คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เป็นข่าวฮือฮาเมื่อปลายๆ สัปดาห์ที่แล้ว ว่าทางคณะกรรมาธิการมวยอาชีพญี่ปุ่น หรือ JBC ออกมาประกาศไม่อนุญาตให้อดีตยอดแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทชาวไทย “เจ้ากร” พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม วัย 40 ปี หวนคืนสังเวียนผ้าใบทำศีก “ย้อนยุค” กับยอดแชมป์โลกชาวญี่ปุ่นคู่ปรับเก่าอย่าง “โกกิ คาเมดะ” ที่เด็กกว่าถึง 9 ปี หลังจากโปรโมเตอร์ญี่ปุ่นทาบทามนักชกไทยไปชกในไฟต์พิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตยอดแชมป์ชาวญี่ปุ่นรายนี้ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้
โดยอดีตแชมป์โลกชาวไทยนั้นร้างสังเวียนมาร่วม 5 ปีแล้ว (ไฟต์สุดท้ายขึ้นชกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2556 หรือ 2013) ประกอบกับอายุอานามที่ปาเข้าไป 40 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าผิดระเบียบของ JBC ที่จะออกใบอนุญาตให้ ทำให้ไฟต์นี้มีเค้าว่าจะต้องเป็นหมัน “เจ้ากร” ก็อาจชวดค่าตัวถึง 1 ล้านบาทที่ทางญี่ปุ่นเสนอมาให้ ถือว่าน่าเสียดายเหมือนกัน ล่าสุดทางโปรโมเตอร์ค่ายเพชรยินดี “เสี่ยตังค์” ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ประกาศว่าจะนำ “เจ้ากร” ไปตรวจร่างกายในวันที่ 10 เมษายนนี้ และส่งผลการตรวจร่างกายไปให้ทาง JBC เพื่อยืนยันว่านักชกไทยร่างกายเต็มร้อย
งานนี้ต้องบอกจริงๆ ว่า “อย่าดีกว่า” เพราะพงษ์ศักดิ์เล็กนั้นช่วงท้ายๆ การชกอาชีพ ก็แสดงอาการ “เมาหมัด” มาให้เห็นแล้ว คางเปราะ เจอหมัดถากๆ ก็มีอาการเอียงอาการวูบ สถิติที่สร้างมาสวยหรูช่วงชกแรกๆ มามีรอยด่างช่วงท้ายๆ รวมแล้วพ่ายถึง 5 ไฟต์ เป็นการพ่ายน็อกถึง 3 ไฟต์ (ไฟต์นึงตอนไต่อันดับ แต่อีก 2 ไฟต์หลังพ่ายช่วงท้ายๆ อาชีพแบบหมดสภาพ) รวมถึงวัยที่ปาเข้าเลข 4 แล้ว และห่างเหินจากการฟิตซ้อมมานาน ต่อให้คราวนี้ตั้งใจทุ่มเทแค่ไหนยังไงก็ไม่เหมือนเดิมแน่
ในฐานะแฟนมวย มุมนึงก็ดีใจแทนนักชกไทยเราที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับขนาดทางญี่ปุ่นมาทาบทามให้ไปชกเป็นเกียรติ แถมให้ค่าตัวที่เรียกได้ว่า “สมเกียรติ” เลยทีเดียว แต่ถ้าดูลึกๆ แล้วคิดว่าน่าเป็นห่วงมากกว่า ต้องยอมรับว่าทางญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ก้าวหน้ากว่าเราในหลายๆ ด้าน รวมทั้งด้านการดูแลพลเมืองของเขาเองด้วย ดังนั้นการที่ JBC ตั้งเงี่อนไขมาแบบนี้เชื่อว่าน่าจะมีการศึกษามาอย่างดีแล้วว่าจะเป็นอันตราย โดยเฉพาะกับกีฬาต่อสู้แบบนี้ ดังนั้นขอทักท้วงไว้ตรงนี้ว่า “อย่าเลย” พงษ์ศักดิ์เล็ก