มันส์แน่ มวยย้อนยุค / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

เป็นข่าวมาร่วมๆ เดือนแล้วสำหรับรายการมวยย้อนยุคที่ห่างหายไปนาน ที่โปรโมเตอร์หนุ่มไฟแรง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เดินหน้าดึงยอดมวยในอดีตที่เป็นทั้งยอดมวยไทยและแชมป์โลกมวยสากลอาชีพกลับมาเจอกันอีกเป็น “ภาค 3” ระหว่าง “แซมซั่น” แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์ หรือ แซมซั่น กระทิงแดงยิม เตรียมพาสังขารวัย 45 ปีขึ้นสังเวียนเจอนักชกวัย 49 ปี “พยัคฆ์หน้าขรึม” วีระพล สหพรหม หรือ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น ปลายปีนี้ 27 ธันวาคม

คู่นี้แฟนมวยรุ่นใหญ่หน่อยจำได้ดีแน่นอนว่าสมัยทั้งคู่เป็นสุดยอดมวยไทยแชมเปี้ยนเข็มขัดคนละหลายๆ เส้นนั้น เคยขึ้นฟาดปากกันมา 2 ไฟต์แล้ว ไฟต์แรกปลายปี 2534 หรือเมื่อ 26 ปีก่อน แซมซั่น ตอนนั้นกำลังรุ่งสุดๆ ค่าตัว 2 แสนเศษ ข้ามฟากมาจากวิกลุมพินี ไปต่อยวีระพลน็อกถึงราชดำเนินแค่ยกสอง จริงๆ ไฟต์นั้นวีระพลกำลังคุมเกมได้ด้วยจังหวะฝีมือที่เหนือกว่า แต่พลาดโดนซ้ายของ “บักจ่อย” โป้งเดียวเซติดเชือกโดนตามใส่อีกชุดจนล้มทั้งยืนกรรมการไม่ต้องนับ

ผ่านไปอีกปีเศษเดือนพฤษภาคม 2536 วีระพลข้ามฟากมาขอ “ล้างตา” กับแสนเมืองน้อยบ้างปรากฏว่ายกแรกแสนเมืองน้อยจ้วงซ้ายส่ง “พยัคฆ์หน้าขรึม” ลงไปนอนกับพื้นทำท่าจะไม่ลุก แข็งใจยืนขึ้นมาขาสั่นใส่หมวกกันน็อกพอดีหมดยกก่อน พอยกสองวีระพลยืนห่างหลอกให้ “บักจ่อย” เดินใส่จนมีโอกาสส่งฮุคขวาเข้าเต็มหน้าจนแซมซั่นที่ว่าทนๆ แค่ไหนก็ร่วงโดนนับ 8 ลุกขึ้นมาได้วีระพลไม่ปล่อยให้โอกาสทองผ่านไปเดินสาวหมัดอีกชุดใหญ่แซมซั่นร่วงไปโดนอีก 2 นับกรรมการจับแพ้ไปแค่ยกสองเหมือนกัน สรุปคู่นี้เจอกัน 2 ไฟต์ชกกันไม่เต็ม 4 ยกแต่มีการต่อยร่วง 5 ครั้ง

แบบนี้ไฟต์ย้อนยุคปลายปีนี้แฟนๆ ตั้งตารอแน่นอน โดยทั้งคู่ออกมาให้สัมภาษณ์เรียบร้อยว่ามีเวลาพอฟิตฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมเจอกันแน่ อันที่จริงแฟนมวยก็ออกจะเป็นห่วงอดีตยอดมวยทั้งคู่เพราะวัยขนาดนี้ประกอบกับการเรื้อเวทีมานานไม่แน่ว่าจะดีหรือเปล่าที่จะมาเล่นกีฬาที่ใช้ร่างกายเข้าแลกกันแบบนี้ โดยเฉพาะวีระพลนั้นเลิกชกไปแล้วก็ไปเปิดร้านอาหารเป็นพ่อครัวเองซะด้วยตอนนี้ควงตะหลิวถนัดกว่าต่อยหน้าคนแน่นอน ส่วนแซมซั่นนั้นสมัยชกร่างกายเกินร้อยตลอดเป็นมวยเดินเอาร่างกายเข้าแลก มาตอนนี้ถ้ายังสไตล์เดิมก็น่าเป็นห่วง

งานนี้โปรโมเตอร์หนุ่ม “เสี่ยโบ๊ท” เตรียมจัดแถลงข่าวพร้อมให้แพทย์ตรวจร่างกายนักชกย้อนยุคทั้งคู่ในวันที่ 7 พ.ย. แถมเตรียมอัดฉีดคนละแสนไว้เป็นทุนในการฟิตซ้อมถ้าผลการตรวจร่างกายทั้งคู่อยู่ในวิสัย “ชกได้” ซึ่งยอดมวยทั้งคู่เป็นยอดมวยที่มีระเบียบวินัยการฟิตซ้อมดีหนึ่งประเภทหนึ่งมาตลอดอยู่แล้ว เมื่อให้คำมั่นกับแฟนๆ ขนาดนี้เชื่อว่าเตรียมร่างกายพร้อมแน่นอน แฟนมวยเตรียมรอชมไฟต์ล้างตา “ภาค 3” ได้เลย

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *