การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 วันที่ 8 กรกฎาคม 2561 นัดที่ 22 ของฤดูกาล "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี เปิดแพท สเตเดียม รับการมาเยือนของ "ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี
เจ้าถิ่น “สิงห์เจ้าท่า”ทีมอันดับ 3 ของ “เซอร์เด็จ”จเด็จ มีลาภ ขาด เซร์คิโอ ซัวเรซ แต่ยังจัดชุดใหญ่ลงครบครัน เกมรับวาง เอเลียส ดอเลาะ คู่จับ ดาวิด โรเชล่า แดนกลางส่งทั้ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ , บดินทร์ ผาลา ศิวกร จักขุประสาท และ นูรูล ศรียานเก็ม โดยมี ดราแกน บอสโกวิช เป็นหน้าเป้า
ส่วนทีมเยือน”ค้างคาวไฟ”ได้ “โค้ชหนุ่ย”เฉลิมวุฒิ สง่าพล ประเดิมเกมคุมทีมเป็นทางการนัดแรก กองหลังใช้ ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ จับคู่กับ ยุทธพงษ์ ศรีละคร แดนกลางวาง สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ คู่กับ คัพฟ้า บุญมาตุ่น ส่วนแดนหน้าใช้ 3 ประสาน จอห์น บาจโจ้ , เอ็นจีว่า และ เนลสัน โบนีญ่า
เริ่มเกมมาแค่ 4 นาที ทีมเยือนทำเซอร์ไพร์บุกมานำก่อน จากจังหวะที่ คัพฟ้า บุญมาตุ่น ดักบอลได้กลางสนาม แล้วจ่ายให้ เนลสัน โบนีญ่า ทางซ้ายเข้าเขตโทษ แล้วล็อกหลบกองหลังเจ้าถิ่น ก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลเบียดเสาสองหนีมือ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ นายด่านเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย สุโขทัยขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 20 เควิน ดีรมรัมย์ ได้กระชากลากขึ้นมาทางกราบซ้าย แล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษ ไพโรจน์ เอี่ยมมาก นายด่านทีมเยือน พุ่งทุบออกมาเข้าทาง อดิศร แดงเรือง ซัดสวนตูมเดียว แต่บอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 30 โอกาลุ้นอีกครั้งของเจ้าถิ่นจากฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ซัดด้วยขวา ยัดเสาแรก แต่ ไพโรจน์ เอี่ยมมาก ยังยืนตำแหน่งดี เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 33 เควิน ดีรมรัมย์ ขึ้นมาทางซ้าย แล้วจ่ายต่อให้ บดินทร์ ผาลา ได้ลากตัดเข้าใน แล้วซัดเต็มข้อ แต่บอลพุ่งเข้าไปข้างตาข่าย
นาทีที่ 38 ดราแกน บอสโควิช เก็บบอลได้ แล้วแทงต่อให้ บดินทร์ ผาลา เข้าเขตโทษ ก่อนยิงยัดเสาแรกทันที แต่ ไพโรจน์ เอี่ยมมาก ยังพุ่งเซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 42 สุโขทัย ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ ไพโรจน์ เอี่ยมมาก ไปโดนใบแดง จากจังหวะที่ออกมาทำฟาวล์ ดราแกน บอสโกวิช
จบครึ่งแรก สุโขทัย ออกนำ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังแค่นาทีเดียว เจ้าบ้านเกือบตีเสมอได้ จากจังหวะที่ เควิน ดีรมรัมย์ ลากขึ้นมาทางซ้าย แล้วเปิดเรียดเข้ากลางไปให้ ดราแกน บอสโกวิช ได้ยิง แต่บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 55 จังหวะบอลยาวจากแดนหลัง เนลสัน โบนีญ่า เก็บได้แล้วทำชิ่งกับ เอ็นจีว่า หลุดเข้าไปซัด แต่บอลไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 75 เจ้าถิ่นมาตามตีเสมอได้ จากจังหวะที่ ศิวกร จักขุประสาท ได้เลี้ยงบอลจี้เข้าเขตโทษไปถึงเส้นหลังแล้วปาดเข้ากลาง และเป็น ศักดรินทร์ มิ่งสมร กองหลังทีมเยือนวิ่งมาสกัด แต่ผิดจังหวะทำให้บอลหลุดเข้าประตูไป การท่าเรือ ตีเสมอเป็น 1-1
นาทีที่ 82 จอห์น บาจโจ้ ได้กระชากลากเลื้อยขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจ่ายต่อให้ เนลสัน โบนีญ่า ได้ปั่นด้วยขวา แต่ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้
นาทีที่ 88 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ไปทำฟาวล์ เอ็นจีว่า ล้มลงในเขตโทษ และเป็น เนลสัน โบนีญ่า รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ สุโขทัย ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1
นาทีที่ 90 เจ้าถิ่นตามตีเสมอได้ จากจังหวะที่ ศิวกร จักขุประสาท ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ นายด่านทีมเยือนกะจังหวะพลาด ทำให้บอลหลุดเข้าประตูไปแบบง่ายๆ เจ้าถิ่นตีเสมอเป็น 2-2
จากนั้นทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกม การท่าเรือ เอฟซี เสมอ สุโขทัย เอฟซี 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดย "สิงห์เจ้าท่า" รั้งอันดับ 3 ของตารางต่อไป มี 44 คะแนน ส่วน "ค้างคาวไฟ" ยังคงรั้งโซนตกชั้นที่อันดับ 14 มี 26 แต้ม เท่ากับ โปลิศ เทโร เอฟซี แต่ลูกได้เสียเป็นรอง
รายชื่อตัวจริงทั้งสองทีม
การท่าเรือ เอฟซี : รัตนัย ส่องแสงจันทร์(GK) , เควิน ดีรมรัมย์ , ยูเซฟ เอเลียส ดอเลาะ (อาทิตย์บุตรจินดา น.62), ดาวิด โรเชล่า , นิติพงษ์ เสลานนท์ , ปกรณ์ เปรมภักดิ์(ชาคริต ระวันประโคน น.79 ) , บดินทร์ ผาลา ,อดิศร แดงเรือง (ทศพล ลาเทศ น. 46) , ศิวกร จักขุประสาท , นูรูล ศรียานเก็ม , ดราแกน บอสโกวิช
สุโขทัย เอฟซี : ไพโรจน์ เอี่ยมมาก (GK), เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร(กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ น. 44) , ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ , ยุทธพงษ์ ศรีละคร , ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด , จุง เมียง โฮ , สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ(ศักดรินทร์ มิ่งสมร น. 49) , คัพฟ้า บุญมาตุ่น , จอห์น บาจโจ้ , เอ็นจีว่า (ก้องนทีชัย บุญมา น.90) , เนลสัน โบนีญ่า