แฟนบอลฝรั่งเศส ราว 30 คน ได้รับบาดเจ็บท่ามกลางเหตุการณ์จลาจล หลังจบเกมรองรองชนะเลิศ ศึก ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเอาชนะ เบลเยียม 1-0 คืนวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม
กองเชียร์ “เลอ เบลอส์” รวมตัวกันบริเวณใจกลางเมืองนีซ เฝ้าลุ้นการแข่งขันผ่านหน้าจอ ทว่าก่อนสิ้นสุดเกมไม่นาน เกิดเสียงปืนดังสนั่นตามท้องถนน ทำให้ฝูงชนนับพัน ออกอาการตื่นตระหนก พยายามหลบหนีจนโต๊ะ-เก้าอี้หลายชุด ล้มระเนระนาด
อย่างไรก็ตาม พอเหตุการณ์คลี่คลายลง พบว่าเสียงดังกล่าว เกิดจากการจุดประทัดฉลองของสาวก “ตราไก่” จำนวนมาก ที่กำลังกินดื่มอยู่บนระเบียงบาร์
แหล่งข่าวภายใน รายงาน รถพยาบาลทั้งหมด 6 คัน รีบรุดมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อปฐมพยาบาลผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งส่วนใหญ่มีบาดแผลถลอก และวัตถุมีคมบาด
สเตฟาน ผู้อยู่ร่วมเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์ “นีซ มาแต็ง” สำนักข่าวท้องถิ่น “ผมอยู่บนระเบียงของผับ ตอนกรรมการเป่านกหวีดจบเกม แล้วผมก็เห็นคนมากมายวิ่งเข้ามา ดูเหมือนพวกเขามาจาก คูร์ ซาเลยา พากันกรีดร้อง ลูกค้าด้านนอกเข้ามาหลบด้านใน ตัวผมอยู่บนพื้นล้อมรอบด้วยโต๊ะ-เก้าอี้ที่พลิกคว่ำ”