เอเยนซี - สื่ออังกฤษพร้อมใจโหมข่าวหลัง “สิงโตคำราม” ชุดยู 17 ปีคว้าแชมป์โลกที่อินเดียเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งแก๊งเด็กระเบิดเหล่านี้นำโดย ไรอัน บรูว์สเตอร์ ดาวยิงค่าย ลิเวอร์พูล ที่กดไป 8 ประตูซิวดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ รวมถึง ฟิล โฟเดน กองกลาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้รางวัล “โกลเดน บอล” หรือแข้งยอดเยี่ยม
แข้งวัยละอ่อนเหล่านี้ทั้ง บรูว์สเตอร์ รวมถึง โฟเดน ต่างก็ต่อแถวรอขึ้นสู่ระดับซีเนียร์ของสโมสรในอนาคตตามด้วยทีมชาติชุดใหญ่เพื่อเป็นกำลังสำคัญสานฝัน “สิงโตคำราม” ในการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1966 แต่ใครจะเหลือรอดจนถึงวันนั้นต้องจับตาดู เพราะเส้นทางค้าแข้งต่างไม่ง่ายใครก็ยากคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า กระนั้นก็ตามที่ผ่านมามีนักเตะที่สามารถต่อยอดหลังแจ้งเกิดจากเวทียู 17 ปีในตำแหน่งแข้งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ถึง 6 คน ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นไปดูกันเลย
โทนี่ โครส (เยอรมนี) - ย้อนไปเมื่อปี 2007 ทัพ “อินทรีเหล็ก” จอดป้ายเพียงแค่รอบรองชนะเลิศจากการแพ้ ไนจีเรีย 1-3 ก่อนจะคว้าที่ 3 ปลอบใจด้วยการคว่ำ กาน่า 2-1 ซึ่ง โครส โดดเด่นในตำแหน่งจอมทัพกลบรัศมี คริสเตียน เบนเตเก (เบลเยี่ยม) วิคเตอร์ โมเซส (ไนจีเรีย) และ แดนนี่ เวลเบ็ค (อังกฤษ) โดยยิงไปทั้งสิ้น 5 ประตูได้แข้งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง ทำให้ฤดูกาลถัดมาต้นสังกัด บาเยิร์น มิวนิค เปิดทางให้จากอะคาเดมี่ขึ้นชุดใหญ่ ปัจจุบันวัย 27 ปีโยกไปบัญชาเกมให้ รีล มาดริด
เชส ฟาเบรกาส (สเปน) - เมื่อปี 2003 พ่ายรอบชิงชนะเลิศแก่ บราซิล 0-1 แต่ตลอดเส้นทางผลงานสุดโดดเด่น นำโดย ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ที่กดไปทั้งสิ้น 5 ประตูคว้าบอลทองประจำรายการไปครอง ซึ่งสามารถเบียดชนะ เฟรดดี้ อาดู แนวรุกสหรัฐอเมริกาที่กดแฮตทริกตั้งแต่นัดแรกรอบแบ่งกลุ่มที่ถล่ม เกาหลีใต้ 6-1 แต่ทีมตกแต่รอบ 8 ทีม รวมถึง ดาบิด ซิลบา ตัวรุกเพื่อนร่วมค่าย “กระทิงดุ” ที่ซัดแฮตทริกเกมรอบแบ่งกลุ่มชนะ เกาหลีใต้ 3-2 ซึ่งซัมเมอร์เดียวกัน อาร์เซนอล ได้ฉกตัวจากอะคาเดมี่ของ บาร์เซโลน่า ไปปลุกปั้นจนดังเปรี้ยงปร้าง
แลนดอน โดโนแวน (สหรัฐอเมริกา) - หนึ่งในนักเตะระดับตำนานปัจจุบันซัดไป 57 ประตูรั้งดาวยิงสูงสุด ย้อนไปปี 1999 นำทัพมะกันไปคว้าอันดับ 4 โดยรอบรองชนะเลิศแพ้จุดโทษ ออสเตรเลีย 6-7 หลัง 120 นาทีเสมอ 2-2 ก่อนที่นัดชิงที่ 3 แพ้ กาน่า 0-2 สิ่งที่ทำให้คว้าแข้งยอดเยี่ยมก็คือซัดไป 3 ประตู ทว่าไม่ได้กางมุ้งจะยิงอย่างเดียว ทว่ายังแอสซิสต์สให้เพื่อนได้อีกด้วย ผลงานเช่นนี้เองทำให้ได้ไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งที่ถูกเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้
อันแดร์สัน (บราซิล) - อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันวัย 29 ปีล้มเหลวอยู่กับ อินเตอร์นาซิอองนาล แต่ก็เคยได้รับการจับตามองมาก่อนเมื่อปี 2005 โดยยิงไปทั้งสิ้น 2 ประตูพา บราซิล เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนจะแพ้ เม็กซิโก 0-3 กระนั้นก็ตามยังได้รางวัล “โกลเดน บอล” มาครอง ปาดหน้า คาร์ลอส เวล่า กองหน้าจังโก้ดาวซัลโวที่กดไปทั้งสิ้น 5 ประตู จากนั้นปี 2006 จึงได้ย้ายไป เอฟซี ปอร์โต้
ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ (ฝรั่งเศส) - อดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล ย้อนไปวัยละอ่อนเมื่อปี 2001 ผลงานเด่นไม่มีใครเกิน เนื่องจากกดไปทั้งสิ้น 9 ประตูคว้าดาวซัลโวไปครองควบด้วยแข้งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์จากการพา ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โดยรอบชิงถล่ม ไนจีเรีย 3-0 โดยปีนั้นเต็มไปด้วยดาวเด่นอย่าง คาร์ลอส เตเบซ (อาร์เจนติน่า) เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน) และ นิโก้ ครานชาร์ (โครเอเชีย) จากนั้นได้ย้ายจาก เลอ อาฟร์ ไปเล่นให้ “หงส์แดง” พร้อมเพื่อนร่วมค่าย อองโตนีย์ เลอ ตัลเล็ก ปัจจุบันเล่นให้ ชัยนาท ฮอร์นบิล ในไทย
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ไนจีเรีย) - ดาวยิงที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะไร้ตำแหน่งตัวจริงไปอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ย้อนไปปี 2013 ซัดไป 6 ประตูนำ ไนจีเรีย คว้าแชมป์สมัยที่ 4 โดยรอบชิงถล่ม เม็กซิโก 3-0 จึงคว้าแข้งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง ปัจจุบันวัย 21 ปีต้องดูว่าเส้นทางลูกหนังจะไปได้ไกลแค่ไหน