คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ภายหลังมีการประกาศของ บริษัท ไทยลีก จำกัด และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ฤดูกาล 2018 จะเปิดใช้โควต้าผู้เล่นอาเซียนอย่างเป็นทางการ หลายสโมสรต่างเริ่มวิ่งกันขาขวิดในการเซ็นผู้เล่นจากประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมทีมปืนไวอย่าง โปลิศ เทโร เอฟซี คว้าตัว อ่อง ธู กองหน้า เมียนมา, เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ คยอ โค โค กองหน้า เมียนมา ส่วนทีมจอมปั้นเด็กอย่าง ชลบุรี เอฟซี ก็ยังต้องขยับไปซิว ซุลฟะห์มี อารีฟีน กองกลางชาวสิงคโปร์ มาร่วมทีม หรือแม้แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ต้องไปเอาตัว ฮอง วู แซมสัน กองหน้าชาวไนจีเรีย แต่ได้สัญชาติเวียดนามมาลุยกับเขาเหมือนกัน
โดยในรายของ บุรีรัมย์ นั้นโดนวิจารณ์พอสมควรสำหรับกรณีนี้ ว่าสมาคมฟุตบอลฯ อุตส่าห์เปิดพื้นที่สำหรับดึงนักเตะเพื่อนบ้านมาขยายฐานแฟนคลับ แต่ดันคว้านักเตะโอนสัญชาติมา จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวจากสื่อเวียดนามว่า คนที่ "ปราสาทสายฟ้า" สนใจคือ เหงียน กง เฟือง กองหน้าทีมชาติเวียดนาม ที่เพิ่งนำทัพ ยู 23 มาดับซ่าทีม "ช้างศึก" รุ่นอายุเดียวกันใน "M 150 คัพ" ที่สนาม ช้าง อารีน่า (หรือไอโมบาย สเตเดี้ยม เดิมนี่แหละ) แถมค่าตัวสุดอลังการ 100 ล้านบาท ว่าไปนั่น สุดท้ายหวยมาออกที่หัวหอกโอนสัญชาติจาก ฮานอย ที แอนด์ ที สื่อท้องถิ่นถึงกับเงียบกริบกันเลยทีเดียว
เชื่อว่าแฟนบอลหลายรายคงเข้าใจดีว่าการเปิดใช้โควต้าอาเซียน เป็นแผนการตลาดอันแยบยลของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ต้องการดึงดูดแฟนคลับจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือเป็นวิธีเดียวกับ "เจลีก" ที่เปิดโควต้าอาเซียนให้สโมสรแดนปลาดิบเซ็นนักเตะจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปโลดแล่นเพื่อเพิ่มมูลค่าการตลาดจากแฟนคลับนอกประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดจากกรณีของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ไปเล่นกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ประสบความสำเร็จจนสโมสรร่วมลีกอย่าง ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมา ต้องมายืมตัว ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าเบอร์ 1 ของทีมชาติไทย ไปล่าตาข่าย เช่นเดียวกับ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทย ก็ได้รับการทาบทามไปร่วมทีม วิเซล โกเบ ขณะที่นักเตะไทยเบอร์รองอย่าง "ไอซ์" จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ เองแม้ต้นสังกัดอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด จะไม่อยากปล่อยตัว แต่ด้วยความที่ เอฟซี โตเกียว ซึ่งยืมไปแล้วเมื่อฤดูกาลก่อน บอกว่ามีโอกาสขยับจากชุด ยู 23 ขึ้นสู่ชุดใหญ่ ก็ทำให้ ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสร ไม่อาจบอกปัดการยืมตัวต่อเนื่องในฤดูกาล 2018 ได้
แม้จะเปิดช่องขนาดนี้ ก็ใช่ว่าทุกทีมในไทยลีก จะสนใจโควต้านักเตะเพื่อนบ้าน หลายทีมก็ออกมายืนยันว่า ยังต้องรอดูหลายอย่าง เพราะนักเตะรอบๆ บ้านเรา เอาจริงๆ หากว่าเก่งก็ไม่แน่ว่าจะเล่นได้ เล่นดีเหมือนยามลงสนามในลีกบ้านเขา เพราะต้องใช้เวลา ต้องปรับตัวกับบรรยากาศ รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างออกไป
ที่สำคัญยกตัวอย่างกรณีที่มีการกล่าวถึงนักเตะมาเลเซีย ไม่เห็นมีใครสนใจมาเล่นในไทยลีก ซึ่ง ฮาซิฟาน ฮาลิม แห่ง MVP Sports Agency Talent บริษัทเอเยนต์ดัง เผยว่าเป็นเพราะข้อเสนอเรื่องตัวเลขรายได้ยังไม่มากพอที่จะดึงดูด เนื่องจากเตะในบ้านเขาก็รับพอๆ กันหรืออาจจะมากกว่าไทยลีกด้วยซ้ำ แม้ว่าลีกบ้านเราจะดูเหนือกว่าก็ตาม อีกชาติที่ดูแล้วคงมาไทยลีก ยากคือ นักเตะเวียดนาม เพราะว่ากันว่าวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ชอบใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหญ่ การเดินทางมาเล่นในต่างแดนโดยเฉพาะประเทศไทยนั้นทำให้ต้องคิดหนัก และอาจมองว่าคุณภาพฝีเท้าอาจไม่แตกต่างกันมากนัก จึงเลือกที่จะค้าแข้งในประเทศกันมากกว่า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร
พอเป็นแบบนี้ ก็เริ่มมีเสียงวิจารณ์กันแล้วว่าโควต้าอาเซียน กำลังจะเหลว ... อันนี้ก็เร็วไปที่จะมาฟันธงเพราะมันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น นักเตะอาเซียนเขาก็อยากเห็นเหมือนกันว่าผู้เล่นรอบบ้านเรามาเล่นไทยลีกนี่จะเป็นอย่างไร หากมาแล้วดีกระแสตอบรับดี เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น จนฝีเท้าไปเตะตาลีกระดับสูงขึ้นอย่าง เจลีก ที่มีโควต้าอาเซียนด้วยเหมือนกัน อนาคตก็ยังไม่แน่ ต้องอดใจรอชมไปก่อน....
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *