EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้จัดงานประกาศรางวัลฟุตบอลยอดเยี่ยม (The Best FIFA Football Awards) ประจำปี 2017 ที่ ลอนเดิ้น พัลเลเดี้ยม เธียเต้อร์ (London Palladium theatre) ใน กรุงลอนเดิ้น ประเทศอังกฤษ ซึ่งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเป็นของ คริชติอาโน โรเนาโด (Cristiano Ronaldo) กองหน้าทีมชาติ ปอรตูเกา แห่งสโมสร เรอัล มาดริด แต่ที่น่ายินดีและไม่ผิดจากที่หลายฝ่ายคาดเดาก็คือ รางวัลโค้ชยอดเยี่ยม เป็นของ ซีเนดีน ซีดาน (Zinédine Zidane) อดีตจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส แห่งสโมสร เรอัล มาดริด
แม้ว่าตอนที่กล่าวขอบคุณนั้น ซีซู จะบอกว่า “บ้าจริงๆ ผมไม่เคยคิดจะอาจเอื้อมถึงถ้วยรางวัลสำคัญใบนี้เลย” แต่ความจริงแล้ว ถ้าพิจารณาจากผลงานของเขาตั้งแต่ปลายปี 2016 มาจนถึงปัจจุบันที่นำ ล้อส บลังโก้ส (Los Blancos) คว้าแช้มพ์ ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ คว้าแช้มพ์ ลา ลีก้า 2017 แช้มพ์ ซูแปรโกป้า เด เอ๊สปานญ่า (SUPERCOPA de España) ที่นำเอาแช้มพ์ ลา ลีก้า มาดวลกับ แช้มพ์ โกป้า เดล เรย์ เมื่อกลางเดือนสิงหาคม ฟุตบอลถ้วยยักษ์ของยุโรป เขาก็นำทีมเป็นแช้มพ์ ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส ลีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รวมทั้ง ยูเอ๊ฟฟ่า ซุพเพ่อร์ คัพ (UEFA Super Cup) ที่นำเอาแช้มพ์ ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส ลีก มาเจอกับ แช้มพ์ ยูโรป้า ก็นับว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากรางวัลในฐานะนักเตะพวก บัลลง ดอร รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟีฟ่า แล้ว มันยังมีรางวัลอีกมากมายที่หลายคนอาจไม่ได้นึกถึง ตอนที่ยังอายุต่ำกว่า 23 ปี ซีซู ได้รับรางวัล สหภาพนักฟุตบอลอาชีพแห่งชาติ (Trophée UNFP) ในฐานะนักเตะดาวรุ่ง ปี 1994 และในฐานะนักเตะชุดใหญ่เต็มตัวในปี 1996 รางวัลนี้ก็เหมือนกับ อ๊อสก้าร์ในวงการฟุตบอลของ ฝรั่งเศส นั่นแหละ ซึ่งเดิมก็ใช้ชื่อนี้ด้วย แต่ถูกขอร้องจากทาง สหรัฐอเมริกา ให้เปลี่ยนชื่อเพราะมันซ้ำกัน เดี๋ยวผู้คนสับสน รางวัลดังกล่าว เขาก็ยังได้รับอีกหนในปี 2007 นั่นคือรางวัลเกียรติยศสำหรับความสำเร็จตลอดชีวิตค้าแข้ง
ช่วงที่ลงเตะให้ ยูเวนตุส เขาก็ได้รับรางวัลนักเตะต่างชาติยอดเยี่ยมของ เซริเอ อา ในปี 1997 ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2001 นอกจากรางวัลเดิมนี้อีกหน ยังพ่วงรางวัลแอ๊สซิสท์ยอมเยี่ยมและที่สำคัญ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย เมื่อย้ายไป สเปน ซีซู ก็ได้รับรางวัล ด็อน บาล่อน (Don Balón) และ เอ็ล ปาอิส (El País) ในปี 2002 มันก็คือรางวัลนักเตะต่างชาติยอดเยี่ยมนั่นเอง
ในปี 2011 ซีดาน ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่ง นั่นคือ รางวัล ลอริอุส (Laureus World Sports Awards) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลเพียงไม่กี่คนที่ได้สัมผัสรางวัลนี้ เช่น เปเล่ (Pelé) ฟรั้นซ เบ๊คเค่นเบาเอ้อร์ (Franz Beckenbauer) โยฮัน ไคร้ฟ์ (Johan Cruyff) และ บ๊อบบี้ ชาร์ลเติ้น (Bobby Charlton)
ในฐานะนักเตะก็ต้องถือว่า ซีซู เก็บเลเวิ่ลมาครบถ้วนทั้งในนามทีมสโมสร เป็นแช้มพ์ภายในประเทศ แช้มพ์ระดับทวีป และแช้มพ์ระดับโลก เมื่อลงเล่นในนามทีมชาติก็ได้แช้มพ์ระดับทวีป และระดับโลก ส่วนในฐานะโค้ชนั้น ซีซู นำสโมสรสู่ความสำเร็จภายในประเทศ ระดับทวีป และระดับโลกได้แล้ว เขาเคยได้รางวัลจาก ยูเอ๊ฟฟ่า มาตั้งแต่ปีที่แล้วในฐานะโค้ชดาวรุ่งยอดเยี่ยมจาก ลา ลีก้า สเปน และ แช้มเปี้ยนส ลีก นอกเหนือจากรางวัลที่นำความสำเร็จมาสู่สโมสรที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมประจำปีของ ฟีฟ่า จึงเป็นรางวัลยิ่งใหญ่เต็มตัวระดับโลกอีกหน คราวนี้ในฐานะโค้ช หลังจากที่เคยได้รับในฐานะนักเตะมาแล้วในปี 1998 2000 และ 2003
ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล คนที่สามารถคว้าแช้มพ์โลกได้ทั้งในฐานะนักเตะและในฐานะโค้ชมีเพียง 2 คนเท่านั้นคือ มาริโอ ซาเกาโล (Mário Zagallo) กองหน้าทีมชาติ บราซิว ชุดแช้มพ์โลก 1958 และ 1962 และโค้ชทีมชาติ บราซิว ชุดแช้มพ์โลก 1970 กับ ฟรั้นซ เบ๊คเค่นเบาเอ้อร์ สุดยอดลิเบโร่ทีมชาติ เจอรมานี ตะวันตก ชุดแช้มพ์โลก 1974 และโค้ชทีมชาติ เจอรมานี ชุดแช้มพ์โลก 1990 ผมว่า คนที่ 3 ก็น่าจะเป็น ซีเนดีน ซีดาน นี่แหละ ดังนั้น สถานีต่อไปของ ซีซู ก็น่าจะอยู่ที่การเข้ารับตำแหน่งโค้ชทีมชาติ ฝรั่งเศส ต่อจาก ดิดิเอ เดช็อง (Didier Deschamps) อย่างแน่นอน เพื่อนำทีมชาติคว้าแช้มพ์ทวีปยุโรปหรือแช้มพ์โลกในฐานะโค้ช และเมื่อถึงเวลานั้นซึ่งยังไม่มีใครทราบว่าเมื่อไร ซีเนดีน ซีดาน จะเป็นตำนานที่อยู่เหนือทุกคน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *