ผู้จัดการรายวัน 360 – ศึกเทนนิสรายการใหญ่ฝ่ายหญิงที่สิงคโปร์ ปิดฉากรู้แชมป์กันไปเรียบร้อย คราวนี้มาถึงฝั่งผู้ชายกันบ้างกับ เอทีพี ไฟนอลส์ 2017 ดวลกันที่เดิม โอทู อารีน่า สหราชอาณาจักร วันที่ 12-19 พฤศจิกายน ซึ่งก็ดูเหมือนเป็นการเปิดสังเวียนเพื่อตัดสินให้รู้เลยว่าระหว่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดาล สองผู้เล่นขวัญใจแฟนลูกสักหลาดทั่วโลก ใครจะได้ชื่อว่าเป็น “คิง ออฟ เทนนิส 2017”
ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่คัดเลือกผู้เล่นซึ่งมีผลงานดีที่สุด 8 คน มาห้ำหั่นกันเพื่อโทรฟีแชมป์และเงินรางวัลรวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 265 ล้านบาท) ได้ผู้เข้าชิงครบทุกที่นั่งแล้ว นำโดย ราฟาเอล นาดาล (สเปน), โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (สวิตเซอร์แลนด์), อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ (เยอรมนี) , โดมินิค ธีม (ออสเตรีย), มาริน ซิลิช (โครเอเชีย), กริกอร์ ดิมิตรอฟ (บัลแกเรีย), เดวิด กอฟฟิน (เบลเยียม) และ แจ๊ค ซ็อค (สหรัฐอเมริกา)
แม้อุดมไปด้วยเหล่าแร็กเกตหนุ่มมากฝีมือ กระนั้นรายที่โดดเด่นและเป็นที่จับตามของแฟนๆทั่วโลก หนีไม่พ้นสองคู่ปรับตลอดกาล เฟเดอเรอร์ และ นาดาล ที่ประกาศศักดาความแกร่งในศึก เอทีพี ทัวร์ ฤดูกาลนี้ จนสื่อต่างยกย่องกันว่าเป็นปีแห่งการคัมแบ็คของสองผู้เล่นตัวเก๋าชนิดที่นักแข่งรุ่นน้องยังต้องเกรงใจเปิดทางให้ ทั้งที่สังขารไม่ได้อยู่ในวัยสดใหม่ดังก่อน
ย้อนดูประวัติก่อนลงสนาม เริ่มที่ นาดาล หลายปีที่ผ่านมาเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บหัวเข่ากำเริบทำให้พลาดทัวร์นาเมนต์ไปมากมาย แต่ปีนี้สุขภาพร่างกายฟิตปึ๋งปั๋งออกสตาร์ทคว้าแชมป์ 4 รายการคือ มอนติ คาร์โล, บาร์เซโลน่า, มาดริด และ จีน รวมถึง แกรนด์ สแลม 2 ใบ เฟรนช์ โอเพน สุดโปรดและ ยูเอส โอเพน และนั่นทำให้ “เอล มาทาดอร์” ได้กลับมาเป็นมือ 1 โลกอีกครั้งในรอบ 4 ปี แถมการันตีจบฤดูกาลที่ตำแหน่งสูงสุดเรียบร้อย
เรื่องน่าห่วงของแชมป์ แกรนด์ สแลม 16 สมัย มีอย่างเดียวคืออาการเจ็บหัวเข่าที่แสดงปัญหาอีกครั้งในรายการ ปารีส มาสเตอร์ส สัปดาห์ก่อน ถึงขั้นต้องถอนตัวกลางคันไปรักษาตัวและฟื้นฟูร่างกาย แม้แพทย์ผู้ดูแลจะให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าตัวอาจเสี่ยงเจ็บเพิ่ม แต่การที่หวดวัย 31 ปี ไม่เคยประสบความสำเร็จหยิบแชมป์ถ้วยนี้มาก่อน ใกล้เคียงสุดคือรองแชมป์ปี 2010, 2013 ก็เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่เขาอยากทำให้ได้
ฝั่งของ เฟเดอเรอร์ นับเป็นปีแห่งการเกิดใหม่อย่างแท้จริง เพราะกวาดแชมป์เป็นกระบุง 5 รายการที่ อินเดียน เวลส์, ไมอามี่, ฮัลเล, เซี่ยงไฮ้ และ สวิส อินดอร์ส แถมด้วย 2 แกรนด์ สแลม ออสเตรเลียน โอเพน กับ วิมเบิลดัน แบบไม่เกรงใจสังขารวัย 36 ปี ส่วนแรงกิ้งโลกปัจจุบันขึ้นมาอยู่มือ 2 แม้จบปีด้วยตำแหน่งมือ 1 ไม่ได้ แต่สำหรับคนที่เล่นเทนนิสโดยคำนึงถึงสุขภาพเป็นหลักก็ถือว่าสุดยอดยิ่ง
นั่นทำให้การดวลแร็กเกตบนสังเวียนเมืองผู้ดีหนนี้ ราวกับถูกจัดเซ็ตมาเพื่อตัดสินกันเลยว่าระหว่าง นาดาล หรือ เฟเดอเรอร์ ใครจะจบฤดูกาลเหนือกว่ากัน กองเชียร์ฝั่งหวดสแปนิชก็อยากให้ขวัญใจที่เชียร์อยู่ปลดล็อกถ้วยแชมป์ที่เขายังไม่เคยได้ ส่วนแฟนคลับอดีตมือ 1 โลก ก็อยากให้เขามีถ้วยแชมป์ติดมืออีกสักใบ จารึกความยิ่งใหญ่ก่อนนับวันถอยหลังถึงการแขวนแร็กเกต เพราะไม่มีอะไรแน่ชัดว่าปี 2018 เขาจะยังรักษามาตรฐานที่ดีแบบนี้ได้ด้วยวัยที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นคนอื่นๆอีก 6 รายก็ถือเป็นกลุ่มคนที่ไม่ธรรมดาสามารถเป็นม้ามืดได้เช่นกัน โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ เจ้าหนูวัย 20 ปีที่กลายเป็นดาวโรจน์ประจำปีหยิบแชมป์ 5 รายการ จนสื่อยกให้เป็นสตาร์อนาคตไกล เช่นเดียวกับ โดมินิค ธีม เจ้าของแชมป์รายการ 500 แต้มที่ บราซิล และ กริกอร์ ดิมิตรอฟ กับ แจ๊ค ซ็อค สองผู้เล่นมากประสบการณ์ที่มีโทรฟีติดมือ 3 ใบเท่ากัน ซึ่งน่าสนใจว่าผู้เล่นเหล่านี้จะสร้างเซอร์ไพรส์แก่คนดูได้ขนาดไหน
