คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เว้นวรรคบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เสียนาน คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว ตามซีรีส์ บอสตัน เซลติกส์ 0-2 เกม รอบชิงชนะเลิศ สายตะวันออก กอปรกับประเด็นที่แฟนๆ น่าจะทราบกันดี เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ของแฟรนไชส์ กำลังจะกลายเป็นฟรีเอเยนต์ หลังจบซีซันพอดี เริ่มมีกลิ่นตุๆ ว่า สถานการณ์อาจซ้ำรอยปี 2010
เกมแรก อาจดูว่า เลอบรอน เล่นไม่ออก ส่องฟิลด์โกลเข้าเป้าแค่ 5 จาก 16 ครั้ง (31.25 เปอร์เซ็นต์) ยิง 3 คะแนนไม่ลงห่วงแม้แต่ลูกเดียว จากความพยายาม 5 ครั้ง ซัดแค่ 15 แต้ม 7 รีบาวน์ด 9 แอสซิสต์ เข้าสู่เกม 2 “คิงเจมส์” กลับมาโดดเด่น ซัด 21 แต้ม ตั้งแต่ควอเตอร์แรก และปิดฉากด้วย “ทริปเปิล ดับเบิล” 42 แต้ม 10 รีบาวน์ด 12 แอสซิสต์ แต่ก็ยังแพ้อีกจนได้
สาเหตุอาจเป็นเพราะ ฟอร์เวิร์ดวัย 33 ปี เกิดสะดุดเล็กน้อยช่วงควอเตอร์ 2 จังหวะโดนหัวไหล่ของ เจย์สัน เททัม อัดใส่กราม หน้าหันไปคนละทางจนคอเคล็ด ซึ่ง ไทรอนน์ ลู เฮดโค้ช อ้างว่าเป็นจุดเปลี่ยนเกม ทำให้ เซลติกส์ ปิดสกอร์เหนือกว่าชัดเจนครึ่งหลัง 59-39 พลิกจากตาม 7 แต้ม ช่วงพักครึ่ง เอาชนะไป 107-94
เมื่อ 8 ปีก่อน เลอบรอน และผองเพื่อน เคยเดินออกจากสนาม ทีดี การ์เดน แบบผู้ปราชัย 2-4 เกม รอบรองชนะเลิศ อีสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ ซึ่ง เซลติกส์ ยุคนั้นเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ดีกรีว่าที่ “ฮอลล์ ออฟ เฟม (หอเกียรติยศ)” อย่าง เควิน การ์เน็ตต์ , พอล เพียร์ซ และ เรย์ อัลเลน ปัจจุบันแม้จะขาด 2 ดาวดังอย่าง กอร์ดอน เฮย์เวิร์ด กับ คายรี เออร์วิง แต่ก็มีทีมเวิร์ก, เกมรับเหนียวแน่น และเกมบุกที่กระจายแต้มอย่างทั่วถึง อาทิ เททัม , เจย์เลน บราวน์ , แอล ฮอร์ฟอร์ด และ เทอร์รี โรเซียร์ ทดแทน
บทสรุปตอนนั้น เลอบรอน สร้างความโกรธแค้นแก่แฟนๆ แคฟส์ ด้วยการย้ายไป ไมอามี ฮีต แบบฟรีเอเยนต์ และทุกวันนี้ เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 4 สมัย ก็ยังตกเป็นเป้าหมายของ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส , แอลเอ เลเกอร์ส และ ฮูสตัน ร็อคเก็ตส์ ก็มีโอกาสที่ภาพเก่าๆ จะย้อนมาหลอกหลอนชาวเมืองคลีฟแลนด์ อีกครั้ง
ณ เวลานี้ อาจยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า แคฟส์ จะจอดป้ายแค่รอบชิงแชมป์สาย เพราะยังเหลือโอกาสแก้ตัวเกม 3 และ 4 ที่สนาม ควิกเคน โลนส์ อารีนา เพื่อเริ่มต้นซีรีส์กันใหม่เกม 5 ทว่า “บลีเชอร์ รีพอร์ต” สำนักข่าวของ สหรัฐอเมริกา ยกสถิติน่าสนใจมาว่า เซลติกส์ ไม่รู้จักคำว่าแพ้มา 37 ซีรีส์ติดต่อกัน หากขึ้นนำ 2-0 เกม จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า ชาวเมืองบอสตัน อาจได้ชมเกมชิงชนะเลิศ NBA ครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2010
หากเกิดขึ้นจริง เซลติกส์ ก็จะต้องเจอบททดสอบหฤโหด ไม่ว่าจะเป็น ฮูสตัน ร็อคเก็ตส์ หรือ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ที่มีเกมรุกดุดัน และจัดว่าเป็นของจริง แต่อย่างน้อยก็อาจได้เปรียบด้านสภาพร่างกาย เพราะ 2 ยักษ์ใหญ่ของสายตะวันตก น่าจะซัดกันสัก 6 เกม
ทิ้งท้ายไว้นิดหนึ่งว่า ตอน วอร์ริเออร์ส พลาดแชมป์ ทั้งที่ชนะสูงสุดของลีก 73 เกม สตีเฟน เคอร์รี การ์ดจ่ายแม่ทัพ มีอาการบาดเจ็บติดตัวมาเช่นกัน บางทีสภาพอาจจะยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พอถึงเพลย์ออฟ ถ้าเดินหรือวิ่งไหว สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช ย่อมถูกเข็นลงสนามเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะเค้นฟอร์มดีสุดได้หรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป