over the events of the last few months. Consequently, I want to share my thoughts and feelings about what has happened. pic.twitter.com/WpWrlHxx74
— Mesut Özil (@MesutOzil1088) 22 กรกฎาคม 2561