“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย ชุด U-21 แอบหวังทุกสโมสรให้ความร่วมมือปล่อยแข้งเข้าร่วมฝึกซ้อม ไม่แคร์มติที่ประชุมสมาคมฯจะส่งชุดไหนไปตนพร้อมรับมือได้หมด เผย เวลานี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องตัวผู้เล่น ต้องรอหารือกันอีกครั้งว่าจะส่งชุดไหนไปลุยเอเชียนเกมส์ 2018
“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมทีมเพื่อลงเล่นในศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยกล่าวขอบคุณทุกสโมสรที่ยอมปล่อยตัวผู้เล่นมาให้ในช่วงฟีฟ่าเดย์ที่ผ่านมา ซึ่งการไปเก็บตัวอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน U-21 ถือเป็นประโยชน์กับทีมเป็นอย่างมาก แต่แอบหวังลึกๆ ว่า พอถึงช่วงแข่งขันจริง ทุกทีมจะให้ความร่วมมือเหมือนอย่างในช่วงที่ผ่านมา
“ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ สโมสรมากๆ ที่ปล่อยตัวน้องๆ U-21 มาให้เราได้ใช้งาน ซึ่งเราจะมีโปรแกรมลงเล่นในเอเชียนเกมส์ช่วงเดือนสิงหาคม ถ้าถึงช่วงนั้นสโมสรยังปล่อยนักเตะมาให้เราเหมือนเดิม ผมรับรองว่าจะสานต่อพวกเขาไปสู่ความสำเร็จได้แน่ เพราะฟุตบอลในเอเชียนเกมส์อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ผมเคยเข้าไปถึงอันดับ 4 สมัยเป็นผู้เล่น และล่าสุดในยุคของซิโก้ก็พาทีมได้อันดับ 4 มาแล้ว เพราะฉะนั้นในปีนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด”
“ในการไปเก็บตัวที่จีนเมื่อช่วงฟีฟ่าเดย์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นประโยชน์กับเรามาก เราเล่นท่ามกลางแฟนบอลเจ้าถิ่นที่เข้ามาชมเกมค่อนข้างหนาตา ซึ่งเฮดโค้ชของจีน U-21 คือ ซุง จีไห่ อดีตนักฟุตบอลชื่อดัง เขาจัดเต็มกับพวกเรา แต่เราก็รับมือเขาได้ดี การบุกไปเสมอกับเขาได้ในบ้านถือว่าไม่ธรรมดา นักฟุตบอลทุกคนชุดนี้ตั้งใจเล่นมากๆ หลังจากนี้เราก็จะมีการเก็บตัวอย่างจริงจังอีกครั้งคือพร้อมกับชุดใหญ่ในช่วงเดือนพฤษภาคมตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ เราจะใช้ช่วงนั้นแหละในการเรียกนักฟุตบอลเข้ามาเก็บตัว ซึ่งช่วงนั้นสโมสรก็คงปล่อยตัวมาให้เราแน่ๆ เพราะมันเป็นช่วงฟีฟ่าเดย์”
“ในส่วนของตัวผู้เล่น ณ เวลานี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเอาชุดไหนไป ต้องรอทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประชุมหารือกันอีกครั้งพร้อมกับ พี่เฮง วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคฯ ถึงจะได้ทราบว่าตกลงจะเอาชุดไหนไปเล่น แต่ผมบอกเลยว่าไม่ว่าจะเอาชุดไหนไป จะเป็นชุดผสม หรือชุด U-21 ผมก็พร้อมหมด ยิ่งถ้าเป็นชุด U-21 เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์เพราะเด็กชุดนี้เล่นฟุตบอลด้วยกันมาแทบจะตลอด จริงๆถ้าเอาชุดผสมมาเล่นอาจจะทำให้สต๊าฟฟ์ต้องทำงานหนักกว่าเดิมเพราะต้องพัฒนาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแข้งรุ่นพี่รุ่นน้อง”
“แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยอย่างเช่น พอถึงช่วงเอเชียนเกมส์ บรรดาทีมใหญ่ๆ ไม่ปล่อยนักเตะตัวหลักมา เราก็มีแผนรับมือก็คือตอนนี้ผมเริ่มได้ส่งรายชื่อนักฟุตบอลไปให้กับสมาคมฟุตบอลฯแล้วราวๆ 30 - 35 คน เพื่อเผื่อขาดเผื่อเหลือในกรณีที่หลายๆทีมไม่ปล่อยตัว ผมเชื่อว่าหลายๆ ทีมจะให้ความร่วมมือกับสมาคมฯแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้นนะ ถึงแม้บางทีมจะไม่ปล่อยก็ไม่เป็นไร เราต้องบริหารทีมให้ได้ในเมื่อเราเป็นโค้ช เราต้องทำให้ได้ทุกอย่าง”