xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์ VS. เมืองทองฯ “เซราะกราว” ขอกู้ฟอร์ม “กิเลน” ส่งโค้ชใหม่ล่าชัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดซ ความหวังของ กิเลนผยอง
ผู้จัดการรายวัน 360 - ซูเปอร์บิ๊กแมตช์โตโยต้า ไทยลีก 2018 ที่แฟนบอลทั่วไทยเฝ้ารอ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้าดวล "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เตรียมฟาดแข้งคืนวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคมนี้ โดยฝั่งเจ้าบ้านขอกอบกู้วิกฤติหลังฟอร์มสะดุดจนถูกรองจ่าฝูงเก็บแต้มจี้หายใจรดต้นคอ ด้านฝั่งผู้มาเยือน ประเดิมใช้เฮดโค้ชป้ายแดงชาวเซิร์บ บุกเก็บสามแต้มกลับบ้านเพื่อศักดิ์ศรี

ศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 14 ของฤดูกาล แชมป์เก่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สถานการณ์ในตารางคะแนนไม่สู้ดี มี 29 แต้ม ผลงานพ่าย 2 จาก 3 เกมล่าสุด เริ่มจากบุกพ่าย เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1 และแพ้ต่อ สุโขทัย เอฟซี 0-1 ส่งผลให้พวกเขาโดน "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ไล่จี้มาเหลือเพียง 2 คะแนนเท่านั้น

สภาพความพร้อมในเกมนี้ทีมต้องเช็คฟิต อันเดรส ตูเนส ปราการหลังตัวเก่งที่แม้จะหายเจ็บกลับมาลงสนามได้หลายนัด แต่ยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ กระนั้นก็คงต้องถูกเข็นลงไปช่วยทีม ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ดร็อป เอ็ดการ์ บรูโน่ ดา ซิลวา กองหน้าบราซิเลียนที่ช่วงหลังฟอร์มไม่ดี แต่แกนหลักคนอื่นๆยังอยู่กันครบ นำโดย ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต, จักรพันธ์ แก้วพรม, พรรษา เหมวิบูลย์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุภโชค สารชาติ และ ประวีณวัช บุญยงค์

แต่เหนืออื่นใด "ปราสาทสายฟ้า" มีเรื่องต้องกังวลเล็กน้อยในการจัดทีมเพราะกลางสัปดาห์มีเกมเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เปิดบ้านพบ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส จากเกาหลีใต้ ต้องวางแผนให้ดีเพราะรายการระดับเอเชียก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

ด้านผู้มาเยือน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ผลงานในลีกทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ถึงแม้จะไร้พ่ายมา 8 เกมติด แต่เป็นผลเสมอถึง 5 เกม ชนะเพียง 3 เกม ล่าสุดเปิดเอสซีจี สเตเดียม ไล่ตามตีเสมอ "ราชันมังกร" ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-2 ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือด้วยการแต่งตั้ง ราโดวาน เคอร์ซิช อดีตนายใหญ่ทีมชาติเซอร์เบีย ขึ้นกุมบังเหียนแทน "โค้ชใหม่" สันติ ไชยเผือก กุนซือชั่วคราวที่รับผิดชอบงานก่อนหน้า โดย "เคอร์ซิช" จะประเดิมคุมเกมนี้ทันที

สภาพทีม “กิเลนผยอง” เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย อย่าง อดิศร พรหมรักษ์, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, เจนรบ สำเภาดี, เซลิโอ้ ซานโตส, แจ็คสัน โคเอลโญ่, วัฒนา พลายนุ่ม ซึ่งหลายเกมที่ผ่านมาพวกเขาต้องใช้บริการดาวรุ่งลงเล่นมาโดยตลอดในหลายตำแหน่ง แต่ขุมกำลังตัวหลักคนอื่นยังพอมี นำโดย เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดซ ดาวยิงตัวความหวัง, สารัช อยู่เย็น, สิโรจน์ ฉัตรทอง, นาโออากิ อาโอยาม่า, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ประกิต ดีพร้อม, ทริสตอง โด

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในทุกรายการเฉพาะรายการอย่างเป็นทางการ ดวลกันมาทั้งหมด 24 นัด บุรีรัมย์ ดีกว่าเล็กน้อยเก็บชัยได้ 8 นัด เมืองทอง เก็บชัย 6 นัด เสมอกัน 10 นัด เกมล่าสุดเป็นการเจอกันในฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ในปี 2017 เป็น "กิเลนผยอง" ที่เก็บชัยได้ 2-0 แต่การเจอกันในเกมลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว บุรีรัมย์ เก็บชัยได้ในบ้าน และบุกไปเสมอที่เอสซีจี สเตเดียม 1-1 โดยการเจอกันในเกมลีก เฉพาะแมตช์ที่เล่นในบ้านของทีม "ปราสาทสายฟ้า" 7 เกมหลังสุด ปรากฎว่า "เมืองทอง" บุกมาเอาชนะได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ราโดวาน เคอร์ซิซ กุนซือ เมืองทอง นับหนึ่งด้วยการบุก บุรีรัมย์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สถิติเหนือกว่า แต่ไม่มาก
ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ดาวยิงตัวเก่งของ เซราะกราว


กำลังโหลดความคิดเห็น