เอเยนซี - วันที่ 14 มิถุนายนนี้ศึก “เวิลด์ คัพ 2018” จะเปิดฉากขึ้นที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งแน่นอนทุกสายตาจับจ้องไปยังดาวเด่นอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เนย์มาร์ กระนั้นก็ตามเวทีนี้ก็เคยแจ้งเกิดดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการแล้วนักต่อนัก ดังนั้นเราจึงคัดเลือก 10 นักเตะที่มีโอกาสจะทำเช่นนั้นมาฝากกัน
อเล็กซานเดอร์ โกโลแวง (รัสเซีย) จอมทัพจากสโมสร ซีเอสเคเอ มอสโก มีข่าวว่า โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปดูฟอร์มถึงขอบสนามเมื่อช่วงต้นซัมเมอร์นี้ โดยแข้งวัย 22 ปีเกิดที่ คาลทาน เมืองใน เคเมโรโว โอบลาสต์ แคว้นปกครองตนเองตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย ซึ่งที่แห่งนี้เองเล่นฟุตซอลเป็นหลัก ทำให้เจ้าตัวมีทักษะโต๊ะเล็กติดตัวมาแต่เด็ก แน่นอนว่าหลายทีมจับตาดูใน เวิลด์ คัพ หนนี้ ถ้าเตะตาอาจจะทุ่มเงินดึงไปปั้นเกม
เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช (เซอร์เบีย) เป้าหมายของ แมนฯยู อีกราย ที่ว่ากันว่ามีค่าตัวสูงถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) ถ้าย้ายจาก ลาซิโอ โดยแข้งเซิร์บขึ้นชื่อเรื่องทักษะและเทคนิคที่ไม่เป็นรองชาติไหน แถมนักเตะวัย 23 ปีรายนี้หน่วยก้านดีสูงถึง 192 เซนติเมตรเลยทีเดียว
อลิเรซ่า ยาฮานบากช์ (อิหร่าน) จอมทัพของ เอแซด อัล์คมาร์ เล่นได้ทั้งเพลย์เมกเกอร์รวมถึงถ่างออกไปริมเส้น โดยฤดูกาล 2017-18 ที่ผ่านมาซัดไป 21 ประตูคว้าตำแหน่งดาวซัลโว เอเรดิวีซี ดัตช์ สไตล์ให้นึกถึง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ซูเปอร์สตาร์ของทีมชาติอียิปต์ ถือเป็นเลือดใหม่ของยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียที่พุ่งขึ้นมา ซึ่งชาตินี้ไม่เคยขาดดาวเด่นตั้งแต่อดีตที่มี อาลี เดอี, ยาวาด เนคูนาม, อาลี คาริมี่ และ เมห์ดี้ มาห์ดาวีเคีย
ปิโอเน่ ซิสโต้ (เดนมาร์ก) แข้งผิวสีของทัพ “โคนม” เพราะย้ายจาก อูกันด้า ถิ่นที่เกิดมาตั้งแต่อายุได้แค่ 2 เดือน ย้ายจาก มิดทิลแลนด์ มาเล่นให้ เซลต้า บีโก้ เมื่อปี 2016 ถือว่าเดินเกมทางกราบซ้ายได้จัดจ้านน่ากลัว ซึ่งฟุตบอลโลกหนนี้ก็ต้องมาดูว่าจะแบ่งเบาภาระของ คริสเตียน อีริกเซ่น ได้แค่ไหน
เดนิส ซากาเรีย (สวิตเซอร์แลนด์) แข้งผิวสีอีกราย โดยครอบครัวย้ายจากทางตอนใต้ของ ซูดาน ซึ่งกองกลางวัย 21 ปีลืมตาขึ้นมาบนแผ่นดินสวิส โดยหลังย้ายจาก ยัง บอยส์ เมื่อปี 2017 ก็เล่นให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ได้อย่างโดดเด่นบนเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน จุดเด่นก็คือมีความแข็งแกร่งและความเร็วจับคู่แผงมิดฟิลด์กับ กรานิต ชาก้า
ดาเนียล อาร์ซานี่ (ออสเตรเลีย) เจ้าของตำแหน่งนักเตะอายุน้อยที่สุดในศึกฟุตบอลโลกหนนี้ด้วยวัย 19 ปี 5 เดือน โดยเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกปัจจุบันค้าแข้งให้กับ เมลเบิร์น ซิตี้ ถ้าสั่งสมประสบการณ์มากกว่านี้หน่อยมีโอกาสที่จะก้าวไปเป็นตัวแทน ทิม เคฮิลล์ ล่าสุดอุ่นเครื่องเมื่อต้นเดือนมิถุนายนก็ซัดตุงแรกระดับซีเนียร์ไปแล้ว
เฮอร์วิ่ง โลซาโน่ (เม็กซิโก) หากเอ่ยชื่อ “จังโก้” ก่อนหน้านี้ทุกคนต้องนึกถึง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เฮอร์นานเดซ กับ เคาห์เตม็อก บลังโก้ แต่ปัจจุบันกำลังจะมีเลือดใหม่อย่างปีกสังกัด พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จุดเด่นของแข้งวัย 22 ปีคือเลี้ยงตัดจากริมเส้นเข้ากลางแล้วส่งบอลเข้าไปกองต้นตาข่ายดื้อๆ
อาชราฟ ฮาคิมี่ (โมร็อกโก) มีหลายคนบอกฟุตบอลโลกหนนี้ให้จับตามอง “ราชสีห์แห่งแอตลาส” ที่อาจเป็นม้ามืดก็เป็นได้ โดยหนึ่งในดาวเด่นน่าจับตาคือแบ๊กจาก รีล มาดริด วัยแค่ 19 ปีเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวได้เหรียญ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากการชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย รวมปีที่ผ่านมาเล่นชุดใหญ่ให้ “ราชันชุดขาว” 17 นัดรวมทุกรายการ เจ้าหนูรายนี้เองที่ ซีเนอดีน ซีดาน อดีตนายใหญ่สโมสรมหาอำนาจแห่งสเปน อุ่นใจถึงขนาดยอมขาย ดานิโล่ ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คริสเตียน ปาวอน (อาร์เจนติน่า) ดูจากรายชื่อซุปตาร์ “ฟ้าขาว” โอกาสที่ปีกวัย 22 ปีจะได้ลงสนามในฟุตบอลโลกหนนี้นั้นท่าจะน้อยเหลือเกิน กระนั้นก็ตามคนมันจะเกิดใครก็ฉุดไม่อยู่ ถ้าเกิดดาวเด่นเล่นไม่ออกถูกส่งลงสนามแทน โดยสไตล์คล้าย อังเคล ดิ มาเรีย มีข่าวว่า เบนฟิก้า จองตัวแล้วด้วย
อิสไมร่า ซาร์ (เซเนกัล) ตัวรุกดาวรุ่งจาก แรนส์ น่าจับตามองมากว่าจะประสานงานกับ ซาดิโอ มาเน่ ดาวเด่นของ ลิเวอร์พูล พาทีมไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลกหนนี้ โดยนักเตะวัย 20 ปีครั้งย้ายจาก เม็ตซ์ นั้นเคยปฎิเสธข้อเสนอจาก บาร์เซโลน่า มาแล้วด้วย