จิอันลุยจิ บุฟฟอน นายทวารจอมเก๋า มิใช่นักเตะระดับโลกเพียงรายเดียว ซึ่งอกหักศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลังแนวรับ ยูเวนตุส ผิดพลาดช่วงทดเจ็บ เสียจุดโทษ เกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย เลก 2 ซึ่งบุกเอาชนะ รีล มาดริด 3-1 ทำให้สกอร์รวม 2 นัด พ่ายไป 3-4 ที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาบิว คืนวันพุธที่ 11 เมษายน
ล่าสุด “เดลี เมล” หนังสือพิมพ์หัวดังของเกาะอังกฤษ จัดทีมสุดยอดแข้งระดับพระกาฬ ภายใต้ระบบ 4-3-3 ที่ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี “บิ๊กเอียร์” ตลอดอาชีพอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกป้ายแดง แอลเอ กาแล็กซี, “โล้นทองคำ” โรนัลโด และ มิชาเอล บัลลัค อดีตจอมทัพดีกรีทีมชาติเยอรมัน
1. จิอันลุยจิ บุฟฟอน (ผู้รักษาประตู) - ประเดิมเฝ้าเสาถ้วยใหญ่สุดของสโมสรยุโรป สมัยเล่นให้ ปาร์มา พบ สปาร์ตา ปราก วันที่ 17 กันยายน 1997 ก่อนย้ายมา ยูเวนตุส ปี 2001 ผ่านรอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้ง ได้แก่ ดวลจุดโทษแพ้ เอซี มิลาน ปี 2003 ที่เมืองแมนเชสเตอร์, แพ้ บาร์เซโลนา 1-3 ปี 2015 ที่กรุงเบอร์ลิน และ แพ้ รีล มาดริด 1-4 ที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ ฤดูกาลที่แล้ว
2. ลิลิยอง ตูราม (กองหลัง) - ร่วมทีมเดียวกับ บุฟฟอน เมื่อปี 2003 แม้จะช่วยต้านทานเกมรุกของ “ปิศาจแดงดำ” ไว้ได้จนครบ 120 นาที แต่ ดาวิด เทรเซเกต์, มาร์เซโล ซาลาเยตา และ เปาโล มอนเตโร ทำให้ “เบียงโคเนรี” พบความปราชัย โดย ปราการหลังชาวฝรั่งเศส ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับสโมสรยุโรป คือ ยูฟา คัพ 1999 (ปัจจุบัน คือ ยูฟา ยูโรปา ลีก) ตลอดอาชีพค้าแข้งกับ โมนาโก, ปาร์มา ยูเวนตุส และ บาร์เซโลนา
3. ฟาบิโอ คันนาวาโร (กองหลัง) - ไม่เคยสัมผัสรอบชิงชนะเลิศ แม้จะเล่นให้ทีมชั้นนำของทวีป อาทิ ปาร์มา, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส และ รีล มาดริด ใกล้เคียงสุดเพียงรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2002-03 ซึ่ง “งูใหญ่” พ่ายแก่ เอซี มิลาน อริร่วมเมือง ตามกฎ “อเวย์ โกล (ประตูทีมเยือน)” แต่ก็เป็นหนึ่งในขุนพล “จัลโลบลู” ชุดแชมป์ ยูฟา คัพ ปี 1999
4. โลธาร์ มัทเธอุส (กองหลัง) - ผันตัวจากมิดฟิลด์ มายืนตำแหน่ง ลิเบอโร บั้นปลายอาชีพ เป็นหนึ่งในขุนพล บาเยิร์น มิวนิก ซึ่งปราชัยแก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเหลือเชื่อ 1-2 จากประตูของ เท็ดดี เชอริงแฮม กับ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ที่สนาม คัมป์ นู เมื่อปี 1999 เช่นเดียวกับรอบชิงชนะเลิศ ปี 1987 ที่เคยพ่าย เอฟซี ปอร์โต ท้ายเกมเช่นกัน และประกาศแขวนเกือก ก่อนหน้า “เสือใต้” ครองแชมป์ยุโรป ปี 2001
5. จอร์โต คิเอลลินี (กองหลัง) - เวลากำลังจะหมดลงเรื่อยๆ สำหรับ เซ็นเตอร์แบ็กวัย 33 ปี ที่จะไขว่คว้า แชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เคยพลาดลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ปี 2015 พบ บาร์เซโลนา เนื่องจากอาการบาดเจ็บ พอกลับลงมาเฝ้าแนวรับ ก็หยุดความร้อนแรงของ รีล มาดริด ไม่ไหว พ่ายไป 1-4 เมื่อปี 2017
