“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ซึ่งเหลือผู้เล่น 9 คน เอาชนะการดวลจุดโทษ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน“ นอริช ซิตี สโมสรระดับ เดอะ แชมเปียนชิป 5-3 หลังครบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 ศึก เอฟเอ คัพ รอบ 3 นัดรีเพลย์ ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ คืนวันพุธที่ 17 มกราคม
เอฟเอ คัพ 2017-18 รอบ 3 นัดรีเพลย์
เชลซี 1-1 นอริช ซิตี (ครบ 120 นาที เสมอ 1-1 เชลซี ชนะจุดโทษ 5-3)
อันโตนิโอ คอนเต กุนซือ เชลซี ดร็อปตัวหลักอย่าง เอเดน อาซาร์ กับ อัลบาโร โมราตา เป็นเพียงสำรอง ส่ง มิชี บาตชัวยี รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน เปโดร และ วิลเลียน รับมือ นอริช ซิตี ที่มี เนลสัน โอลิเวียรา , เจมส์ แมดดิสัน และ จอช เมอร์ฟี เป็นความหวังแนวรุก
เชลซี ทักทายน่ากลัวแค่ 9 นาที เคเนดี เปิดเตะมุมฝั่งขวาให้ ตีมู บากาโยโก สะบัดกึ่งยิงกึ่งผ่าน เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา กัปตันทีม เหยียดขาชาร์จจ่อๆ จั่วลม บอลเฉียดเสาไกล ต่อมานาที 25 แดนนี ดริงค์วอเตอร์ สับไกด้วยขวานอกเขต แองกุส กันน์ นายทวาร ปัดปลายมือชนคาน
นอริช ซิตี หวิดสร้างเซอร์ไพรส์นาที 32 มิชี บาตชัวยี จ่ายคืนหลังพลาด กลายเป็นใส่พานให้ เนลสัน โอลิเวียรา ดีดไซด์ก้อยด้วยขวา บริเวณหัวกะโหลกเช็ดคานออกหลัง สู้กันต่อครึ่งหลัง รองแชมป์เก่า ขึ้นนำ 1-0 นาที 55 เคเนดี จ่ายเรียดจากซ้ายให้ บาตชัวยี แปยัดเสาแรก เสยเพดานตาข่าย
“นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ชวดตีเสมอ 2 ครั้ง เริ่มจากนาที 60 วิลลี คาบาเยโร นายทวาร ไม่เข้าใจกับเพื่อน ทำให้บอลกระฉอกเข้าทาง จอช เมอร์ฟี อัดสวนด้วยซ้ายชนเสาและนาที 65 แฮร์รีสัน รีด แย่งบอลจาก แดนนี ดริงค์วอเตอร์ แล้วดีดจากซ้ายเข้ากลางให้ เจมส์ แมดดิสัน ล่อเป้ากับ คาบาเยโร นายทวาร ยิงติดเซฟ
กองเชียร์ ทีมเยือน ส่งเสียงเฮนาที 90+4 ทิมม์ โคลเซ โยกหนี ดาวิเด ซัปปาคอสตา โยนโค้งจากกราบซ้ายให้ จามาล ลูอิส โหม่งเสยเช็ดเสาไกล ตีเสมอ 1-1 ลากไปดวลกันต่ออีก 30 นาที
“สิงโตน้ำเงินคราม” โหมบุกเป็นระลอก นาที 104 อัลบาโร โมราตา ไหลจากขวาเข้ากลางให้ วิลเลียน ลากหาช่องกดด้วยขวา แองกุส กันน์ ยกแขนปัดไว้ได้ ถัดมาไม่กี่อึดใจ อันเดรียส คริสเตนเซน ตัวสำรอง กระดกข้ามแนวรับให้ อัลบาโร โมราตา แปจ่อๆ ก็ยังติดเซฟ กันน์
เข้าสู่นาที 117 แชมป์ 7 สมัย ทรุดหนัก เปโดร เหยียดขาเสียบ เวส ฮูลาแฮน ผู้ตัดสินชักใบเหลืองที่ 2 หลังถูกจดชื่อข้อหาพุ่งล้ม ตั้งแต่นาที 62 จากนั้นนาที 120+1 อัลบาโร โมราตา รับ 2 ใบเหลืองรวด ข้อหาตบตาผู้ตัดสินหวังจุดโทษ แล้วไม่หยุดโวยวาย ครบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษชี้ขาด
ปรากฏว่า “เดอะ บลูส์” ยิงเข้าเป้าทั้ง 5 คน ได้แก่ วิลเลียน, ดาวิด ลุยซ์, เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา, เอ็น'โกโล ก็องเต และ เอเดน อาซาร์ แถม วิลลี คาบาเยโร มือกาวอาร์เจนไตน์ ป้องกันลูกยิงของ เนลสัน โอลิเวียรา หัวหอกโปรตุกีสของ นอริช ที่รับหน้าที่สังหารคนแรก จึงเอาชนะไป 5-3 เข้าสู่รอบ 4 พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันที่ 28 ม.ค.
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : วิลลี คาบาเยโร , ดาวิด ลุยซ์ , อีธาน แอมปาดู , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , ตีมู บากาโยโก , แดนนี ดริงค์วอเตอร์ , เคเนดี , ดาวิเด ซัปปาคอสตา , มิชี บาตชัวยี , เปโดร , วิลเลียน
นอริชฯ : แองกุส กันน์ , คริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์ , ทิมม์ โคลเซ , แกรนท์ แฮนลีย์ , มาริโอ วรานซิช , แฮร์ริสัน รีด , เจมส์ แมดดิสัน , จามาล ลูอิส , อิโว ปินโต , จอช เมอร์ฟี , เนลสัน โอลิเวียรา
ผลฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2017-18 รอบ 3 นัดรีเพลย์ ประจำวันพุธที่ 17 มกราคม
สวอนซี 2-1 วูล์ฟแฮมป์ตัน
วีแกน 3-0 บอร์นมัธ