ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - จากชีวิตเด็กเก็บบอลของ อาทิตย์ บุตรจินดา ที่สามารถเดินตามฝันบนเส้นทางสายลูกหนัง จนเข้าใกล้ความฝันเทียบชั้นไอดอลในดวงใจ “ธีรศิลป์ แดงดา” ไม่ใช่เรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิต แต่เป็นผลของความอดทนและเพียรพยายามล้วน ๆ ของดาวยิงรายนี้ จนสามารถพา การท่าเรือ เอฟซี คว้าสามแต้มเหนืออุบล ยูเอ็มที ในนาที 90+5 แบบตะลึงแฟนๆ ทั้งสนามด้วยสกอร์ 1-0
จุดเริ่มต้น : ชีวิตบนเส้นทางลูกหนังของ “เจ้านุ๊ก” ถือว่ามีเทพีนำโชคติดมากับสตั๊ดเก่าๆ เพราะเจ้าตัวเป็นเพียงเด็กน้อยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลตามประสาเด็กหนุ่มทั่วไป จนเริ่มสนใจในกีฬาลูกกลมๆ ตั้งแต่อายุ 12 ปี จนมีชื่อเป็นตัวแทนโรงเรียนประจำจังหวัด กาฬสินธุ์
แต่แล้วโอกาสครั้งสำคัญก็เดินทางมาหาถึงที่ เมื่อ “แอสไพร์ อะคาเดมี่” เปิดโครงการค้นหาเด็กไทยไปฝึกวิชาลูกหนังที่ประเทศกาตาร์ ซึ่ง เด็กวัย 15 ปี ทำได้เพียงสมัครเป็นเด็กเก็บบอลแลกกับค่าแรงวันละ 200 บาท ด้วยความบังเอิญที่มีผู้เข้าร่วมคัดตัวน้อยเกินไป เด็กเก็บบอลในวันนั้นจึงถูกเรียกตัวไปทดสอบฝีเท้า ด้วยทักษะที่ดีเกินวัย อาทิตย์ ได้รับเลือกเข้าสู่รอบสุดท้ายของประเทศ และได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทย ร่วมกับ อรรถวิทย์ สุขช่วย ที่ปัจจุบันค้าแข้งให้กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ก่อนที่ทั้งคู่ จะบินไปคัดตัวรอบสุดท้ายแข่งกับ อีก 90 คน จาก 15 ประเทศ
และอาทิตย์ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 20 คนสุดท้ายที่ได้เซ็นสัญญากับทาง แอสไพร์ อะคาเดมี่ เป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมบินลัดไปกิน อยู่ และฝึกฟุตบอลที่ประเทศกาตาร์ ทำให้เขาตัดสินใจทิ้งชีวิตช่วงมัธยมมาเอาดีบนเวทีลูกหนังเต็มตัว
แจ้งเกิดเต็มตัว : เขากลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวในวัย 18 ปี และได้รับข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสัญญา 4 ปี อาทิตย์ บุตรจินดา กลายเป็นเยาวชนของปราสาทสายฟ้า และสามารถพาทีมยู-19 คว้าแชมป์โค้กคัพมาครอง จากนั้นเจ้าตัวถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับ สุรินทร์ ซิตี้, พิจิตร เอฟซี และ ชัยนาท ฮอร์นบิล ก่อนที่ช่วงสุดท้ายของสัญญาจะถูกดึงกลับมา แต่ก็แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเพราะทีมดังแห่งอิสานใต้นิยมใช้ศูนย์หน้าต่างชาติมากประสบการณ์ ทำให้เจ้านุ๊กย้ายมาร่วมงานกับ “มาดามแป้ง” ในถิ่นคลองเตย
