xs
xsm
sm
md
lg

ดีกรีแชมป์ลุมพินี 4 สมัย เปิดใจ “น้องโอ๋” ร้างเวที 3 ปี คัมแบ็คหวังสร้างชื่อมวยวัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว
ผู้จัดการรายวัน 360 - จากลูกชาวนาฐานะยากจนสู่นักมวยไทยอาชีพจนยกระดับฐานะครอบครัว "น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว" ดีกรีแชมป์ลุมพินี 4 สมัย เตรียมคัมแบ็คขึ้นสังเวียนมวยไทยอีกครั้งหลังหายไปราว 3 ปี พร้อมตะบันคู่แข่งอดีตแชมป์โลกมวยไทยชาวฝรั่งเศส

เชื่อว่าแฟนมวยไทยหลายคนต้องรู้จักชายที่ชื่อว่า “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” เพราะเขาคือหนึ่งในตำนานมวยไทยที่ยังไม่ได้หายไปไหน แม้ชายผู้นี้จะหายหน้าบนสังเวียนไปนานราวๆ 3 ปี แต่ยอดกำปั้นวัย 31 ปีรายนี้เตรียมคัมแบ็คมาโชว์ฝีไม้ลายมืออีกครั้งในเวทีมวย “วัน แชมเปียนชิพ”

เรื่องราวในอดีตของ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” เขาเกิดมาในครอบครัวชาวนาที่จังหวัดสกลนคร เริ่มต้นฝึกมวยไทยตั้งแต่ตอน 9 ขวบ ซึ่งเวลานั้นเขาเห็นเพื่อนบ้านเตะกระสอบทรายทุกวัน มันทำให้เขารู้สึกถึงความกระตือรือร้นในการที่จะฝึกฝนตัวเองให้อยู่ในเส้นทางนี้บ้าง เพราะมันคงเป็นทางเดียวที่จะยกระดับฐานะครอบครัวที่ค่อนข้างยากจนในตอนนั้น ตามความคิดของเขา

สำหรับ "น้องโอ๋" ฝึกฝนมวยไทยจริงๆจังๆได้เพียงเดือนเดียวก็ถูกจับส่งแข่งขัน จนกระทั่งอายุ 14 ปี ได้ย้ายออกมาหากินในเส้นทางมวยไทยที่กรุงเทพฯ ซึ่งเวลานั้นเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องประสบความสำเร็จให้ได้ เขาใช้เวลาฝึกซ้อมที่นี่แบบเต็มเวลา ใช้เวลาทั้งหมดทั้งกินนอนอยู่ในค่ายมวย

ถัดมาเพียงปีเดียวชื่อของนักชกรายนี้ ได้ปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชนในเวทีราชดำเนิน ขณะนั้นเจ้าตัวอายุเพียง 15 ปี และสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ตั้งแต่ไฟต์แรกที่ขึ้นชก เป็นการเอาชนะคะแนนคู่ต่อสู้ไปอย่างเป็นเอกฉันท์ หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มต้นชกมวยไทยเป็นอาชีพมาโดยตลอด

แม้เขาจะเริ่มจากการชกบนเวทีราชดำเนิน แต่ไปสร้างชื่อจริงๆในเวทีลุมพินีด้วยการเป็นเจ้าของแชมป์ที่เวทีนี้ถึง 4 สมัย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการได้แชมป์ในแต่ละไฟต์ รวมๆแล้วเขาผ่านสังเวียนมวยไทยมาราวๆ 300 ไฟต์ แต่แล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตอีกครั้ง มวยไทยอาชีพสามารถหาเลี้ยงตัวเขาเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อตอนช่วงอายุ 28 ปี เป็นช่วงที่เขาโดนอาการบาดเจ็บรุมเร้าทำให้เขาหายไปจากสังเวียนอยู่พักหนึ่ง ก่อนผันตัวไปเป็นเทรนเนอร์ฝึกสอนมวยไทยอยู่ที่ “อีโวลต์ ยิม” ในประเทศสิงคโปร์ตามคำชักชวนของรุ่นพี่

การร้างสังเวียนไปถึง 3 ปี ไม่ได้ทำให้ไฟในตัวเขาหายไปแต่อย่างใด และเมื่อได้รับโอกาสเขาก็คว้ามันเอาไว้ทันที หลังจากศึกการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสมอย่างรายการ “วัน แชมเปียนชิพ” มีแผนเปิดการแข่งขัน “วัน ซูเปอร์ ซีรีส์” โดย “น้องโอ๋” เปิดใจว่า

“แน่นอนว่าการเรื้อเวทีไปนานกว่า 3 ปี มันส่งผลต่อการชกของเราแน่ อาจจะมีช้าลงบ้าง หรืออาจจะเตะต่อยเบาลงไปบ้างหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องรอดู แต่ที่ผมไม่ได้ไปไหน ก็ไปเป็นเทรนเนอร์อยู่ที่อีโวลต์ ยิม สิงคโปร์”

“ผมฟิตร่างกายอยู่ตลอดโดยเฉพาะรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา พอรู้ว่าจะได้โอกาสกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งผมยิ่งซ้อมหนักเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นลูกพี่เขามาถามคนในยิมว่ามีใครอยากกลับมาชกมวยไทยไหมในเวทีมวยวัน ผมรีบตอบรับคนแรกเลย ตอนแรกเขาถามก่อนว่าอยากเล่น MMA ไหม แต่ผมบอกว่าไม่ ถ้าเป็นมวยไทยผมชกแน่นอน ผมชกได้ทั่วโลกด้วย ผมไม่กลัวใครเลย”

“ผมดูฟอร์มคู่แข่ง อย่าง ฟาบิโอ ปินค่า มาเยอะมาก เขาเป็นนักมวยที่เก่งคนหนึ่ง เป็นถึงดีกรีแชมป์มวยไทยด้วย และจริงๆเขารุ่นใหญ่กว่าผมด้วย แต่ก็ไม่หนักใจเพราะผมก็เตรียมตัวมาดีเช่นกัน จุดอ่อนเขาคือความคล่องแคล่วคงสู้ผมไม่ได้ อย่างไฟต์ล่าสุดนี่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาช้าจริงๆ”

ก่อนที่ตอนท้ายของการพูดคุย กำปั้นชาวไทยจะฝากขอกำลังใจจากแฟนมวยว่า “ก็อยากฝากถึงแฟนมวยชาวไทยส่งกำลังใจให้ผมด้วย ก็ห่างหายเวทีไป 3 ปี ไฟต์นี้คัมแบ็คกลับมาครั้งแรกก็จะทำให้ดีที่สุด”

ทั้งนี้กการชกระหว่าง "น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว" อดีตแชมป์มวยไทยเวทีลุมพินี 4 สมัย กับ ฟาบิโอ ปินค่า กำปั้นหมัดหนักชาวฝรั่งเศส ในศึก "วัน ซูเปอร์ ซีรีส์" วันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2561 ถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี ตั้งแต่ 20.30 เป็นต้นไป
แถลงความพร้อม
น้องโอ๋ สมัยครั้งเป็นยอดมวยไทย
ฟาบิโอ ปินค่า คู่ชกชาวฝรั่งเศสอดีตแชมป์มวยโลกมวยไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น