xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ "เสี่ยโบ๊ท” แห่งเพชรยินดี “มวยไทย” ใกล้ถึงคราอวสาน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เจ้าของค่ายเพชรยินดีรุ่นลูก
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เมืองไทยจะเต็มไปด้วยค่ายมวย เพราะคือกีฬาประจำชาติสร้างชื่อเสียงมานานนมดังไกลถึงระดับโลกจนผู้ที่หลงใหลต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาขอวิชา กระนั้นก็ตามปัจจุบันวงการเริ่มซบเซาด้วยปัจจัยต่างๆ มากมายจนเกิดคำถามที่ว่า “ใกล้ถึงคราอวสานแล้วหรือ?” ดังนั้นวันนี้เราลองไปคุยกับ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ แห่งค่ายเพชรยินดี

- จุดเริ่มต้นค่ายมวยเพชรยินดี
ค่ายมวยเพชรยินดี เริ่มต้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2520 โดย "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ เดิมทีเขาเริ่มเข้าสู่วงการนี้ด้วยการเข้าไปเล่นพนันมวยในเวทีมวยราชดำเนิน และเวทีมวยลุมพินี จนรู้จักบุคคลในวงการมากมายก่อนจะผันตัวมาตั้งค่ายมวยเป็นของตัวเอง จนพัฒนาขึ้นไปเป็นโปรโมเตอร์ประจำเวทีมวยลุมพินี และในปี 2537 ก็ได้มีธุรกิจมวยของตนเอง ในชื่อ "เพชรยินดี บ๊อกซิ่ง โปรโมชั่น"
นายใหญ่เพชรยินดี สมัยรับรางวัลโปรโมเตอร์ดาวรุ่ง
- ค่ายผู้สร้างชื่อให้แก่ยอดกำปั้นมากมาย
เพชรยินดี สร้างชื่อให้แก่นักมวยให้โลดแล่นและมีชื่อเสียงในสังเวียนมวยไทยอย่างมากมาย อาทิ "ไอ้คอมพิวเตอร์" ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ ที่เมื่อก่อนใช้นามสกุลเพชรยินดีกวาดแชมป์ในเวทีมวยลุมพินีมากมาย ก่อนหน้านี้เคยชกในสังเวียน "คุนหลุน ไฟต์" ที่ประเทศจีน เวทีเดียวกับ "บัวขาว บัญชาเมฆ" และปัจจุบันผันตัวมาขึ้นชกในเวทีมวยกรง "วัน แชมเปียนชิพ" หรือ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว อดีตแชมป์เวทีลุมพินี ปัจจุบันไปเป็นเทรนเนอร์อยู่ที่ "อีโวลต์ ยิม" ที่ประเทศสิงคโปร์ และล่าสุดเพิ่งคว้าแชมป์โลกมวยไทย ใน "วัน แชมเปียนชิพ" มาครอง รวมไปถึง น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว อีกหนึ่งเทรนเนอร์ในค่ายอีโวลต์ ที่สิงคโปร์ และคัมแบ็คกลับมาสร้างชื่ออีกครั้งในเวทีมวยกรง "วัน"

- ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนตามกาลเวลา
อย่างไรก็ตาม หลังบริหารงานมาถึง 40 ปี เมื่อปี 2560 "เสี่ยเน้า" บริหารงานมาจนถึงจุดอิ่มตัว และตนก็ชราภาพลงไปเรื่อยๆ จึงตัดสินใจส่งไม้ต่อให้ "โบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ บุตรชายคนโตที่ปัจจุบันอายุเพิ่งจะ 30 ปี เข้ามาบริหารงานค่ายมวยเพชรยินดีต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ "โบ๊ท" ทำหน้าที่เป็นโปรโมเตอร์เวทีมวยราชดำเนิน จึงไม่ใช่เรื่องยากของเขาที่จะเข้ามาดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อ จริงๆ โบ๊ท เข้ามาเริ่มทำงานในค่ายเพชรยินดีตั้งแต่ปี 2558 แล้วในบางส่วน ซึ่งเขาเพิ่งจะได้รับรางวัล "โปรโมเตอร์ดาวรุ่งยอดเยี่ยม" จากชมรมผู้สร้างสรรค์กีฬามวยแห่งประเทศไทย ถือเป็นโปรโมเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดของวงการมวย
สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ผลผลิตเพชรยินดี เจ้าของแชมป์โลกมวยไทย วัน แชมเปียนชิพ
- มวยไทยถึงคราวตัน คนหันหลังให้วงการและไม่เข้าเวทีมวย?
วันเวลาผ่านไปดูเหมือนว่าวงการมวยไทยผู้คนจะหันหลังให้กับเวทีมวยกันมากขึ้น จากเมื่อก่อนต้องเข้าไปเชียร์ติดขอบเวทีหลายพันคน แต่ปัจจุบันเหลือน้อยลงจนไม่ถึงหลักพัน เพราะส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังกันมาตลอดว่า "มวยไทย" เป็นเวทีแห่งการพนัน เต็มไปด้วยมาเฟียในสนามมวย บรรยากาศในนั้นไม่ค่อยดี และดูถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโทรทัศน์ดีกว่า เรื่องนี้ "โบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เจ้าของค่ายเพชรยินดีคนปัจจุบัน ให้ความเห็นว่า

"ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่มักติดภาพที่ไม่ดีในเวทีมวย คิดว่าเข้าไปแล้วมันต้องเล่นการพนัน ต้องพนันมวยอย่างเดียว คนถึงได้หันหลังให้เวทีมวยกันเยอะขึ้น จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ในเวทีมวยไม่ได้เต็มไปด้วยมาเฟียการพนันอะไรทั้งนั้น ถึงแม้จะยังมีอยู่แต่เขาก็มีขอบเขตของเขา ยุคนี้ผมจะบอกว่านักมวยไทยเราสู้กันสนุกกว่ายุคก่อนๆเสียอีก เรื่องของการล้มมวยถ้าเป็นเวทีที่ผมเป็นโปรโมเตอร์บอกเลยว่าไม่มีเด็ดขาด นักมวยทุกคนสู้กันอย่างสุดความสามารถก็เพื่อปากท้องของพวกเขาเอง สู้กันได้ใจแฟนมวยที่เข้ามาเชียร์" เสี่ยโบ๊ท เอ่ยปากถึงแฟนมวยในยุคปัจจุบัน
โปรโมเตอร์ประจำเวทีมวยราชดำเนิน
- จุดที่พีคที่สุดในยอดคนดูมวยในเวทีสมัยก่อน
"เมื่อก่อนคนเข้าเวทีมวยก็หลักพันครับ บางวันพีคๆหน่อยคนแน่นเลยก็ 3,000 ถึง 4,000 คนต่อวัน หรือวันธรรมดาก็ 1,000 ถึง 2,000 คน แต่ตอนนี้คนเข้าเวทีมวยไม่ถึงหลักพันแล้ว อย่างดีก็ 600-700 คน บางวัน 400-500 คนด้วยซ้ำ ก็อย่างว่าเด็กรุ่นใหม่หลายๆคนมองภาพเวทีมวยเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะพวกเขาอาจจะถูกปลูกฝังมาแบบนั้น ผมก็อยากให้คิดกันซะใหม่ ลองเข้ามาชมมาเชียร์กันดู ตอนนี้แม้แต่คนต่างชาติเองก็ลดน้อยลงไปพอสมควร จากเดิมพวกเขาเข้ามาเชียร์วันละ 400-500 คน ตอนนี้ต่างชาติก็เหลือประมาณวันละ 150-200 คนเท่านั้นเอง จะมองว่าค่าตั๋วเข้าชมแพงไปหรือไม่ ผมคิดว่าไม่นะ เพราะดูจากเรตราคาแล้วก็เพิ่มมาจากเดิมไม่เท่าไหร่"

- ตอนนี้ค่ายเพชรยินดีกำลังทำกิจการใดอยู่บ้าง ?
"ปัจจุบันค่ายเพชรยินดีก็เป็นโปรโมเตอร์ให้กับเวทีมวยราชดำเนิน แล้วแต่ไตรมาสที่เขากำหนดให้อย่างเช่น 5-10 วัน ในรอบ 2 เดือน อะไรแบบนี้ เมื่อก่อนเคยเป็นที่เวทีมวยลุมพินีสมัยที่ยังชกที่พระราม 4 แต่ตอนนี้พอย้ายไปรามอินทราเราก็ไม่ได้เป็นจัดการแล้ว ซึ่งตอนนี้ค่ายก็มีรายการชกทุกวันศุกร์ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 เป็นรายการมวยที่มีเรตติ้งสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากช่อง 7 สี และช่อง 3 ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ นอกจากมวยไทยเราก็ยังทำมวยสากลด้วย คือเรามี 2 ค่ายที่อยู่ในมือทั้งมวยไทย และมวยสากล แต่ที่ขึ้นชื่อมากกว่าก็คงจะเป็นมวยไทย"
เวทีมวยราชดำเนินอันเก่าแก่
- กลัวไหมที่ยุคนี้ค่ายมวยเกิดใหม่มากมาย เพชรยินดีจะอยู่อย่างไร ?
"แม้ตอนนี้จะมีค่ายมวยเกิดขึ้นมาใหม่มากมายแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อค่ายเพชรยินดีของเรา เพราะเราเป็นที่รู้จักในวงการมวยอย่างกว้างขวาง เราจัดมวยมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ปัญหาอย่างเดียวที่มันกำลังส่งผลก็คือจำนวนคนเข้าชมในเวทีมวยน้อยลงไปเยอะ และเดี๋ยวนี้โปรโมเตอร์ฝีมือดีหลายๆคนผันตัวไปทำอาชีพอื่น รวมถึงนักมวยไทยเก่งๆหลายคนก็เลิกชกเร็วกว่าเดิมและไปทำอาชีพอื่นกันหมด เพราะเขามองว่าอาชีพมวยมันอาจจะไม่มั่นคงอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามค่ายเพชรยินดีของเราผมยืนยันตรงนี้ว่ายังอยู่ได้ และไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น เราอยู่ในวงการนี้เหมือนพี่เหมือนน้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน" นายใหญ่ค่ายเพชรยินดี กล่าว

