คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ถึงตอนนี้ ต้องชวนแฟนๆ ติดตามลุ้นศึกมวยโลกคู่ยักษ์กันอีกที ที่ลุ้นนี่คือลุ้นให้ศึกหมื่นล้านเหล่านี้ระเบิดขึ้นให้ได้ก่อนนะครับ แล้วค่อยไปลุ้นการชกในแต่ละไฟต์อีกที เพราะตอนนี้ศึกใหญ่ๆ ที่ว่าแน่ๆ ทั้งหลายเริ่มไม่แน่อีกแล้ว
ว่ากันที่มวยโลกรุ่นยักษ์อย่างเฮฟวี่เวทก่อน เมื่อรุ่งสางวันอาทิตย์ในบ้านเรา “เอเจ” แอนโธนี่ โจชัว แชมป์เข็มขัด 3 เส้นชาวอังกฤษ ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้สำเร็จตามความคาดหมาย เอาชนะแชมป์ไร้พ่ายสถาบัน WBO ชาวนิวซีแลนด์ โจเซฟ ปาร์คเกอร์ ไปได้ด้วยคะแนนแบบเอกฉันท์ แถมคะแนนห่างสุดกู่ 118-110 จากกรรมการ 2 ท่าน และ 119-109 จากกรรมการอีกท่านหนึ่ง เพิ่มเข็มขัดมาคาดที่เอวเป็นเส้นที่ 4 ต่อจาก 3 เส้นแรกคือของ WBA, IBF และสถาบันย่อมๆ อย่าง IBO
ไฟต์นี้เป็นไฟต์แรกที่ “เอเจ” กล่อมคู่ชกไม่ลง ต้องยืดเยื้อมาถึงกรรมการให้คะแนน ทั้งนี้เป็นเพราะทางแชมป์ WBO นั้นวางแผนมาลากเกมยาวโดยเฉพาะ ด้วยการอยู่วงนอกและอาศัยหมัดแย็ปอย่างเดียว จนแชมป์ชาวอังกฤษทำอะไรไม่ถนัด อีกปัจจัยคือกรรมการชาวอิตาเลียนที่คอยเข้ามาแยกและหยุดเกมเป็นระยะๆ ทำให้เกมการชกสะดุดเสียจังหวะโดยไม่จำเป็นหลายที จนโจชัวไม่สามารถไล่ต้อนปาร์คเกอร์เพื่อออกหมัดเด็ดๆ ได้ถนัด ชนิดจบการชกผู้ชมกว่า 25,000 คนในสังเวียนมิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม ที่ปัจจุบันใช้ชื่อว่ามูนิซิปาลิตี้ สเตเดี้ยม ในกรุงคาร์ดิฟฟ์ ส่งเสียงโห่กรรมการเป็นเสียงเดียวกัน
จบการชก ทางฝั่งของ “เอเจ” ก็ท้าทายไปยังแชมป์ของ WBC คือ “ไอ้ลูกระเบิดบรอนซ์” ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ จอมพลังหมัดหนักชาวอเมริกันที่เพิ่งน็อกราชาน็อกเอาท์ชาวคิวบาอย่าง “ไอ้คิงคอง” หลุยส์ ออร์ติซ ทันทีว่าให้มาเดิมพันรวบแชมป์กันเลย ฟังแบบนี้แฟนๆ ก็เนื้อเต้นว่าไฟต์ในฝันน่าจะพร้อมระเบิดขึ้นทุกเมื่อ แต่พอฟังประโยคต่อไปแล้วก็สะดุดทันที เพราะทางค่ายของ “เอเจ” บอกว่า “แต่ต้องมาชกกันในอังกฤษเท่านั้น!!!” แบบนี้ไฟต์นี้กลายเป็นเรื่องยากทันที ทางฝ่าย “เอเจ” นั้นมีอำนาจต่อรองเหนือกว่า เพราะมีเข็มขัดสถาบันหลักถึง 3 เส้น รวมทั้งการชกในอังกฤษ 3 ไฟต์ที่ผ่านมาเรียกคนดูได้ไฟต์ละ 80,000 คนตลอด แต่ฟอร์มหลังของไวล์เดอร์นั้นติดตราตรึงใจแฟนมวยมากกว่าแน่นอน รวมทั้งไฟต์นี้ทางโจชัวก็ฟอร์มไม่ดี ทำอะไรไม่ได้ จนเสียสถิติน็อกรวดอีกต่างหาก ทางแชมป์ชาวอเมริกันก็อ้างทันทีว่า “มวยอย่างเอเจนั้นไม่มีอะไร แค่เจอออร์ติซ (ที่ไวล์เดอร์ชนะน็อกมาแบบดุเดือดเลือดพล่าน) ก็คงเสร็จแล้ว ไม่ครณามือไวล์เดอร์หรอก ตอนนี้เลยต้องมาลุ้นกันว่าถ้าทั้งสองฝ่ายมัวแต่สร้างอำนาจต่อรองกัน ลากยาวกันไป แฟนๆ อาจต้องรอมวยคู่นี้กันไปอีกนาน
ส่วน “บิ๊กไฟต์” อีกคู่ที่อุตส่าห์ลงเวลาไว้แน่ๆ แล้วว่าเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม คือศึกรุ่นมิดเดิ้ลเวทระหว่าง “สามจี” เกนนาดี้ โกลอฟกิน กับ “ไอ้หัวขิง” ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ ที่เตรียมล้างตากัน ก็เกิดความไม่แน่นอนขนาดทางผู้จัดประกาศคืนเงินค่าตั๋วให้คนที่ซื้อล่วงหน้าแล้ว เพราะเจ้า “กาเนโล” ดันตรวจเจอสารกระตุ้นในเลือดเข้า แม้ทางอัลวาเรซจะบอกว่าน่าจะมาจากเนื้อสัตว์ที่กินเข้าไป และมีสารสเตียรอยด์อยู่ ซึ่งเป็นเพียงปริมาณเล็กน้อย เรียกว่าไม่ได้ตั้งใจโด๊ป เป็น “ความบกพร่องโดยสุจริต” แต่ตอนนี้ทางกรรมาธิการกีฬารัฐเนวาด้า ที่สังเวียน ที-โมบายล์ อารีน่าตั้งอยู่ เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และประกาศว่าจะตัดสินในวันที่ 18 เมษายน ซึ่งกระชั้นกับเวลาชกมาก แม้นักชกทั้งคู่จะเตรียมตัวต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าต้องรบกวนสภาพจิตใจของทั้งคู่ไม่น้อย รวมทั้งหากคำตัดสินว่า “กาเนโล” โด๊ปจริง ไฟต์นี้ต้องถูกระงับแน่นอน ทาง “สามจี” ตอนนี้เตรียมหาคู่ชกรายใหม่ไว้แทนแล้ว ส่วนแฟนๆ ก็เตรียมแห้วได้เลย