ดาวเตะร่างเล็กดีกรีทีมชาติไทย คืนสนามลง 11 คนแรกให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อีกครั้ง ก่อนพาทีมบุกเฉือน เอฟซี โตเกียว 2-1 จากการเหมาสองประตูของ เจย์ โบธรอยด์ เก็บสามแต้มสำคัญขยับห่างโซนหนีตาย 7 แต้ม ไร้พ่าย 4 เกมติดต่อกัน
"เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ คัมแบ็คจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามเป็น 11 คนแรกให้ต้นสังกัด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อีกครั้ง ด้วยการพาทีมบุกเยือน เอฟซี โตเกียว ที่อานิโยโมโตะ สเตเดียม
คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอด 3 เกมหลังสุด แมตช์ที่แล้วเพิ่งเปิดบ้านเอาชนะทีมหัวตารางอย่าง คาชิว่า เรย์โซล ขาดลอย 3-0 ทำแต้มขึ้นมารั้งอันดับ 13 ของตาราง ขณะที่ เอฟซี โตเกียว ผลงานไม่สู้ดีนัก ไม่ชนะใครเลยใน 3 เกมหลังสุด รั้งอันดับ 11 ของตาราง
เกมนี้ ชูเฮอิ โยโมดะ กุนซือใหญ่ซัปโปโร ใส่ชื่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะขวัญใจชาวไทยคืนสู่ 11 คนแรก หลังจากเกมที่แล้วได้พักจากอาการบาดเจ็บ มีชื่อเป็นตัวสำรองแต่ก็ได้ลงมาเล่นในช่วงท้ายเกม โดยเกมนี้ "เมสซี่เจ" ประสานงานในแดนรุกร่วมกับ เจย์ โบธรอยด์, เคน โทคุระ 2 ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม
เปิดฉากในครึ่งเวลาแรกรูปเกมค่อนข้างสูสี เป็นทีมเยือนที่ครองเกมได้ดีกว่าเจ้าถิ่นเล็กน้อย เกือบได้ประตูขึ้นนำหลายต่อหลายครั้งแต่พลาดโอกาสไป จบครึ่งเวลาแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งเวลาหลังรูปเกมของเจ้าถิ่นยังไม่กระเตื้อง และกลายเป็นผู้มาเยือน อย่าง คอนซาโดเล่ ที่บุกมานำก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 ในนาทีที่ 49 จากจังหวะที่ เจย์ โบธรอยด์ พักอกเอาบอลลงในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวา ผ่านมือนายประตูเจ้าถิ่นเข้าไป
ซัปโปโร ยังเล่นได้ดีกว่า และมาหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 60 จากจังหวะที่ เคน โทคุระ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาให้ เจย์ โบธรอยด์ โหม่งเช็ดบอลตกพื้นหนีมือนายทวารเอฟซี โตเกียว เข้าประตูไป
อย่างไรก็ตามเจ้าถิ่นเอฟซี โตเกียว ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำประตูตีไข่แตกไล่มา 1-2 ในนาทีที่ 65 จากการยิงของ จาง ฮุยน ซู ปราการหลังชาวเกาหลีใต้
ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันได้ หมดเวลา 90 นาที คอนซาโดเล่ ซัปโปโร บุกเฉือน เอฟซี โตเกียว 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ มี 34 คะแนน รั้งอันดับ 13 ต่อไป เป็นการไร้พ่าย 4 เกมติดต่อกัน และเป็นการเก็บชัย 2 เกมรวดของยอดทีมจากเกาะฮ็อกไกโด มีแต้มห่างจากโซนหนีตาย 7 คะแนน โอกาสรอดตกชั้นค่อนข้างสูง ขณะที่ โตเกียว รั้งอันดับ 11 เช่นเดิม
คลิปทำประตู