ธีราทร บุญมาทัน ออกสตาร์ทเป็นตัวสำรอง แต่ยังได้โอกาสลงสนาม 9 นาที ก่อนที่ วิสเซล โกเบ จะมาพ่าย อูราวะ เรด ไดมอนส์ ไปแบบช็อกแฟนบอลทั้งสนาม 2-3 เพราะมาโดนยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ศึกฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น วันพุธที่ 11 เมษายน 2561 เป็นการแข่งขันในนัดที่ 7 ของฤดูกาล เกมที่น่าสนใจ วิสเซล โกเบ ต้นสังกัดของ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อูราวะ เรด ไดมอนส์
เกมนี้ ทาคายูกิ โยชิดะ กุนซือใหญ่ วิสเซล โกเบ ใส่ชื่อ "เจ้าอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน เป็นเพียงตัวสำรอง หลังจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์เจ้าตัวได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดยแนวรุกยังนำโดย ลูคัส โพดอลสกี้ อดีตดาวยิงทีมชาติเยอรมนี ส่วน อูราวะ ผลงานในปีนี้เริ่มต้นไม่ค่อยดี เกมนี้มีการหมุนเวียนผู้เล่นเล็กน้อย แต่ยังนำโดย ยูกิ มุโตะ ดาวยิงตัวเก่ง
เริ่มเกมกลายเป็นทีมเยือนอูราวะ เรด ไดมอนส์ ที่มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 24 จากการยิงของ ยูกิ มุโตะ กองหน้าตัวเก่ง และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังเจ้าถิ่นวิสเซล โกเบ แก้เกมมาได้ดี มาทำ 2 ประตูรวด แซงนำ 2-1 จาก เวลลิงตัน น.51, ไดจู ซาซากิ น.63
อย่างไรก็ตามทีมเยือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาไล่ตามตีเสมอ 2-2 จากการทำประตูของ ทาคูยะ อิวานามิ นาทีที่ 72
นาทีที่ 81 แฟนๆชาวไทยแอบเฮเล็กน้อย หลัง ธีราทร บุญมาทัน ถูกส่งลงสนามไปแทน วาตารุ ฮาชิโมโตะ ได้อยู่ในสนาม 9 นาทีไม่รวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์ 2-2 แต่แล้วช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2 กลายเป็นอูราวะ เรด ไดมอนส์ ที่มาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากการยิงของ เมาริซิโอ้ กองหลังชาวบราซิเลียน และในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันได้
จบเกมวิสเซล โกเบ พ่ายคาบ้านต่อ อูราวะ เรด ไดมอนส์ ไปแบบช็อกแฟนบอล 2-3 ทำให้พวกเขามี 8 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 9 ของตาราง ส่วน อูราวะ เรด ไดมอนส์ เก็บสามแต้มในวันนี้ขยับขึ้นไปมี 8 คะแนนเท่ากับ วิสเซล โกเบ แต่รั้งอันดับ 10 แม้ลูกได้เสียจะเท่ากันที่ -1 แต่ยิงประตูได้น้อยกว่า
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
วิสเซล โกเบ: คิม ซุง กิว, โซ ฟูจิตานิ, จุง วู ยัง, ไดกิ มิยะ, วาตารุ ฮาชิโมโตะ (ธีราทร บุญมาทัน น.80), นาโอยูกิ ฟูจิตะ, มาซาโตชิ มิฮาร่า, ลูคัส โพโดลสกี้, ยูตะ โกเกะ (ฮิโรทากะ มิตะ น.69), เวลลิงตัน, ไดจุ ซาซากิ (คาซูมะ วาตานาเบะ น.80)
อูราวะ เร้ดส์: ชูซากุ นิชิคาว่า, วาตารุ เอนโดะ, ทาคูยะ อิวานามิ, เมาริซิโอ, ไดกิ ฮาชิโอกะ, คาซูกิ นากาซาว่า, ทาคูยะ อาโอกิ (ไค ชิบาโตะ น.67), ไดสุเกะ คิคูชิ (แอนดรูว์ นับเบาต์ น.56), โยสุเกะ คาชิวากิ, ชินโซ โคโรกิ (ทาดานาริ ลี น.80), ยูกิ มูโตะ