เอเยนซี - ศึกฟุตบอลโลก 2018 ดำเนินมาถึงนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเริ่มวันที่ 25 มิถุนายนนี้ โดยกลุ่ม เอ รัสเซีย กับ อุรุกวัย ตีตั๋วน็อคเอาท์แน่นอนแล้ว เหลือวัดกันว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม เพื่อไปพบกับกลุ่ม บี ที่ สเปน, โปรตุเกส และ อิหร่าน ยังมีลุ้นเข้ารอบทั้งหมด
กลุ่ม เอ
รัสเซีย เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม 2 นัดยิงไปถึง 8 ประตูจากชัยชนะเหนือ ซาอุดิ อาระเบีย 5-0 กับ อียิปต์ 3-1 ซึ่งเกมรับก็ใช้ได้เสียแค่ลูกเดียวจากจุดโทษของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จากผลงานดังกล่าวทำให้เข้ารอบต่อไปแน่นอนแล้ว ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะมองข้ามเจ้าภาพ แต่ถึงตอนนี้แล้วรับรองถ้าเลือกได้ใครก็ไม่อยากจะเจอ
กระนั้นก็ตามต้องยอมรับว่า ซาอุฯ กับ อียิปต์ นั้นยังไม่แข็งแกร่งมากพอ ดังนั้นเกมเจอกับ อุรุกวัย ถือเป็นบททดสอบชั้นดี ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือรัสเซีย จะได้เห็นว่ามีอะไรต้องปรับอีกก่อนลงเตะรอบ 16 ทีมสุดท้าย
บททดสอบที่ว่านั้นก็คือ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน จอมทัพวัย 22 ปีที่เด่นเหลือเกินทำไปแล้ว 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ส แต่แมตช์นี้ต้องเจอกับ 2 ปราการหลังของ อุรุกวัย อย่าง ดิเอโก้ โกดิน กับ โฮเซ่ กิมิเนซ ที่มีทั้งความเก๋าและสด ดังนั้นก็ต้องงัดไอเดียปั้นเกมนำ รัสเซีย เจาะเข้าไปให้ได้ ส่วนคนที่จะมาสนับสนุนแข้งจาก ซีเอสเคเอ มอสโก ก็คือ เดนิส เชอริชอฟ ตัวรุก บียาร์ริล ที่ทำไปแล้ว 3 ประตูจนมีลุ้นดาวซัลโว หลังลงมาสำรองแทน อลัน ซาโกเยฟ ที่เจ็บตั้งแต่นัดแรก อีกคนก็คือหน้าเป้าอย่าง อาร์เต็ม ซูบา หอกความสูง 196 เซนติเมตรที่กดไปแล้ว 2 ประตู
กองหลัง รัสเซีย ก็ต้องเจอบททดสอบเช่นกันคือ อิลย่า คูเตปอฟ ดาวรุ่งวัย 24 ปีกับ เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช วัย 38 ปี ที่ต้องรับมือ อุรุกวัย ที่ถือว่ามีหนึ่งในคู่กองหน้าที่ดีที่สุดในโลกอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ กับ เอดินสัน คาวานี่
ข้ามมาดูทางฝั่ง อุรุกวัย ถือว่ายังเล่นไม่น่าประทับใจ แต่ว่าก็คว้าชัย 2 นัดรวดตามเป้าเหนือ อียิปต์ กับ ซาอุดิ อาระเบีย ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 พร้อมแสดงให้เห็นว่ามีแนวรับที่ใช้ได้กับการไม่เสียประตูเลย แต่ว่าก็อาจจะคล้ายกับ รัสเซีย คือยังไม่เจอกับคู่แข่งชนิดเขี้ยวลากดิน
ไม่ใช่แค่ รัสเซีย เจอกับบททดสอบอย่างที่กล่าวไปแล้ว เกมนี้ทางด้าน อุรุกวัย ก็ต้องเจอเช่นกัน โดยแบ๊กโฟร์ไล่ตั้งแต่ มาร์ติน คาเซเรส, โกดิน, กิมิเนซ และ กิลเยร์โม่ วาเรล่า ต้องรับมือการปั้นเกมทั้งซ้ายและขวาของ โกโลวิน กับ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ เพื่อป้อนบอลให้กับ ซูบา รวมถึง เชอริชอฟ
ออสการ์ ทาบาเรซ กุนซืออุรุกวัยชุดแชมป์ โคปา อเมริกา เมื่อปี 2011 อาจจะส่ง ลูคัส ตอร์เรร่า มิดฟิลด์พลังหนุ่มลงมาช่วยเก็บกวาดเพื่อให้งานเบาขึ้นก่อนไปถึงแบ๊กโฟร์ โดยนักเตะรายนี้มีฉายาว่า "พิตบูล" ก็น่าจะบอกสไตล์การเล่นได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเล่นให้ ซามพ์โดเรีย วัยกำลังห้าวแค่ 22 ปีเท่านั้น หรือไม่แน่ก็คงใช้ โรดริโก เบนตานคูร์ กับ มาเทียส เวซิโน่ ต่อไป
สุดท้ายถ้า อุรุกวัย ไม่อยากเหนื่อยเหมือน 2 นัดแรกที่ชนะแค่ 1-0 เท่ากัน โดยเฉพาะเกมแรกที่ได้ประตูนาที 89 จากการโหม่งของ กิมิเนซ ทางด้าน คาวานี่ กับ ซัวเรซ ต้องรีดฟอร์มโดยด่วน ซึ่งเป็นกองหน้า บาร์เซโลน่า ที่ยิงได้ในเกมชนะ ซาอุฯ ฤดูกาลที่ผ่านมาหอกของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยิงไป 40 ประตูรวมทุกรายการ ส่วนคู่ขานั้นยิงให้ บาร์ซ่า 31 ประตูรวมทุกรายการ
รัสเซีย กับ อุรุกวัย จะเตะกันตอน 3 ทุ่มตามเวลาไทย ณ คอสมอส อารีน่า ส่วนอีกคู่ ซาอุฯ กับ อียิปต์ เตะเวลาเดียวกันที่ โวลโกกราด อารีน่า ซึ่งขอไม่พูดถึง เพราะทั้งคู่ตกรอบไปแล้วจากการแพ้มา 2 นัดรวดเหมือนกัน