แข้งวัย 23 ปี ได้ลงช่วย “สิงห์เจ้าท่า” ไปแล้ว 3 นัด ในฐานะผู้เล่นสำรอง ทว่าล่าสุดเจ้าตัวถูกส่งมาในนาทีที่ 90+1 และใช้เวลาเพียง 4 นาทีในสนามโขกประตูชัยชนะเหนือ อุบล ยูเอ็มที ในนาที 90+5 ด้วยสกอร์ 1-0 ส่งให้ การท่าเรือ เอฟซี เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนนไทยลีก 2018 ตามหลังจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
ครูพักลักจำ : ดาวยิงเจ้าของส่วนสูง 180 มีจุดเด่นอยู่ที่ความขยัน เจ้าตัวมักจะถึงสนามซ้อมเป็นคนแรกๆ และกลับเป็นคนสุดท้ายเพื่อทบทวนสิ่งที่โค้ชแนะนำ “ในทีมผมจะสนิทกับทุกคน แต่จะได้คำแนะนำจากพี่ปกรณ์ เปรมภักดิ์ มากที่สุด โดยเฉพาะลูกเตะมุม ลูกตั้งเตะ นอกจากนี้ยังได้คำแนะนำจาก ดราแกน บอสโควิช และ เซร์คิโอ ซัวเรซ ซึ่งแต่ละคนมีชื่อเสียง แต่ไม่มีอีโก้ ไม่เคยต่อว่า ตอนอุ่นเครื่องช่วงปิดซีซั่นกับ ปตท.ระยอง ผมมีโอกาสยืนคู่กับ “โบเล่” ซึ่งเขาพูดกับเราว่าให้เราเล่นสไตล์ตัวเอง ไม่ต้องเกร็ง หลังเกมก็ชื่นชมที่เรากล้าเล่น กล้าตัดสินใจ ซึ่งผมมักจะนำเทคนิกต่างๆ ของเขามาใช้”
พี่มุ้ย คือไอดอล : ในวงการลูกหนังไทย หากพูดถึงตำแหน่งกองหน้า ชื่อแรกที่ถูกพูดถึงก็ต้องเป็น “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่ง อาทิตย์ บุตรจินดา ถูกหมายมั่นให้เป็น “นิวแดงดา” ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าดาวยิงตัวเก่งของ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า คือนักเตะในดวงใจที่เจ้าตัวอยากมีโอกาสใกล้ชิดด้วยที่สุด “สมัยที่ร่วมอะคาเดมี่อยู่ประเทศการ์ต้า เคยเห็นเมืองทองไปแข่งเอเอฟซี แล้วก็ได้เจอกับพี่มุ้ย แล้วก็ชื่นชอบที่เขาเป็นคนขยัน สมาธิดี อีกทั้งยังเก็บบอลดี ยิงคม ทักษะดีมาก พาบอลไปกับตัวได้ ซึ่งผมอยากเล่นให้ได้แบบนี้”
ฝันถึงทีมชาติ : “ความฝันของนักเตะทุกคนคือการได้รับใช้ทีมชาติ แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น ผมอยากช่วยสโมสรให้มากกว่านี้ก่อน อยากมีส่วนช่วยให้ผลงานของทีมออกมาดี แล้วอนาคตจะได้ติดทีมชาติก็คือผลตอบแทนความตั้งใจของตนเอง”
เจ้านุ๊ก ยังทิ้งท้ายเป็นการรับปากว่าจะตั้งใจพัฒนาฝีเท้าตัวเองอยู่ตลอด ให้สมกับโอกาสที่ตัวเองได้รับ จนมาถึงวันนี้ที่กำลังจะเป็นที่ยอมรับบนลีกสูงสุดของไทย หากเจ้าตัวยังรักษามาตรฐานความมุ่งมั่นไว้ได้ โอกาสที่ทีมชาติไทยจะมีชื่อเข้ามาเป็นศูนย์หน้าของทีมชาติไทยก็รออยู่ข้างหน้าเช่นกัน
เรื่อง กิตติยา เชื้อเมืองพาน