โชเซ มูรินโญ กุนซือปากกล้า ออกมาเปิดใจกรณีที่ เชลซี ปล่อยตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ออกจากทีมว่าไม่ใช่ตน พร้อมแก้ต่างว่าตนเองเป็นผู้คว้าตัวดาวเตะอียิปต์รายนี้ และแม้จะเป็นดาวเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่สามารถยิง แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคตนได้
ภายหลังจากที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงชาวอียิปต์ ระเบิดฟอร์มสุดร้อนแรงกับ ลิเวอร์พูล ด้วยการพังประตูไปแล้ว 43 ประตู ในทุกรายการที่ลงแข่งขัน และยังนำทีม “หงส์แดง” จ่อเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018
อย่างไรก็ตาม ซาลาห์ เคยถูกดึงตัวจาก เอฟซี บาเซิล ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ มาค้าแข้งกับ เชลซี 1 ฤดูกาล ก่อนจะปล่อยให้ ฟิออเรนตินา ยืมตัว 1 ฤดูกาล และเป็น โรมา ที่ยืมตัวต่อ 1 ฤดูกาล ก่อนซื้อขาด และก็โดน ลิเวอร์พูล ซิวตัวกลับสู่พรีเมียร์ลีก และระเบิดฟอร์มสุดโหดตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่กลับมา
ซึ่งคนที่ถูกวิจารณ์ว่าปล่อยให้ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ หลุดมือไปคือ เชลซี และ มูรินโญ ที่ปัจจุบันนั่งเป็นกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยกุนซือชาวโปรตุเกส กล่าวถึงกรณี ซาลาห์ ว่า
“มันไม่ยุติธรรมที่มีคนพูดเกี่ยวกับผม คนพูดกันว่าผมเป็นคนที่ขายซาลาห์ออกจากทีม แต่มันตรงกันข้ามเลย ผมเป็นคนที่ซื้อซาลาห์ต่างหาก แต่ตอนที่ย้ายเข้ามาเขายังอายุน้อย สภาพร่างกายยังไม่พร้อม จิตใจก็ยังไม่พร้อม ในด้านสังคมและวัฒนธรรมเขาก็ยังไม่พร้อม และทุกอย่างเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับเขา เราตัดสินใจปล่อยเขาแบบยืมตัว ซึ่งเจ้าตัวเองก็เรียกร้องแบบนั้นเช่นกัน เขาต้องการลงเล่นมากๆ เพื่อจะได้เติบโตขึ้น เขาต้องการที่จะไปและเราก็ปล่อยเขาให้ฟิออเรนตินายืมตัว และที่ฟิออเรนตินาเขาก็เริ่มที่จะโต”
“ตอนนั้น เชลซี มีผู้เล่นอย่าง วิลเลียน และ อาซาร์ ที่ก้าวไปสูระดับสูง ดังนั้น เชลซี จึงตัดสินใจขายเขาออกไป ดังนั้น ใครมาพูดว่าผมขาย ซาลาห์ ออกไปมันเป็นเรื่องโกหก ผมเป็นคนนำเขามา และปล่อยยืมเท่านั้น”
“แต่ผมว่ามันไม่สำคัญแล้ว เพราะความผิดพลาดในโลกฟุตบอลมันมีให้เห็นมากมาย ซึ่งแม้ว่าเขาจะยกระดับขึ้นมาจนถึงตอนนี้ และสามารถยิงได้ทุกทีม แต่เขาก็ยิงประตู แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งที่เจอกันทั้ง 2 นัดไม่ได้” มูรินโญ กล่าวทิ้งท้าย