“น้องเกี๊ยว” ชลธิชา คะบุตร สาวน้อยวัย 14 ปีจากจังหวัดอุดรธานี ถือเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตาของวงการกรีฑาไทยในประเภทกระโดดค้ำ หลังจากที่สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เห็นแววจากโครงการ “โรซ่าโฮมฮักนักกีฬาน้อย Roza Kid's Athletics” จึงได้ดึงเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมกับรุ่นพี่ทีมชาติไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ระยะเวลาเพียง 1 ปี ภายใต้การดูแลของ “โค้ชพงษ์” สมพงษ์ โสมบ้านกวย อดีตเหรียญทองกระโดดค้ำซีเกมส์ ที่ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน ที่เป็นคนปูพื้นฐานกระโดดค้ำให้สาวน้อยเจ้าของส่วนสูง 170 ซม. เพื่อต่อยอดเป็นความหวังของทีมชาติไทย “ตอนแรกที่สมาคมฯ ชวนให้มาเข้าแคมป์ คิดไว้ว่าอยากจะวิ่ง แต่โค้ชให้ลองกระโดดค้ำ และกลับมาฝึกด้วยตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าชอบและท้าทายกว่าการวิ่งแข่งทั่วไป จึงหลงรักในกีฬาชนิดนี้” น้องเกี๊ยว เริ่มกล่าว
หลังจากที่ก้าวเข้าสู่แคมป์กรีฑาทีมชาติไทย สาวน้อยจากอุดรธานี ยอมรับว่ามีความคิดถึงบ้านตามประสาเด็กทั่วไป แต่เพราะได้รับการดูแลอย่างดีจากสมาคมฯ และโรซ่า ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านตัวเอง “ตอนแรกที่ต้องเข้ามาอยู่กับสมาคมกีฬากรีฑาฯ รู้สึกคิดถึงบ้าน แต่ตอนนี้เริ่มชิน มีการโทรหาพ่อ แม่ อยู่ตลอด แล้วก็มีโอกาสได้กลับบ้านบ้าง ซึ่งผู้ใหญ่ในสมาคมฯ และโรซ่า ให้การดูแลเอาใจใส่ทุกอย่าง จึงมุ่งมั่นที่จะเอาดีทางนี้” “หลังจากนี้จะไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่โปแลนด์ ไม่รู้สึกกดดันเพราะฝึกซ้อมกับโค้ชชาวโปแลนด์มาพอสมควรแล้ว จากสถิติตอนนี้ 3 เมตร 20 เซนติเมตร โค้ชบอกว่ามีโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นไปถึง 4 เมตร 50 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสถิติควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ พอเป็นนักกีฬาแล้วรู้สึกว่าตัวเองมีวินัยมากขึ้น รู้จักแบ่งเวลา มีความรับผิดชอบ เพราะต้องฝึกซ้อม เชื่อมั่นว่าจะทำผลงานได้ดี เพราะเป้าหมายคือการเป็นหนึ่งในนักกีฬาทีมชาติ”
นอกจากนี้ น้องเกี๊ยว ชลธิชา ยังฝากถึงน้องๆ ที่อยากก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในทีมชาติไทย “สิ่งที่ต้องการบอกกับน้องๆ คือการกล้าที่จะเริ่มต้น แล้วก็ลองทำหลายๆ สิ่งที่ตนเองชอบ ซึ่งโครงการโรซ่าโฮมฮักนักกีฬาน้อย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนพิสูจน์ตนเอง ที่สำคัญน้องๆ ต้องตั้งใจ มีวินัย มุ่งมั่น แล้วก็อดทน และจะประสบความสำเร็จแน่นอน”
จากเด็กต่างจังหวัดที่ได้เข้าสู่วงการกรีฑาไทย แบบไม่คาดฝัน น่าจะเป็นแบบอย่างให้กับน้องๆ เยาวชนไทยที่มุ่งมั่นตั้งใจทำในสิ่งที่รัก จนได้รับโอกาสให้เดินทางไปเก็บตัวกับพี่ๆ ทีมชาติ ที่ประเทศโปแลนด์ในเดือนมกราคมปีหน้า และหากทำผลงานได้ดี ประเทศไทยก็จะมีนักกีฬาความหวังเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน
