ตูน บอดี้สแลม วิ่งวันที่ 33 ถึงกรุงเทพฯ "คิง เพาเวอร์" พร้อมผู้ใหญ่ใจดีต้อนรับอบอุ่น มอบเงินบริจาครวม 100ล้านบาท เจ้าตัวตั้งเป้าพยายามวิ่งให้ได้ภายใน 55 วันตามกำหนด ถึง อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2560 เวลาประมาณ 23.00น. อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม" วิ่งเป็นวันที่ 33 ถึงกรุงเทพมหานครเป็นทื่เรียบร้อย ในโครงการก้าวคนละก้าว จาก อ.เบตง จ.ยะลา มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดย "คิง เพาเวอร์" จัดงานต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ที่สำนักงานคิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ พร้อมมอบเงินสนับสนุนจากบรรดาผู้ใหญ่ใจดี
บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ประชาชนเดินทางไปร่วมต้อนรับ ตูน บอดี้สแลม อย่างมากมาย ส่งเสียงตะโกนพร้อมยื่นเงินบริจาคตลอดทาง ซึ่งภายในงานมีผู้ใหญ่หลากหลายวงการร่วมมอบเงินสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งในตอนแรก "คิง เพาเวอร์" มอบเงินสนับสนุนจำนวน 53,000,000 บาท พร้อมผู้สนับสนุนคนอื่นๆ รวมแล้วจำนวน 89,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เพิ่มเติมในส่วนที่เหลืออีก 11 ล้านเป็น รวมทั้งสิ้นวันนี้โครงการก้าวคนละก้าวได้เงินบริจาคเพิ่มเติมอีก 100ล้านบาท ซึ่งทำให้ยอดเงินรวมทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มวิ่งจนถึงเวลานี้รวมแล้วกว่า 500ล้านบาท
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ กล่าวว่า "ขอขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้ ขอบคุณพี่ตูนที่ทำให้คนไทยรู้จักคำว่าให้ ผมเห็นตามถนนหนทางตั้งแต่พี่ตูนวิ่งจากเบตง ขึ้นมาถึงกรุงเทพฯ ทุกคนรู้จักการให้กันอย่างเต็มเปี่ยม อย่างไม่มีข้อแม้ ทุกๆคนร่วมส่งกำลังใจทำให้พี่ตูนเดินทางไปถึงใฝ่ฝัน ซึ่งไหนๆก็ไหนๆแล้ว ตอนนี้ยอด 89 ล้าน คุณพ่อผมบอกมาว่างั้นก็เอาให้ครบ 100ล้านบาทเลยแล้วกัน"
ขณะที่ อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม" กล่าวว่า "การมารวมตัวกันวันนี้ไม่ใช่การส่งเสียงเป็นกำลังให้นักร้อง แต่ผมอยากให้การเปล่งเสียงครั้งนี้เป็นการเปล่งเสียให้กำลังแก่คุณหมอ พยาบาล ทุกคนที่อยู่เคียงข้างผมด้วย ผมอยากให้โครงการนี้เปรียบเสมือนพวกเราคนไทยที่จะส่งกำลังใจไปให้พวกเขาที่ทำงานอย่างหนัก และผมก็อยากให้คนไทยทุกคนลุกขึ้นมาออกกำลังกาย มันจะเป็นการแก้ปัญหาในการป้องกันโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตแก่ตัวเรา ไม่ต้องไปใช้บริการโรงพยาบาล ไม่ต้องสิ้นเหลืองค่ารักษา หรือรบกวนโรงพยาบาล มันจะเป็นเรื่องบวก ไม่ใช่แค่เรื่องเสมอตัว โครงการก้าวคนละก้าวต้องขอขอบคุณ คิง เพาเวอร์ มากๆ"
"วันแรก ผมเดินเข้ามาพบคุณต๊อบ อัยยวัฒน์ เกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ เขาฟังผมพูดเพียงแค่ 20 นาที เขาก็เอ่ยปากออกมาเลยว่า เขาขอที่จะช่วยและสนับสนุนโครงการนี้ และสนับสนุนผมอย่างเต็มที่เพื่อให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ"
"หลายคนอาจมองว่าผมเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในยุคนี้ แต่ผมคิดว่าผมคงสู้พวกซูเปอร์ฮีโร่ไม่ได้เลย เพราะฮีโร่ที่แท้จริงคือบุคคลที่ใส่เสื้อสีขาวๆอยู่ที่โรงพยาบาล พวกเขาทำงานอย่างหนักเพียงแต่ไม่มีไฟสปอตไลท์จับจ้องไปที่พวกเขาเท่านั้นเอง"
"ทำไมเราในฐานะคนไทยคนหนึ่งจะไม่ยอมช่วยเขา เพียงแค่เงิน 5 บาท 10 บาท ทุกคนช่วยกัน กองเงินเล็กเหล่านี้ให้มันเป็นกองใหญ่ นำไปช่วยคุณหมอ พยาบาล ซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ที่เขาจำเป็นต้องใช้ ถ้าทุกคนไม่เดือดร้อนทำไมจะไม่ช่วยเขาล่ะครับ โครงการนี้อยากให้ทุกคนเห็นภาพของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว บางคนมีเยอะ ก็บริจาคให้เยอะ บางคนมีน้อยก็มีส่วนร่วมในการบริจาคได้เล็กๆน้อยๆ วันนี้วันที่ 33 ของการวิ่ง จากเงิน 5 บาท 10 บาท ตอนนี้กลายเป็นยอดเงินกว่า 500ล้านบาทแล้วครับ"
"เงิน 500กว่าบ้านบาทตรงนี้ ณ เวลานี้ แน่นอนจะเป็นการกระจายไปทั้งหมด 11 โรงพยาบาล เพื่อนำไปเป็นทุนในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆมาให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเราๆ ซึ่งผมตั้งเป้าไว้ 700ล้านบาท จริงๆดูแล้วอาจจะไม่พอด้วยซ้ำไปถ้าจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ก็มาถึงตรงนี้ผมอยากให้ทุกคนร่วมกันส่งเสียง ส่งกำลังใจไปให้คุณหมอ และพยาบาลทุกๆคนด้วยครับ ขอบคุณทุกคนมากๆครับ" ตูน กล่าวทิ้งท้าย
