เอเยนซี - รัสเซีย ประเดิมสนามศึก ฟุตบอลโลก 2018 ชนิดประทับใจแฟนๆ ถล่ม ซาอุดีอาระเบีย ขาดลอย 5-0 ทว่า จะต้องเจอบททดสอบที่แตกต่างกับ อียิปต์ ที่จะใส่ชื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกความหวัง กลับมาเป็น 11 คนแรก และต้องการชัยชนะเพียงสถานเดียว เพื่อต่อลมหายใจ เข้าสู่รอบน็อกเอาต์
“หมีขาว” เตรียมลงสนามแมตช์ที่ 2 ของสาย เอ ที่เมือง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก วันอังคารที่ 19 มิถุนายน ซึ่งความปราชัยเกมนี้ อาจทำให้ อียิปต์ ทีมจากย่านแอฟริกาเหนือ ต้องแพ็กกระเป๋ากลับบ้านอย่างรวดเร็วก็เป็นได้ ขณะที่ รัสเซีย ก็ต้องการชนะ เพราะไม่อยากไปลุ้นผลที่มีความหมายกับ อุรุกวัย ในนัดสุดท้าย
เจ้าภาพ ยึดจ่าฝูงของกลุ่ม ด้วยผลต่างลูกได้-เสียที่ดีกว่า หลัง อุรุกวัย ตัวเต็งของสาย ต้องลุ้นถึงนาทีสุดท้าย กว่าจะเอาชนะ อียิปต์ แบบหวุดหวิด 1-0 จากลูกโหม่งของ โฆเซ กิมีเนซ ปราการหลังสังกัด แอตเลติโก มาดริด
อย่างไรก็ตาม เฮคตอร์ คูเปร์ กุนซือ “มัมมี่” ยังคงคาดหวังปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มอันดับ 2 จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเก็บ 3 คะแนนเต็ม และคาดว่าจะเรียกใช้งาน ซาลาห์ ตั้งแต่วินาทีแรก หลังถูกจับนั่งสำรองแมตช์เปิดสนาม
สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ เทรนเนอร์ รัสเซีย วางใจจอมเก๋าอย่าง เซอร์เก อิกนาเซวิช เซ็นเตอร์แบ็กวัย 38 ปี กับ ยูริ เซียร์คอฟ แบ็กซ้ายวัย 34 ปี ซึ่งหากยังยึดแผงเกมรับชุดเดิม ก็มีสิทธิ์ถูก ซาลาห์ และผองเพื่อนเล่นงาน
แม้ เซียร์คอฟ น่าจะเจอปัญหาหนัก รับมือความว่องไวของ ซาลาห์ ซึ่งอาศัยทีเด็ด ลากเลื้อยตัดจากริมเส้นฝั่งขวา สังหารประตูด้วยเท้าซ้ายสุดฉมัง ดังที่แสดงให้เห็นมาแล้วระดับสโมสร กับ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ประสบการณ์ของ อิกนาเซวิช คือ หัวใจสำคัญแนวรับ รัสเซีย ทว่าสังขารร่วงโรย กรณีถูก ซาลาห์ ดึงความสนใจ ก็อาจเปิดช่องว่างแก่ มาห์มูด ฮัสซัน ปีกซ้ายที่มีชื่อเล่นว่า “เทรเซเกต์” ซึ่งโชว์ฟอร์มโดดเด่นเกมแพ้ “จอมโหด”
ขณะเดียวกัน แชมป์ยูโร 1960 ภายใต้ชื่อ “สหภาพโซเวียต” ขาด อลัน ซาโกเยฟ เพลย์เมกเกอร์สังกัด ซีเอสเคเอ มอสโก บาดเจ็บจากเกมแรก คาดว่า เดนิส เชรีเชฟ ตัวรุกจาก บียาร์รีล ที่ยิง 2 ลูกนัดแรกในฐานะตัวสำรอง ทำหน้าที่แทน ผนึกกำลัง อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน จอมทัพวัย 22 ปีที่เด่นเหลือเกินยิง 1 กับ 2 แอสซิสต์ส
ส่วนโปรแกรมอีก 2 คู่ จะเป็นการประเดิมสนามของ กลุ่ม เอช ระหว่าง โคลอมเบีย กับ ญี่ปุ่น และ โปแลนด์ กับ เซเนกัล เวลา 19.00 น. และ 22.00 น. ตามลำดับ ซึ่งใครเริ่มต้นด้วย 3 คะแนนเต็ม ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เนื่องจากแต่ละชาติมีโอกาสทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ใกล้เคียงกัน