- ที่ผ่านมามีการคัดเลือกนักมวยเข้าสู่ค่ายอย่างไร ?
"ทางค่ายเราจะมีแมวมองมีทีมงานอยู่ตามต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นจังหวัดที่เป็นตัวแทนในการจัดการแข่งขันมวยไทย หรือมวยคาดเชือกต่างๆ แต่จริงๆเราไม่ค่อยเอาเด็กที่อายุน้อยๆมาปั้นเท่าไหร่ แต่เราจะเน้นคนที่เก่งแล้วจริงๆ มีชื่อเสียงพอสมควรในจังหวัดของเขาเอง ถ้าเราเห็นว่าคนนั้นเข้าตาเราก็จะไปคุยส่วนตัวกับเขา คุยกับครอบครัวของเขาเพื่อให้เข้ามาอยู่ในค่ายของเรา และเตรียมฟอร์มเพื่อขึ้นชกเวทีที่ใหญ่กว่าเช่นราชดำเนิน หรือลุมพินี บอกตรงๆเลยว่าเราไม่ค่อยรับคนที่วอล์คอินเดินเข้ามาสมัครเพื่อเป็นนักมวยโดยตรง ถามว่าทำไม คือมันเสี่ยงนะการที่เราจะต้องเสียเวลาปั้นเขาที่บางคนต้องเริ่มจาก 0 ยิ่งในวงการมวยสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยนี้เขาแข่งขันกันด้วยชื่อเสียง ความเก่งกาจ ถ้าขึ้นชกแล้วเปรี้ยงปร้างถือว่าสุดยอด เราจึงให้ความสำคัญกับนักมวยที่มีฝีมืออยู่แล้วมากกว่า แต่ถ้าถามว่ามีเด็กเขาสนใจและต้องการที่จะฝึกฝนมวยจริงๆ ก็มาได้ ถ้าเราเห็นในความตั้งใจและดูแล้วเขาจะไปได้ไกล เราก็ยินดี"

- "เสี่ยโบ๊ท" ฝากถึงแฟนมวยชาวไทย
"ก็อยากฝากถึงคนไทยแฟนมวยไทยให้ความสำคัญกับมวยไทยให้มากขึ้นเหมือนก่อน อย่ามองว่าเป็นวงการนี้เป็นแหล่งของการพนัน อยากให้มาลองสัมผัสกันในเวทีมวยจริงๆ ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วในหลายๆอย่าง ถ้าคนยังน้อยอยู่แบบนี้ เวทีหลายๆเวทีอาจจะอยู่กันไม่ได้ โปรโมเตอร์เก่งอาจถอยจากวงการไป นักมวยเก่งๆก็ไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ เขาก็อาจเปลี่ยนไปเล่นกีฬาอื่นหรือทำอาชีพอื่นกันหมด มีให้เห็นแล้วกับหลายๆคนที่ผ่านมา ก็อาจเกิดการอวสานขึ้นจริงๆก็ได้ใครจะไปรู้ ก็อยากฝากให้คนไทยรุ่นใหม่ลองมาสัมผัสดู ถ้าดูแต่ทีวีก็ไม่มีทางตอบโจทย์ได้ เพราะบรรยากาศอะไรต่างๆนาๆมันแตกต่างกันเยอะ ก็ขอฝากเอาไว้ตรงนี้ด้วย" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เจ้าของค่ายเพชรยินดีรุ่นลูก กล่าว

ไม่รู้ว่าต่อไปในอนาคตวงการมวยไทย และเวทีมวยต่างๆจะอยู่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้าแฟนมวยเอาแต่นั่งดูหน้าจอโทรทัศน์เฉกเช่นทุกวันนี้ เราอาจจะไม่มี "มวยไทย" ให้ได้ลุ้นได้เชียร์กันอีกต่อไป เหมือนอย่างที่นายใหญ่ค่ายเพชรยินดีกล่าวมาทั้งหมด...


กำลังโหลดความคิดเห็น