เอเยนซี - ศึกกอล์ฟหญิงระดับโลก "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018" เตรียมดวลวงสวิงกันระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์นี้ชิงเงินรางวัล 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 52.8 ล้านบาท) ณ สยาม คันทรี คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส ระยะ 6,548 หลา พาร์ 72 จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย โดยถือเป็นการครบรอบ 12 ปีพอดี ส่วนไฮไลต์สำคัญที่ต้องจับตามองก็เพียบ ซึ่งเรารวบรวมมาฝากกันแล้วดังต่อไปนี้
การห้ำหั่นกันที่ สยาม คันทรี คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส น่าจะสนุกเข้มข้นอย่างแน่นอน เพราะมือท็อป 6 ของโลกดาหน้ากันมาแบบครบครัน นำโดย เฟิง ชานชาน จากจีนที่ยืดมือ 1 ของโลกมา 15 สัปดาห์ติดต่อกัน ปาร์ค ซุง ฮยุน (เกาหลีใต้) รยู โซ ยอน (เกาหลีใต้) เล็กซี่ ธอมป์สัน (สหรัฐอเมริกา) แอนนา นอร์ดควิสต์ (สวีเดน) และ ชุน อึน จี (เกาหลีใต้) มือท็อป 20 ของโลกมากันถึง 17 คน รวมทั้งหมดมีนักกอล์ฟสาว 70 คนที่จะมาชิงชัยกันในครั้งนี้
นอกจากนี้มีรุคกี้ 2 คนคือ โค จิน ยอง จากเกาหลีใต้ ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ แอลพีจีเอ ที่คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าเป็นสมาชิก จากการรายการ "ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น" อีกคนคือ จอร์เจีย ฮัลล์ จากอังกฤษ สตาร์ในศึก "โซเลม คัพ"
นักกอล์ฟ 3 คนที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้จะเข้าร่วมชิงชัยในปีนี้ด้วย นำโดย เอมี่ หยาง แชมป์ 2 สมัยปี 2015 กับ 2017 จากเกาหลีใต้ ตามด้วย เล็กซี่ ธอมป์สัน แชมป์ปี 2016 และ แอนนา นอร์ดควิสต์ แชมป์ปี 2014
เมื่อปีที่แล้ว 4 วัน เอมี่ หยาง รีดฟอร์มสุดยอดทำ 22 อันเดอร์พาร์คว้าแชมป์ด้วยการทิ้งอันดับ 2 รยู โซ ยอน 5 สโตรก ซึ่ง หยาง นั้นทำสกอร์ 68 หรือดีกว่าตลอดทั้ง 4 รอบ (66-67-65-68) ซึ่งเมื่อปี 2016 ที่ไม่ได้แชมป์ แต่เธอก็จบด้วยอันดับ 3 ถือเป็นผลอันน่าสะพรึงของผู้เล่นวัย 28 ปีจากเกาหลีใต้ โดยปัจจุบันรั้งมือ 15 ของโลกรายการล่าสุด "ไอเอสพีเอส ฮานดะ วีเมนส์ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น" ไม่ได้เล่น ส่วนอีเวนต์เปิดหัวปี 2018 ที่บาฮามาสจบที่ 3
นอกจาก เอมี่ หยาง อีกคนที่ต้องจับตาคือ เล็กซี่ ธอมป์สัน แชมป์ปี 2016 ส่วนปี 2017 ก้านเหล็กมะกันวัย 23 ปีดีกรี 1 แชมป์ระดับเมเจอร์จบที่ 4 และปี 2014 จบที่ 5
ยังมีนักกอล์ฟหลายคนที่ลงแข่งเป็นครั้งแรกของฤดูกาลที่ สยาม คันทรี คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส คือ ปาร์ค ซุง ฮยุน ที่ปี 2017 คือรุคกี้แต่ทำผลงานสุดยอดคว้าแชมป์เมเจอร์พร้อมก้าวไปเป็นมือ 1 ของโลก รวมถึง แอนนา นอร์ดควิสต์ จอมเก๋าวัย 30 ปีเจ้าของ 8 แชมป์ระดับ แอลพีจีเอ, ซานดรา กัล จากเยอรมนีที่ก่อนหน้านี้เจ็บหลัง เช่นเดียวกับ เจสซิก้า คอร์ด้า จากสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งฟื้นตัวจากบาดเจ็บ
ต้องจับตา ปาร์ค ซุง ฮยุน มือ 2 ของโลกคนปัจจุบันว่าจะสามารถสานต่อฟอร์มเยี่ยมจากปี 2017 ได้หรือไม่ รวมปีที่แล้วคว้าไป 2 แชมป์จบท็อป 10 ถึง 11 ครั้งจากทั้งหมด 23 รายการที่ลงเล่นและผ่านตัดตัวทั้งหมด จะว่าไปแล้วก็ไม่แปลกใจ เพราะสาวหล่อวัย 24 ปีการันตีผลงานจากศึก เคแอลพีจีเอ ในประเทศที่ได้แชมป์ถึง 10 รายการมาแล้ว
ทั้ง 3 คนที่เอ่ยมาถือเป็นบิ๊กเนมที่เลือกลงเล่น "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์" เป็นรายการแรกของฤดูกาล 2018 ส่วนที่เหลือก็มี เซ ยอง คิม 6 แชมป์ แอลพีจีเอ จากเกาหลีใต้, มี ฮยาง ลี 2 แชมป์จากเกาหลีใต้และ มี จุง เฮอร์ 2 แชมป์จากเกาหลีใต้
ที่จะต้องเอ่ยถึงก็คือบรรดาโปรสาวเจ้าถิ่นที่ปีนี้มีลงชิงชัย 6 คน โดยที่ผ่านมา 11 ปียังไม่มีคนไทยคนไหนที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้เลย แน่นอนความหวังสูงสุดอยู่ที่ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 ของโลกเจ้าของ 7 แชมป์ปัจจุบันวัย 22 ปี ตามด้วยพี่สาว "โปรโม" โมรียา ที่ปีที่แล้วฟอร์มดีมากใกล้เคียงกับการได้แชมป์แรกในชีวิต ผลงานออกสตาร์ทของ "โปรโม" ใน 2 รายการของปี 2018 คือจบที่ 31 ที่บาฮามาสตามด้วยที่ 19 ที่ออสเตรเลีย ส่วนผลงานเมื่อปี 2017 ในศึก "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์" ของพี่น้องตระกูลจุฑานุกาลคือติดท็อป 10 ได้ทั้งคู่
ส่วนที่เหลืออีก 4 คนประกอบไปด้วย “โปรอ๊าย” ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน (อ๊าย มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า หนึ่ง) "กิฟท์" เบญญาภา นิภัทร์โสภณ, พรอนงค์ เพชรล้ำ และ สุภมาส แสงจันทร์
แต่ละคนล้วนมีดีกรีไม่ธรรมดา "โปรแหวน" พรอนงค์ มือ 88 ของโลก, เบญญาภา ก็เพิ่งคว้าอันดับ 1 ซีเมตร้าทัวร์ 2017 จนได้ทัวร์การ์ด แอลพีจีเอ ทัวร์ 2018 หลังจากที่เธอเคยผ่านคิวสคูลสเตจสุดท้ายในลำดับที่ 19 เข้าไปเล่นมาแล้วเมื่อปี 2016 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกมาก่อนหน้านี้แล้ว