ผู้จัดการรายวัน 360 - "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล ไล่ไม่ทันส่ง เจสซิก้า คอร์ด้า คว้าแชมป์ "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018" ไปครอง โดยสกอร์ห่างกันแค่ 4 สโตรกเท่านั้น
ศึกกอล์ฟหญิงระดับโลก "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018" ชิงเงินรางวัล 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 52.8 ล้านบาท) ณ สยาม คันทรี คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส ระยะ 6,548 หลา พาร์ 72 จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย โดย โมรียา จุฑานุกาล มือ 21 ของโลกมีลุ้นเป็นคนไทยรายแรกที่ได้แชมป์รายการนี้บนแผ่นดินเกิด เพราะจบรอบ 3 ตาม เจสซิก้า คอร์ด้า ชาวอเมริกันอยู่เพียงแค่ 4 สโตรก
ปรากฎว่า "โปรโม" โมรียา เล่นได้ยอดเยี่ยมทำเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์จาก 1 อีเกิ้ล 4 เบอร์ดี้เสียคืน 1 โบกี้รวม 4 วันมี 21 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ เจสซิก้า คอร์ด้า ก็ทำเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์เช่นกัน
ทำให้ เจสซิก้า คอร์ด้า วัย 24 ปีคว้าแชมป์ "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018" ไปครองด้วยสกอร์ 25 อันเดอร์พาร์พร้อมเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.9 ล้านบาท) ถือเป็นแชมป์ แอลพีจีเอ ลำดับที่ 5 ในชีวิตและแชมป์แรกรอบ 2 ปี 4 เดือนเศษต่อจาก "ไซม์ ดาร์บี้ แอลพีจีเอ มาเลเซีย" เมื่อปี 2015 ที่ประเทศมาเลเซีย
สำหรับแชมป์นี้ของ เจสซิก้า คอร์ด้า ยังทำลายสถิติการแข่งขัน "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018" ที่ เอมี่ หยาง จากเกาหลีใต้ ทำไว้ 22 อันเดอร์พาร์เมื่อปีที่แล้วอีกด้วย ภายหลังเจ้าตัวกล่าวว่า "เป็นวันที่ฉันแทบไม่อยากเชื่อ ตอนนี้ยังเบลอๆ งงๆ อยู่ด้วยซ้ำ ตลอดการเล่นก็พยายามทำเบอร์ดี้ รวมถึงผ่อนคลายให้มากที่สุด ทว่าก็ยังกังวลอยู่ดี ย้อนไปเมื่อปี 2011 ที่ฉันขึ้นมาในฐานะรุคกี้ศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ก็เป็นอีเวนต์แรกที่เล่นในปีนั้น ดังนั้นก็ถือเป็นความทรงจำที่ดีมาก"
ส่วนอันดับ 2 ร่วมมี 2 คนนอกจาก โมรียา ก็คือ เล็กซี่ ธอมป์สัน มือ 4 ของโลกคนปัจจุบันจากสหรัฐอเมริกาที่วันสุดท้ายทำเพิ่มได้ถึง 8 อันเดอร์พาร์แบ่งเงินรางวัลไปคนละ 128,770 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.2 ล้านบาท)
นอกจากนี้เว็บไซต์ แอลพีจีเอ เผยว่าวันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ในตาราง "โรเล็กซ์ เวิลด์ แรงกิ้ง" หรืออันดับโลกฝ่ายหญิง เล็กซี่ จะขึ้นเป็นมือ 2 ของโลกอีกครั้ง ซึ่งถือป็นอันดับที่ดีที่สุดในชีวิตต่อจากที่เคยทำได้เมื่อเดือนกันยายนปี 2017 ซึ่งแน่นอนแม้ว่า เฟิง ฉานฉาน จะนั่งบัลลังก์ที่ยึดมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเป็น 16 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ก็จะทำให้การขับเคี่ยวจากนี้เข้มข้นแน่นอน
ด้าน "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลกและเจ้าของ 7 แชมป์ รอบสุดท้ายประเดิมทำเบอร์ดี้ที่หลุมแรก ก่อนไปเสียโบกี้กับดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 8 และ 9 ก่อนจะแก้ตัวช่วง 9 หลุมหลัง ทำ 4 เบอร์ดี้ติดที่หลุม 12-15 และอีกเบอร์ดี้ที่หลุม 18 รวมเก็บเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 17 อันเดอร์พาร์ 271 คว้าอันดับ 5 ร่วมกับ เฟิง ฉานฉาน มือ 1 ของโลกชาวจีน
ขณะที่ เอมี่ หยาง แชมป์ 2 สมัยและแชมป์เก่า 12 อันเดอร์พาร์จบที่ 14 ปาร์ก ซุง ฮยุน มือ 2 ของโลกจากเกาหลีใต้ จบอันดับ 22 ร่วม 10 อันเดอร์พาร์ ส่วน รยู โซยอน คว้าอันดับ 26 ร่วม 8 อันเดอร์พาร์ และ ลิเดีย โค อดีตมือ 1 ของโลกชาวนิวซีแลนด์ จบอันดับ 31 ร่วม สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์
สำหรับผลงานของนักกอล์ฟสาวไทยคนอื่นๆ อันดับ 7 ร่วม "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ 16 อันเดอร์พาร์, อันดับ 40 ร่วม “โปรกิ๊ฟ” เบญญาภา นิภัทร์โสภณ 4 อันเดอร์พาร์, อันดับ 51 ร่วม “โปรอ๊าย” ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน 1 โอเวอร์พาร์และอันดับ 56 ร่วม “โปรออม” ศุภมาส แสงจันทร์ 3 โอเวอร์พาร์
ต่อไปเป็นรายการที่ 4 ของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2018 "เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิป" ชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 49.5 ล้านบาท) ระหว่างวันที่ 1-4 มีนาคมนี้ ณ เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ ประเทศสิงคโปร์