คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
หลังจากงานกร่อยกันไปเมื่อปลายปี เพราะนักสู้ตัวความหวังของไทยนัดกันพ่ายหมด One FC ศึกศิลปะต่อสู้แบบผสมรายการใหญ่ของเอเชีย เตรียมระเบิดศึกใหญ่ในบ้านเราอีกครั้งในสัปดาห์หน้า วันเสาร์ที่ 24 มีนาคมนี้ ที่สังเวียนอิมแพ็ค อารีน่า เหมือนเดิม โดยคราวนี้นักสู้ไทยต้องยอมรับบทพระรอง แต่สำหรับแฟนๆ เชื่อว่าคู่มวยในรายการเห็นแล้วต้องร้องซี้ดไปตามกัน
เริ่มกันที่นักสู้ไทยก่อน “ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค เป็นพี่ใหญ่นำทัพตามเดิม โดยคราวนี้ “ครูรงค์” เตรียมขึ้นพบกับนักสู้จากฟิลิปปินส์ดีกรีแชมป์รายการ Blaze ในรุ่นสตรอว์เวท แต่นักสู้รายนี้มาสายยืนสู้ ชำนาญมวยไทย เชื่อว่า “ครูรงค์” น่าจะเอาอยู่ และหวังจะคว้าชัยชนะในการขึ้นสู้ในบ้านเกิดซะที หลังจาก 3 ไฟต์ในเมืองไทยก่อนหน้านี้ “ครูรงค์” พลาดท่าพ่ายรวด
ตามมาด้วยนักสู้หนุ่มหล่อ “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย หรือ “ตอง วันชิน” ที่คราวก่อนมัวแต่รีๆ รอๆ ไม่กล้าผลีผลามเข้าทำ จนพ่ายนักสู้สายมวยปล้ำตัวจริงอย่าง ราซุล ยัคยาเยฟไปอย่างน่าเสียดาย คราวนี้เตรียมขึ้นทำฟอร์มใหม่พบนักสู้กังฟูอย่าง ราหุล ราจู “วันชิน” ต้องทำฟอร์มสวยๆ อีกรอบเพื่อหวังลุ้นได้คิวชิงเข็มขัดสมกับที่แฟนๆ รอคอยซักที อีกรายนักสู้สาวหน้าหวานขวัญใจแฟนๆ และขวัญใจตัวจริงของ “ครูตอง” อย่าง “ตุ๊กตาญี่ปุ่น” ริกะ อิชิเกะ มีคิวเจอกับนักสู้สาวจากฟิลิปปินส์ แองเจลี่ ซาบานาล แฟนๆ เตรียมเชียร์กันเต็มที่ รวมทั้งคู่ก่อนเวลายังจัดดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง กฤษฎา คงศรีชาย “หนุ่มล่าฝัน” ไฟต์ที่แล้วที่ไทยโชว์ฟอร์มสดต่อยราบิน คาตาลัน หลับแค่ยกแรก มาคราวนี้ทาง One FC จัดพี่ชายของราบิน คือ โรบิน คาตาลัน มาล้างแค้น ก็ต้องตามดูว่า “หนุ่มล่าฝัน” จะโชว์ฟอร์มได้ดีอีก หรือโรบิน จะล้างแค้นได้
ที่น่าสนใจชนิดแฟนๆ ต้องติดตามดู คือคู่เอกในรายการ เป็นศึกในรุ่นแบนตั้มเวท ระหว่าง บิเบียโน่ เฟอร์นานเดซ เจ้าของเข็มขัดชาวบราซิล ที่แม้จะวัยปาเข้าไปถึง 37 ปีแล้ว แต่ฟอร์มยังร้อนแรงต่อเนื่อง ชนะรวดมา 13 ไฟต์ เตรียมป้องกันเข็มขัดกับ มาร์ติน เหงียน นักสู้เชื้อสายเวียดนาม-ออสเตรเลีย ที่ชนะมา 6 ไฟต์รวด ที่สำคัญ มาร์ติน เหงียน รายนี้ปัจจุบันยังเป็นแชมป์ของ One FC ในรุ่นเฟเธอร์เวท และไลท์เวท สองรุ่นควบในเวลาเดียวกัน ถ้ามาร์ติน เหงียน เอาชนะคว้าเข็มขัดในรุ่นแบนตั้มเวทนี้ได้อีก จะเป็นนักสู้คนแรกของโลกที่เป็นแชมป์ใน 3 รุ่น 3 พิกัดน้ำหนักในเวลาเดียวกัน ซึ่งพิกัดรุ่นในศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมนั้นพิกัดแต่ละรุ่นห่างกันถึง 10 ปอนด์ คือแบนตั้ม 135 ปอนด์ เฟเธอร์ 145 ปอนด์ และไลท์เวท 155 ปอนด์
ก็น่ามหัศจรรย์ว่านักสู้รายนี้ทำน้ำหนักในพิกัดที่ห่างกันถึง 20 ปอนด์แล้วยังอยู่ในสภาพที่ขึ้นสู้ได้ได้ยังไง รวมทั้งไม่เสียเปรียบรูปร่างซะด้วยเวลาสู้ในรุ่นใหญ่ โดยมาร์ติน เหงียนนั้นเก็บยอดฝีมือมารวด ทั้งมารัต กาฟูรอฟ ที่ว่ากันว่าเป็นแชมป์ไร้เทียมทานในรุ่นเฟเธอร์เวท ตามมาด้วยปิดจ๊อบเอดวร์ด โฟลายาง ยอดฝีมือในรุ่นไลท์เวทคว้าแชมป์มาได้ เรียกว่าฟอร์มกำลังร้อนแรงสุดๆ คู่เอกรายการนี้ถึงไม่มีนักสู้ไทย แต่แฟนๆ พลาดไม่ได้จริงๆ เสาร์หน้าที่ 24 เตรียมติดตามกันได้เลย