เอเยนซี – การแข่งขันกอล์ฟระดับโลก นอกจากรายการปกติเช่น พีจีเอ ทัวร์, ยูโรเปียน ทัวร์, เอเชียน ทัวร์ หรือรายการระดับสมัครเล่น ยังมีอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์สำคัญที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างสุดยอดฝีมือของแต่ละทีม ลงสนามห้ำหั่นชิงความเป็นหนึ่งในสังเวียนกีฬาแห่งนี้ นั่นคือรายการ “ไรเดอร์ คัพ” ที่จัดกันมายาวนานถึง 91 ปีแล้ว และยังคงแข่งขันกันมาต่อเนื่องซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งภายในปี 2018 นี้
ก่อนจะมีชื่อว่า ไรเดอร์ คัพ ย้อนกลับไปเมื่อ 97 ปีก่อน หรือปี 1921 ได้มีการจัดแข่งขันกอล์ฟประเภททีมระหว่างทีมสหรัฐอเมริกา กับทีมอังกฤษ ในชื่อรายการว่า บริติช โอเพน แชมเปียนชิป ฟันด์ โดยส่งตัวแทนลงแข่งขันทีมละ 12 คน ก่อนเป็นทีมสวิงเมืองลุงแซม คว้าแชมป์รายการนี้มาครอง จากนั้นทั้งสองฝั่งก็ส่งนักกอล์ฟฝีมือดีของตัวเองลงแข่งกันเรื่อยมา สลับสับเปลี่ยนกันเป็นผู้ชนะ กระทั่งปี 1926 ก็มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ
ซามูเอล ไรเดอร์ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟเป็นชีวิตจิตใจ จัดทำถ้วยรางวัลพิเศษเพื่อใช้ในการแข่งขัน และนำมาสู่ทัวร์นาเมนต์เลื่องชื่อรายการ “ไรเดอร์ คัพ” ซึ่งเปิดฉากครั้งแรกอย่างเป็นทางการ วันที่ 3-4 มิถุนายน ปี 1927 แข่งกันที่ วอร์เชสเตอร์ คันทรี คลับ สหรัฐอเมริกา รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพปะทะกับทีมอังกฤษ ซึ่งปรากฏว่าทัพสวิงมะกัน ภายใต้การคุมทีมของกัปตัน วอลเตอร์ ฮาเกน ได้รับชัยชนะไปขาดลอย 9 ½ - 2 ½ แต้ม
จากนั้น ไรเดอร์ คัพ ก็ถูกจัดขึ้นกันเป็นธรรมเนียมทุก 2 ปี จากที่แข่งกัน 2 วัน ก็เพิ่มเป็น 3 วันยิงยาวมาจนถึงทุกวันนี้ กระนั้นเองก็มีเหตุให้ต้องยกเลิกการแข่งขันถึง 2 ครา หนแรกคือปี 1939-1945 เพราะโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างฝ่ายต่างส่งคนไปรบจนไม่มีใครมีกะจิตกะใจดูกีฬา ถัดมาก็คือปี 2001 สหรัฐอเมริกา รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพแต่ต้องยกเลิกไปเพราะเกิดโศกนาฏกรรมสะท้านโลก 9-11 เลื่อนไปจัดปีถัดมา
รูปแบบการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ ต่างจากทัวร์นาเมนต์อื่นที่แข่งแบบสโตรกเพลย์ 18 หลุมจบ หาคนสกอร์น้อยสุดเป็นผู้ชนะ แต่เป็นการส่งตัวแทนของแต่ละทีมมาดวลทั้งแบบโฟร์ซัม (ส่งตัวแทนนักกอล์ฟทีมละ 2 คน ช่วยกันทำคะแนนต่ำสุดจากลูกกอล์ฟอันเดียว) และ โฟร์บอล (ส่งตัวแทนนักกอล์ฟทีมละ 2 คน ตีลูกคนละลูก คนไหนตีคะแนนต่ำสุดจะถูกนับเป็นคะแนนของทีม) ซึ่งทั้ง โฟร์ซัม กับ โฟร์บอล นิยมใช้แข่ง 2 วันแรก ส่วนวันสุดท้าย ทุกคนจะออกมาสู้ตัวต่อตัวแบบแมตช์เพลย์ แล้วเอาคะแนนไปรวมหาทีมชนะ
การแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในปี 1973 เมื่อฝั่งอังกฤษอนุญาตให้นักกอล์ฟจากไอร์แลนด์เข้ามามีส่วนร่วมล่าแชมป์จนเรียกกันในชื่อ “สหราชอาณาจักร และ ไอร์แลนด์” ก่อนในที่สุดจะมีการควบรวมกับชาติอื่นๆในทวีปยุโรปภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือเดียวกัน จนกลายเป็นทีมยุโรปที่ส่งสุดยอดนักกอล์ฟฝีมือดีในหลายๆชาติ มาห้ำหั่นกับทีมนักกอล์ฟอเมริกา จนประสบความสำเร็จได้แชมป์ถึง 11 สมัยในช่วงปี 1985-2016 ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นยุคทองของพวกเขาอย่างแท้จริง
สำหรับกอล์ฟ ไรเดอร์ คัพ ปี 2018 หนนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 กันยายนนี้ ที่สนาม เลอ กอล์ฟ เนชันแนล ประเทศฝรั่งเศส โดยสหรัฐอเมริกา นำทีมโดยกัปตัน จิม ฟิวริค จอมเก๋าแชมป์ 2 สมัย ส่วนยุโรปเป็นหน้าที่ของ โธมัส บียอร์น ผู้ครองโทรฟีนี้มาแล้ว 3 สมัย แม้กว่าจะแข่งจริงต้องรออีก 6 เดือนแต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาให้กัปตันทีมทั้งสองได้เลือกเฟ้นนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดเข้ามาร่วมทีมเพื่อแย่งโทรฟีแห่งศักดิ์ศรีใบนี้ ซึ่งจะมีใครบ้างต้องติดตามชม
