เอเดน อาซาร์ จอมทัพ เบลเยียม หวังฉวยโอกาสทอง ยกสถานะตัวเองสู่ระดับซูเปอร์สตาร์ หลัง คริสเตียโน โรนัลโด กับ ลิโอเนล เมสซี ล้มเหลว ศึก ฟุตบอล 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
ทั้งคู่สลับกันคว้ารางวัล "บัลลง ดอร์" เกียรติยศสูงสุดของนักฟุตบอลอาชีพรายบุคคล คนละ 5 สมัย นับตั้งแต่ปี 2008 อย่างไรก็ตาม อาร์เจนตินา ของ เมสซี กับ โปรตุเกส ของ โรนัลโด ต่างหยุดเส้นทางไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
ทำให้นักเตะรายอื่นๆ มีสิทธิ์ถูกจับตามองมากขึ้น อาทิ คีเลียน เอ็มบัปเป หัวหอกอนาคตไกล ฝรั่งเศส ซึ่งเหมา 2 ประตู เอาชนะ "ฟ้าขาว" อย่างดุเดือด 4-3 ที่เมืองคาซาน
โชเซ มูรินโญ กล่าวไว้สมัยกุมบังเหียน เชลซี เมื่อ 4 ปีที่แล้ว "โรนัลโด กับ เมสซี ก็คือ โรนัลโด กับ เมสซี บางที เอเดน อาซาร์ น่าจะเป็นนักเตะวัยหนุ่มที่ดีสุดคนหนึ่งของโลก แต่ต้องให้เวลาสักระยะ"
เพลย์เมกเกอร์วัย 27 ปี ยังไม่ประสบความสำเร็จทัวร์นาเมนต์ระดับชาติกับ "ปิศาจแดงแห่งยุโรป" ซึ่งถูกขนานนามว่า ยุคทอง ทำได้ดีสุดเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ เวิลด์ คัพ 2014 และ ยูโร 2016
อดีตผู้เล่น ลีลล์ แถลงก่อนพบ ญี่ปุ่น รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม "โรนัลโด กับ เมสซี ไม่ได้ลงเล่น เวิลด์ คัพ ครั้งนี้อีกแล้ว ดังนั้นมันถึงเวลาที่จะต้องแสดงให้ทั่วโลกประจักษ์ ผมต้องการไปถึงรอบ 8 ทีม และรอบรองชนะเลิศ"
ทีมของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และการประสานงานระหว่าง อาซาร์ กัปตันทีม , โรเมลู ลูกากู และ ดรีส เมอร์เทนส์ พิสูจน์แล้วว่า เป็นแนวรุกที่น่าเกรงขาม หลังทะลวงตาข่าย 9 ประตู จาก 3 เกมรอบแบ่งกลุ่ม