ศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ไทยลีก "ดิโอโก้" เหมาคนเดียว 2 ประตู พา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง เปิดบ้านเชือดนิ่ม เอสซีจี เมืองทองฯ 3-0 รับน้อง ราโดวาน เคอร์ซิช เฮดโค้ชป้ายแดงกิเลนผยอง เก็บเพิ่มสามแต้มเต็มหนี "แข้งเทพ" 5 คะแนน
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 ศึก "ฟรายเดย์ไนท์" วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2561 เกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าและอดีตแชมป์ 5 สมัย เปิดสนามช้าง อารีน่า รับการมาเยือนของคู่ปรับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ 4 สมัย
โบซิดาร์ บันโดวิช หวังพาทีมแก้ตัวต่อหน้าแฟนบอลในบ้านของตัวเองให้ได้ เนื่องจากนัดที่แล้วทีมเพิ่งบุกพ่าย "ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี 0-1 เป็นความพ่ายแพ้ 2 ใน 3 เกมหลังสุด ทำให้โดน "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ขยับแต้มจี้มาเหลือ 2 คะแนนเท่านั้น เกมนี้ค่อนข้างพร้อมในเรื่องของขุมกำลัง มีเพียง รัตนากร ใหม่คามิ ที่ยังบาดเจ็บและไม่มีชื่อ ส่วนคนอื่นๆอยู่กันครบ นำทัพโดย ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต, พรรษา เหมวิบูลย์, จักรพันธ์ แก้วพรม, ยู จุน ซู, สุเชาว์ นุชนุ่ม
ด้าน เอสซีจี เมืองทองฯ เพิ่งมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของหัวหน้าผู้ฝึกสอนโดยแต่งตั้ง ราโดวาน เคอร์ซิช อดีตเฮดโค้ชทีมชาติเซอร์เบีย เข้ามารับงานกุนซือใหญ่ และจะลงประเดิมคุมเกมนี้เป็นเกมแรก การจัดทัพ ได้ อดิศร พรหมรักษ์ ปราการหลังตัวเก่ง หายเจ็บกลับคืนสู่ทีมลงเล่น 11 ตัวจริงคู่กับ นาโออากิ อาโอยาม่า ส่วนแนวรุกมี เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดซ เป็นตัวความหวัง และมี ทริสตอง โด, สิโรจน์ ฉัตรทอง คอยช่วย
เริ่มเกมเป็นเจ้าถิ่นบุรีรัมย์ที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 25 จากจังหวะที่ ดิโอโก้ เปิดบอลจากเขตโทษฝั่งขวามาให้ ยู จุน ซู ขึ้นเทคโหม่งเข้าไป
หลังจากนั้นเกมยังคงเป็นของบุรีรัมย์ น.31 ก็มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะลูกฟรีคิก 25 หลา ของดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต โดยตัดสินใจซัดเต็มข้อ บอลพุ่งแรงจนประสิทธิ์ ผดุงโชค นายทวารกิเลนผยองปัดไม่ออก บอลปลิ้นเข้าประตูไป
เท่านั้นยังไม่พอสกอร์ของเจ้าถิ่นไหลอย่างต่อเนื่อง หนีห่าง 3-0 ในนาทีที่ 38 จากจังหวะที่แนวรับเอสซีจี เมืองทองฯ เคลียร์บอลกันไม่ขาด มาเข้าทางดิโอโก้ ที่จับบอลแล้วแตะหลบกองหลังกิเลนผยอง ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเลือดเย็น
หมดครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำห่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-0
ครึ่งหลัง "กิเลนผยอง" แก้เกมมาได้ดีขึ้น ครองบอลได้มากกว่าในครึ่งเวลาแรก มีโอกาสทำประตูใส่เจ้าถิ่นอยู่หลายครั้งแต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ "ปราสาทสายฟ้า" อาศัยการตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและรอจังหวะโต้กลับใส่ทีมเยือนได้น่ากลัวอยู่หลายครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้
น.86 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 4-0 จากจังหวะลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น "เจ้ามิงค์" กรกช วิริยะอุดมสิริ หลอกยิงฟรีคิกไปทางเสาสอง จน ประสิทธิ์ ผดุงโชค หลงทางพุ่งเซฟไม่ทัน
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำได้จังหวะหวาดเสียวแต่ขยับสกอร์กันไม่ได้ หมดเวลา 90 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ต้อน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 4-0 เก็บสามแต้ม มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ขยับหนีห่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็น 5 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วน เอสซีจี เมืองทองฯ รั้งอันดับ 7 ของตาราง มี 21 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), พรรษา เหมวิบูลย์, ประวีณวัชร์ บุญยงค์, อันเดรส ตูเนซ, กรกช วิริยอุดมสิริ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม, ยู จุน ซู, เอ็ดการ์ บรูโน่ ดา ซิลวา, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด: ประสิทธิ์ ผดุงโชค (GK), นาโออากิ อาโอยาม่า, อดิศร พรหมรักษ์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ทริสตอง สมชาย โด, วัฒนา พลายนุ่ม, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, สิโรจน์ ฉัตรทอง, เฮแบร์ตี เฟร์นันเดซ