คาร์ลอส เคยรอซ กุนซือทีมชาติอิหร่าน ชี้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมหลังปล่อยให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงของ โปรตุเกส อยู่ในสนามต่อทั้งที่ชักศอกใส่ผู้เล่นของตัวเองในเกมที่เสมอ 1-1 จนทำให้ อิหร่าน เสียเปรียบและต้องตกรอบแบบเจ็บปวด
โปรตุเกส เก็บเพิ่มเป็น 5 แต้มหลังจบเกม เวิลด์ คัพ นัดสุดท้ายของกลุ่มบี โดยจะเข้าไปเจอกับ อุรุกวัย รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทว่า ในเกมที่ผ่านมา อิหร่าน ก็สู้แบบสุดตัวจนเกือบโค่น “ฝอยทอง” ที่รัสเซียได้ กระนั้น เคยรอซ ก็ไม่พอใจที่กัปตันทีมอย่าง CR7 ยังได้เล่นต่อทั้งที่ฟาวล์
โรนัลโด้ มีจังหวะฟันศอกใส่ มอร์เตซา ปูราลิกานิจ ในช่วงท้ายเกมซึ่งมีโอกาสสูงที่เจ้าตัวจะโดนใบแดงไล่ออกเมื่อผู้ตัดสินวิ่งไปดูภาพ VAR ข้างสนาม แต่สุดท้ายก็ควักแค่ใบเหลือง ทำเอา เคยรอซ มองว่าไม่ยุติธรรมเพราะหากอีกฝ่ายถูกไล่ ทีมของตนก็จะมีโอกาสมากกว่านี้
“ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้มาก มันเกี่ยวกับเรื่องของประเทศของผมและนักเตะ มันจะกลายเป็นสงคราม แต่ความเป็นจริงเมื่อคุณชักศอกใส่ใครสักคนจนต้องดู VAR มันต้องเป็นใบแดงตามกฎแล้ว ไม่ว่าคนทำฟาล์วนั้นจะเป็น ลิโอเนล เมสซี หรือ โรนัลโด้ ก็ตาม”
“เรายอมรับความผิดพลาด เพราะใครๆ ก็ทำเรื่องผิดพลาดได้ทั้งนั้นเช่นนักเตะ โค้ช หรือกรรมการ แต่บางครั้งมันก็มีเรื่องโชคเข้ามาและกลายเป็นว่าไม่มีใครต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้เลย และสำหรับผม VAR มันไม่ใช่สิ่งที่ดี มันมีการโต้เถียงกันเยอะมากตั้งแต่มีมัน”