6. ปาทริค วิเอรา (กองกลาง) - รับบทหัวใจสำคัญแดนกลางของ อาร์เซนอล ยุคไร้พ่าย ทว่าหอบข้าวของอำลาถิ่น ไฮบิวรี (รังเหย้าเดิม) ก่อน ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ปี 2006 แต่ก็โดน “เดอะ กันเนอร์ส” ทีมเก่า เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย สมัยเล่นให้ ยูเวนตุส แม้จะย้ายไป อินเตอร์ มิลาน ซึ่งคว้าแชมป์ ปี 2009-10 แต่ก็ลงเตะไม่พอ รับเหรียญรางวัล
7. มิชาเอล บัลลัค (กองกลาง) - สำแดงฝีเท้าระดับ แชมเปียนส์ ลีก 93 เกม ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง เริ่มจาก ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน เจอช็อตวอลเลย์สุดสวยของ ซีเนอดีน ซีดาน พ่ายไป 1-2 เมื่อปี 2002 และพ่ายจุดโทษแก่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างน่าเจ็บใจ ที่กรุงมอสโก ปี 2008 หลัง นิโกลาส์ อเนลกา ดาวยิงฝรั่งเศส กับ จอห์น เทอร์รี กัปตันทีม ยิงพลาด
8. พาเวล เน็ดเว็ด (กองกลาง) - “ยูเว” น่าจะฉลองแชมป์ หาก มิลฟิลด์จอมขยัน ไม่ติดโทษแบนรอบชิงชนะเลิศ ปี 2003 หลังถูกใบเหลืองช่วงท้าย พบ รีล มาดริด รอบก่อนหน้า เคยทะลุถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย “ยูซีแอล” กับ ลาซิโอ 1 ครั้ง และ “ม้าลาย” อีก 2 ครั้ง นอกเหนือจากปี 2003 ทว่าไม่มีถ้วยยุโรปติดมือ ยกเว้น ยูฟา คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1999 สมัยรับใช้ “อินทรีฟ้าขาว”
9. เฮร์นาน เครสโป (กองหน้า) - ใกล้เคียงสุด คือ รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2004-05 ซึ่งถูกปาฏิหาริย์ที่กรุงอิสตันบูล ตามหลอกหลอน เหมา 2 ประตู ช่วย มิลาน นำห่าง 3-0 ช่วงพักครึ่ง แต่ถูก ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 3-3 แล้วพ่ายจุดโทษ หลังมาได้ไกลสุดถึงรอบรองชนะเลิศ สมัยอยู่ อินเตอร์ มิลาน และ เชลซี
10. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กองหน้า) - ผ่านร้อนหนาวระดับ แชมเปียนส์ ลีก มายาวนานกับ อาแจ็กซ์ , ยูเวนตุส , อินเตอร์ มิลาน , บาร์เซโลนา , เอซี มิลาน , ปารีส แซงต์ แชร์แมง รวม 120 เกม น่าเสียดายที่ด่วนแยกทาง “บาร์ซา” ก่อนคว้าแชมป์ปี 2011 หลังถูก โชเซ มูรินโญ กุนซือ อินเตอร์ฯ เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ ปี 2010
11. โรนัลโด (กองหน้า) - กวาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย และประสบความสำเร็จมามากมาย ยกเว้น แชมเปียนส์ ลีก ระเบิดฟอร์มซัดแฮตทริกใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่พ่าย ยูเวนตุส มหาอำนาจลูกหนังแห่ง กัลโช เซเรีย อา รอบ 4 ทีมสุดท้าย
อาร์แซน เวนเกอร์ (ผู้จัดการทีม) - ตลอด 19 ซีซันกับ อาร์เซนอล ระดับ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ทำได้ใกล้เคียงสุด คือ รอบชิงชนะเลิศ ปี 2006 ซึ่งต้านทานสกอร์นำ 1-0 ไว้ไม่อยู่ ถูก บาร์เซโลนา พลิกสถานการณ์ช่วง 14 นาทีสุดท้าย ด้วยประตูของ ซามูเอล เอโต กับ ชูเลียโน เบเล็ตติ