ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ช่วงปีที่ผ่านมาวงการมวยโลกกลับมาคึกคักอยู่ในกระแสความนิยมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการที่มีแชมป์โลกชาวไทย รวมถึงมวยโลกแต่ละสถาบันก็ฟัดกันมันหยดไล่ตั้งแต่รุ่นเฮฟวี่เวตลงมา ตลอดจนมีมวยกรง MMA จากค่าย UFC และ ONE Championship รวมถึงช่องทีวีเมืองไทยก็นำมวยไทยมาถ่ายทอดกันให้เพียบไม่เว้นแต่ละวัน
ล่าสุดเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงเกือบเช้าอีกวันมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยส่งตรงจากสังเวียน แมนเชสเตอร์ อารีน่า ประเทศอังกฤษ โดยเป็นการคัมแบ็กของนักชกรุ่นยักษ์ของเจ้าถิ่น ไทสัน ฟิวรี่ ที่ร้างเวทีผืนผ้าใบไปร่วม 3 ปีได้ฤกษ์เคาะสนิมกับ เซเฟอร์ เซเฟอรี่ จากอัลแบเนีย ซึ่งผลก็เป็นไปตามคาดคือ ฟิวรี อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตไล่ยำฝ่ายเดียวก่อนที่อีกฝ่ายจะเมาหมัดไม่ยอมออกจากมุมในยกที่ 4 และขอยอมแพ้ไปในท้ายที่สุด
สำหรับรายการดังกล่าวเป็นไฟต์จากฟากยุโรปเวลาก็คาบเกี่ยวช่วงดึกวันเสาร์จนถึงใกล้รุ่งเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งไม่เป็นมิตรกับชาวไทยเท่าไหร่ อย่างที่ได้เอ่ยไปแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนก็คือผู้ที่รับหน้าที่ถ่ายทอดสดเป็นทีวีออนไลน์อย่าง "ไลน์ ทีวี"
อย่างที่ทราบกันก่อนหน้านี้ "ไลน์ ทีวี" ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักจากการสร้างคอนเทนต์รับชมทีวีย้อนหลัง ซึ่งก็มีซีรีส์และรายการวาไรตี้ใหม่ๆ ให้แฟนๆ ได้ติดตามชมแบบสะดวกสบายผ่านทางโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก นอกจากนี้คนยังชอบเสพข่าวผ่านทางแอพพิเคชั่น "ไลน์" จนเรียกได้ว่าขยายฐานแฟนๆ ได้อย่างกว้างขวางภายในระยะเวลาไม่นาน
ที่ผ่านมา "ไลน์ ทีวี" เคยชิมลางถ่ายทอดสดกีฬามาแล้วไม่ว่าจะเป็น สนุ๊กเกอร์, มอเตอร์สปอร์ต และ ฟุตบอลกระชับมิตรต่างๆ รวมถึงมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ซึ่งทั้งหมดนี้บ้างก็ได้มาในราคาไม่แพงหรือแบบฟรีๆ จนกระทั่งมาถ่ายไฟต์ของ ฟิวรี่ นั้นก็เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่าพร้อมกระโดดเข้าร่วมถ่ายทอดสดกีฬาแบบเต็มตัว รวมถึงทุ่มเงินคว้าลิขสิทธิ์สำคัญๆ ระดับโลกก็เป็นได้
ช่วง 2-3 ปีหลัง ธุรกิจทีวีแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง ประกอบกับพฤติกรรมคนดูก็เปลี่ยนมาเสพสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ไลน์ ทีวี คือ ทีวีออนไลน์ การซื้อลิขสิทธิ์กีฬารายการใหญ่ๆ นั้นน่าจะไม่เข้าข่ายเงื่อนไขที่ต้องมีการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี หรือต้องมีช่องทีวีเป็นของตนเอง หากคิดจะคว้าสิทธิ์การแข่งขันระดับโลกมาด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถไปหุ้นซื้อลิขสิทธิ์จับมือกับถ่ายทีวีช่องใดช่องหนึ่งได้สบาย
โดยอีกหนึ่งที่ถือเป็นข้อได้เปรียบคือ ไลน์ทีวี มีฐานคนดูเยอะอยู่แล้วในฐานะ "นิว มีเดีย" ดังนั้นหากยังไม่พร้อมที่จะลงแรงลงเงินของตัวเองมากนัก ก็ยังมีพาร์ทเนอร์กว่า 161 ราย ครอบคลุมผู้ผลิตรายใหญ่ๆ รวมทั้งช่องรายการหลักๆ ไว้ได้เกือบครบ รวมไปถึงค่ายเพลง หนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ
ส่วนคอนเทนต์กีฬาได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ชื่อดังอย่าง GOAL สื่อฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และประเทศไทยเพื่อนำเอาบทความกีฬาที่น่าสนใจ วิดีโอสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันมาให้แฟนๆ ได้ชม และยังร่วมมือกับช่อง 8 และ Nine lives เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านกีฬาทั้งฟุตบอล, มวย, จักรยาน และกอล์ฟ อีกด้วย
ปัจจุบันมีคอนเทนต์กีฬามากมายหลายประเภท ดังนั้นเมื่อการแข่งขันสูงขึ้น โดยในอนาคตถ้าจะมี "ไลน์ ทีวี" เข้ามาเป็นผู้ท้าชิงรายใหม่ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการับชม เหนืออื่นใดเลยก็คือกำไรที่จะไปตกอยู่กับคนดูแบบเต็มๆ ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่ารัฐบาลจะช่วยหรือไม่หรือหน่วยงานเอกชนใดจะเข้ามาลงขันกันบ้าง