คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เห็นสีหน้าซึมแด่วของ เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ด คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ช่วงท้ายเกม 2 ทำให้เกิดความรู้สึกส่วนตัวว่า เหมือนๆ จะสิ้นหวัง หรืองานหนักที่ยังรออยู่ เพื่อต่ออายุ ที่สนาม ควิกเคน โลนส์ อารีนา อย่างน้อยก็เพื่อศักดิ์ศรี ไม่ให้ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส กวาดซีรีส์ รอบชิงชนะเลิศ ศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) แล้วหยามด้วยการฉลองแชมป์ในบ้านของตัวเอง
นับตั้งแต่ผู้สืบทอดบัลลังก์อย่าง คายรี เออร์วิง การ์ดจ่าย ขอแยกตัวเป็นศิลปินเดี่ยวให้ บอสตัน เซลติกส์ ทอดทิ้งภาระแก่ เลอบรอน ราชาที่กำลังเข้าสู่บั้นปลายของอาชีพ เค้นศักยภาพตัวเอง แทบจะข้ามขีดจำกัด ซูเปอร์ไซยา ก็อด กรำศึกครบ 82 เกม ครั้งแรกตลอดอาชีพ แถมขับเคี่ยวกับ อินเดียนา เพเซอร์ส และ บอสตัน เซลติกส์ ชนิดต้องตัดสินกันถึง 7 เกม ช่วงเพลย์ออฟ กว่าจะมายืนอยู่ ณ จุดนี้
2 เกมล่าสุด “คิงเจมส์” แสดงให้เห็นว่า ยังมีเรี่ยวแรงหลงเหลือ เดิมพันแหวนแชมป์วงที่ 4 ส่องรวม 80 แต้ม แต่สุดท้าย คาวาเลียร์ส ก็ยังมิอาจรอดพ้นความปราชัย และเผชิญสถานการณ์หลังพิงฝาอีกครั้ง เหมือนรอบชิงแชมป์สายตะวันออก พบ เซลติกส์ แตกต่างกันเพียงคู่ต่อสู้รอบชิงใหญ่ ดูจะแข็งแกร่งกว่า แชมป์ 17 สมัย อย่างมหาศาล
อย่างที่ทราบกันดี เซลติกส์ ขาด 2 ตัวหลักอย่าง กอร์ดอน เฮย์เวิร์ด ที่ข้อเท้าบิดตั้งแต่เกมเปิด เรกูลาร์ ซีซัน และ เออร์วิง แม้ทีมเวิร์กจะยอดเยี่ยม ก้าวมาทดแทนกันได้ พอจะเหลียวหาใครสักคนเป็นที่พึ่งยามวิกฤติ เจย์สัน เททัม , เจย์เลน บราวน์ รวมถึง แอล ฮอร์ฟอร์ด เซ็นเตอร์จอมเก๋า ก็ยังไม่ถึงจุดที่จะได้รับการขนานนามว่า ซูเปอร์สตาร์ อันแท้ทรู
ย้อนกลับมาประเด็น เลอบรอน ทำให้นึกถึง “เคอิจิ อานิยะ” ตัวเอก “Rookies” สมัยที่ผมยังบ้าโหลด “บิตทอร์เรนท์” หรือตามหาซื้อแผ่น DVD ซีรีส์ญี่ปุ่น เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความฝันของอันธพาลมัธยมปลาย เพื่อก้าวสู่สังเวียน “โคชิเอ็ง สเตเดียม” พร้อมกับสโลแกน “One For All” ผุดขึ้นในห้วงความคิด
โดย อานิยะ คือ เด็กวัยรุ่นทำตัวเกเร ประชดชีวิต นับตั้งแต่ความฝันสลายครั้งอดีต แล้วกลับใจหันมาเล่น เบสบอล ที่ตัวเองรัก แบกเพื่อนๆ ร่วมแก๊งค์ ไปให้ถึงการแข่งระดับประเทศ แม้ว่าหนทางจะลำบากสักเท่าไร เป้าหมายอย่างเดียวของผู้เล่นตำแหน่ง พิตเชอร์ มีเพียง สไตรก์ และ เอาท์ (ตีลูกไม่ถูก 3 ครั้ง) เท่านั้น เพื่อให้เพื่อนๆ ยังคงมีความหวังอยู่จนถึงวินาทีสุดท้ายแต่ละแมตช์
ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก เลอบรอน ที่ต้องดิ้นรนทุกอย่างแทนผองเพื่อน “แคฟส์” ทั้งทำคะแนน, รีบาวน์ด, แอสซิสต์ , บล็อก , สตีล และ บัญชาเกมด้วยตัวเอง แม้ว่าตัวเองจะต้องกลับมาเอาเท้าแช่อ่างน้ำแข็ง พร้อมกับประคบเย็นตรงหัวเข่า ส่งสัญญาณแฝงนัยยะ “อย่าปล่อยให้ ตรู เหนื่อยคนเดียว” ทว่ากลับตอบสนองด้วยความเฟอะฟะของ เจ.อาร์. สมิธ ช่วงท้ายเกม 1 และโดนถล่มยับเกม 2
ขณะที่ วอร์ริเออร์ส มีอาวุธมากมายคอยเล่นงาน คาวาเลียร์ส ทั้ง เคอร์รี , ดูแรนท์ , เคลย์ ธอมป์สัน และ เดรย์มอนด์ กรีน ส่องทั้งวงนอก รวมถึงเจาะใต้แป้น แถมยังมีตัวสำรองที่พึ่งพาได้มากกว่า ล่าสุดแว่วๆ มาว่า อังเดร อิกัวดาลา ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงฯ ปี 2015 กำลังจะหายเจ็บ กลับมาหยุด เลอบรอน อีกครั้ง ก็เปรียบได้กับสโลแกน “All For One” คือ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อแชมป์สถานเดียว
สมมติรอบชิงฯ NBA จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ แคฟส์ อย่างหมดรูป แล้วล่ะก็ ข่าวลือ เลอบรอน จะย้ายทีมแบบฟรีเอเยนต์ ย่อมถูกโหมกระพือขึ้นอีกรอบ ไม่รู้ว่าจะกล้าเหยียบย่ำจิตใจชาวเมืองคลีฟแลนด์ เหมือนปี 2010 หรือเปล่า อันนี้ก็ยากเกินคาดเดา เพราะตามสไตล์ของพี่แก พอนึกจะไป ก็ไปเอาเสียดื้อๆ