ผู้จัดการรายวัน 360 – ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย “เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิป” รูดม่านสนามแรกของปี 2018 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมของ มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวไทยหนึ่งเดียวของวงการ ที่คว้าแชมป์รุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เหนือชายหนุ่มอกสามศอกทีมอื่นๆ ทว่าสิ่งที่ทาง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ต้นสังกัดภาคภูมิใจไม่แพ้กันคือการส่งเหล่า “ยัง บลัด” อนาคตไกลลงแข่งแล้วเก็บแต้มเปิดสนามได้
เรซที่ 2 ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต วันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา รุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ส่ง มุกข์ลดา ประจำตำแหน่งร่วมกับ กฤชพร แก้วสนธิ ปรากฏว่าตลอด 10 รอบสนาม “น้องมุกข์” บิดคันเร่งเต็มที่ เร่งสปีดจากที่หล่นไปอยู่กลางแถว กลับขึ้นมาคว้าแชมป์ พร้อมเพลงชาติไทยดังสนั่น ส่วน “เจ้านิว” จบอันดับ 7 ได้แต้มติดกระเป๋า
ขณะที่รุ่นใหญ่ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ส่ง 2 หน่อ ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ กับ เคย์สุเกะ คูริฮาระ ปรากฏว่าจบอันดับ 12 และ 13 กระนั้นมีแต้มติดมือด้วยกันหมด ส่งผลให้ตลอดทั้ง 2 วัน 3-4 มีนาคม นักบิดทั้ง 4 คนต่างก็มีทั้งแชมป์, โพเดียม และแต้ม สร้างเสริมกำลังใจก่อนลุยสนามถัดไปที่ ออสเตรเลีย วันที่ 19-22 เมษายนนี้
หลังเป็นสาวไทยคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ซิวแชมป์เอเชีย มุกข์ลดา วัย 24 ปี กล่าวว่า “เป็นวันที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพราะวันแรกเราสร้างความผิดพลาดระหว่างแข่ง แต่ก่อนลงแข่งวันที่สองก็เรียกสมาธิกลับมา ดีใจมากที่คว้าแชมป์ให้กับคนไทย และต้นสังกัด ขอขอบคุณทีมงานที่ทำงานอย่างหนักตลอดสุดสัปดาห์ และขอบคุณแฟนๆชาวไทยที่ให้กำลังใจจากทั่วประเทศ”
มุกข์ลดา และนักบิดรายอื่นๆของทีม ถือเป็นสายเลือดใหม่ที่ เอ.พี.ฮอนด้า ผลักดันอย่างเต็มที่ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต ฤดูกาล 2018 ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยใช้ทีมชุดผสมระหว่างรุ่นเก๋ากับนักบิดใหม่ตระเวนทัวร์นาเมนต์ต่างๆ แต่มาปีนี้เปลี่ยนนโยบายใช้เลือดใหม่ล้วนๆ และทุกคนก็มาจากการปลุกปั้นของ เอ.พี.ฮอนด้า ตั้งแต่หัดขึ้นขี่รถทั้งสิ้นในโครงการ ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล
กว่า 32 ปีที่ผ่านมา เอ.พี.ฮอนด้า สร้างนักบิดไทยขึ้นมาเป็นตัวแทนของประเทศหลายรายเช่น “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ คนแรกที่ได้ไปลุยเวทีโลกในรุ่น โมโตทู, “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ น้องชาย ลงหวดศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง, “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร อีกคนที่ไปวาดลวดลายในรุ่นโมโตทู และ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดีกรีแชมป์เอเชีย แม้ทุกวันนี้เส้นทางของพวกเขาจะโบยบินไปตามวิถีทางมืออาชีพ แต่ทุกคนก็ล้วนแต่ได้รับการสนับสนุนจาก เอ.พี.ฮอนด้า ทั้งสิ้น
สำหรับปี 2018 เอ.พี.ฮอนด้า ดันเด็กเต็มตัว นอกจาก มุกข์ลดา, กฤชพร, ภาสวิชญ์ ก็ยังมี “นิว เจเนเรชั่น” รุ่น เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ส่ง 3 ดาวรุ่งวัยคะนอง “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี, “ไอซ์”นิติพงษ์ แสงสว่าง และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว ส่วนรายการระดับยุโรป เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ รับหน้าที่โดยเจ้าหนุ่มฟอร์มแรง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา แชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ปี 2016 และรุ่นโมโตทรี ก็เป็นงานของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ลงแข่ง 2 ปีติด
เห็นได้ชัดเจนว่า ณ วันนี้ “เอ.พี.ฮอนด้า” ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับอนาคตของชาติ เชื่อมั่นว่าการมอบโอกาสให้แก่เด็กไทยกลุ่มนี้ จะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศ ให้พวกเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พัฒนาฝีมือให้ไปถึงขีดสุด ก่อนผลักดันสู่เวทีระดับโลกอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะ โมโตจีพี อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของเด็กไทยทุกคน
เพราะการดึงนักบิดฝีมือดีมาไล่ล่าตำแหน่งแชมเปี้ยนและโพเดียม ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายของ เอ.พี.ฮอนด้า อีกแล้ว แต่เป็นการสวมบทบาท “ผู้สร้าง” ปูเส้นทางให้นักบิดเยาวชนไทย เดินต่อไปสู่เวทีระดับโลกต่างหาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมซิ่งค่ายปีกนกจะเดินหน้าทำกันต่อไปแบบไม่มีวันสิ้นสุด