คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เป็นเรื่องฉาวโฉ่ไม่น้อยเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อนักสู้จอมโวชาวไอริช คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เจ้าของสถิติแชมป์ UFC 2 รุ่นในเวลาเดียวกันคนแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะไม่ยอมขึ้นป้องกันตำแหน่งเลยนับแต่ได้เข็มขัดมาจนโดนปลดไปทีละเส้นๆ ออกอาการซ่า อาละวาดทุ่มรถเข็นเข้าใส่รถบัสที่พานักสู้ที่มาร่วมงานแถลงข่าวรายการศึก UFC223 จนกระจกแตก มีนักสู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จนเจ้าตัวเองถูกออกหมายเรียกตัวก่อนจะเข้ามอบตัวและถูกตั้งข้อหาหนักสุดท้ายประกันตัวออกมาได้ด้วยหลักทรัพย์ 5 หมื่นเหรียญ
งานนี้แม็คเกรเกอร์จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวเลยแท้ๆ ตัวเองไม่มีโปรแกรมขึ้นสู้ แต่คู่เอกของรายการทาง UFC ประกาศว่าจะเป็นการชิงแชมป์รุ่นไลท์เวท เส้นที่แม็คเกรเกอร์เป็นแชมป์อยู่ แต่ทาง UFC ประกาศปลดแม็คเกรเกอร์ออกจากตำแหน่ง ทางนักสู้ไอริชที่ปกติได้ฉายาว่า “จอมฉาว” อยู่แล้วเลยเคืองมากบินมาจากเกาะอังกฤษเพื่อมาโชว์พาวงานนี้โดยเฉพาะ
เชื่อได้ว่าทางแม็คเกรเกอร์นั้นต้องโดนลงโทษอย่างรุนแรงไม่น้อย เพราะระบอบยุติธรรมในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ค่อยมีปัญหาว่ารวยแล้วไม่ติดคุก หรือคนดังไม่ติดคุก งานนี้น่าจะมีการ “เชือดไก่” รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งสารว่าให้คุณรวยแค่ไหนยิ่งใหญ่แค่ไหน ถ้าคุณทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ แต่ที่จะรุนแรงกว่านั้นก็น่าจะมาจากการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะระบอบยุติธรรมของสหรัฐอเมริกานั้นก็เอื้อต่อการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเหลือเกิน งานนี้เชื่อว่านักสู้เครางามน่าจะอ่วม เพราะคงโดนจากหลายฝ่าย ทั้งจากบาร์เคลย์เซ็นเตอร์ ที่เกิดเหตุ ที่ต้องเรียกร้องค่าเสียหายแน่นอน บรรดานักสู้ที่บาดเจ็บ หรือเสียขวัญ ก็เรียกร้องได้สบายๆ ทาง UFC เองที่ต้องปรับคู่ต่อสู้ให้วุ่นไปหมดเพราะมีนักสู้บาดเจ็บจากงานนี้ ก็เรียกค่าเสียหายได้ ว่าไปแล้ว คนดูที่เสียเงินซื้อตั๋ว เสียค่าเดินทางและที่พักเพื่อมาดูศึกนี้ ก็เรียกร้องค่าเสียหายได้เหมือนกัน
แต่ที่ตลกแบบขำไม่ออกคือทาง UFC เองถึงกับเผยแพร่คลิปวิดีโอของเหตุการณ์นี้ออกมาเองเลยทีเดียว ภาพคมชัด มุมกล้องให้อารมณ์ความรู้สึกทั้งอารมณ์ดุเดือดตอนที่แม็คเกรเกอร์ออกอาละวาดโจมตี อารมณ์ตื่นเต้นปนเครียดของนักสู้ที่อยู่บนรถ อารมณ์สับสนของประธานจอมสีสัน “ดาน่า ไวท์” ที่ประกาศแบนนักสู้จอมฉาวรายนี้ทันที (ดูคลิปได้ที่ http://www.ufc.com/media/UFC-223-Embedded-Vlog-Series-Episode-5 ) พอเป็นแบบนี้ทาง UFC ตกเป็นจำเลยสังคมทันทีว่างานนี้ “จัดฉาก” แหงๆ เพราะทาง UFC ตอนนี้กำลังขาดนักสู้แบบแม่เหล็ก ที่จะสร้างเรื่องฉาวๆ แบบนี้มาแย่งพื้นที่สื่อ แม็คเกรเกอร์เองช่วงหลังๆ เวลาก่อเรื่อง ก็เพื่อโปรโมทตัวเองมากกว่า โดยเฉพาะตั้งแต่ไปขึ้นสวมนวมแบบสากลฟาดกับ “นักชกไร้พ่าย” ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ โดนน็อกยก 10 แต่โกยเงินสะดือปลิ้น UFC เองก็ได้ส่วนแบ่งไม่น้อยในฐานะต้นสังกัด แต่ไม่ได้พื้นที่สือในการโปรโมท UFC
นักสู้ที่ UFC เรียกมาให้ขึ้นสู้เพื่อคว้าเข็มขัดเส้นนี้ของแม็คเกรเกอร์ (ซึ่งสุดท้ายก็ได้เป็นแชมป์จริงๆ) อย่างคาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ ฝีมือดีจริง แต่ขาดสีสัน ถ้าวันหนึ่งทาง UFC จะจัดให้นูร์มาโกเมดอฟได้ป้องกันเข็มขัดกับนักสู้ไอริชรายนี้ ก็ต้องสร้างเรื่องรอไว้ก่อน สรุปตอนนี้วงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม ก็ก้าวใกล้ความเป็นวงการมวยปล้ำ WWE เข้าไปทุกที มีการสร้างเรื่องความเป็นอริกัน มีการจัดฉากให้กระตุ้นเลือดลมคอซาดิสม์ เพื่อหวังผลตัวเลขรายได้ งานนี้จะได้คุ้มเสียหรือไม่ แฟนๆ ต้องติดตามกันต่อไป