โค้ชเซียะ จือ หัว ผู้ฝึกสอนเเบดมินตันชาวจีน กลายเป็นพลเมืองของประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ หลังได้รับประกาศในราชกิจจานุเบกษาจากในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ เข้ารับสัญชาติไทย ใช้ชื่อ “ก่อเกียรติ ชัยประสิทธิ์โชค” เผยเตรียมพา รัชนก อินทนนท์ กลับสู่ท็อป 5 เพื่อการันตีสิทธิ์ลุยเวิลด์ไฟนอล
หลังจากที่ โค้ชเซียะ จือ หัว ผู้ฝึกสอนเเบดมินตันชาวจีน ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการพา รัชนก อินทนนท์ ทะยานสู่มือ 1 โลกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมเเจ้งความประสงค์ที่จะเปลี่ยนมาถือสัญชาติไทยไว้กับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อปลายเดือน เมษายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา โค้ชเซียะ ได้เดินทางเข้ารับใบรับรองสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล โดยก่อนหน้านี้ ได้เข้าทำพิธีปฏิญาณตน และพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อตรวจเปรียบเทียบยืนยันตัวบุคคล กับกองพิสูจน์หลักฐาน ตามมาตรา 12 วรรค 3 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และใช้ชื่อไทยว่า นายก่อเกียรติ ชัยประสิทธิ์โชค
โดยเจ้าตัว กล่าวว่า “หลังจากที่ดำเนินการแปลงสัญชาติจากจีนมาถือสัญชาติไทยเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทยเดินทางไปกับนักกีฬาไทยสะดวกมากกว่าเดิม ส่วนตัวดีใจมากๆ เพราะรู้สึกผูกพันกับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน”
น้องเมย์ รัชนก พูดถึง โค้ชเซียะ ว่า ทำหน้าที่มากกว่าโค้ช เปรียบเหมือนเป็นพ่อของนักกีฬาทุกๆ คน โดยหลังจากรับมอบสัญชาติก็จะเดินทางไปทำบัตรประชาชน และ พาสปอร์ต เพื่อเร่งขอวีซ่าให้ทันก่อนเดินทางไปแข่งขัน ไชน่า โอเพ่น ที่ประเทศจีน เดือนพฤศจิกายน
สำหรับเป้าหมายของ น้องเมย์ รัชนก ที่เหลืออยู่ในปีนี้ คือ การเข้ารอบให้ลึกที่สุดในแต่ละรายการ รวมทั้งทำแรงกิ้งให้ติด 1 ใน 8 เพื่อไปเล่นรายการใหญ่ส่งท้ายปี ศึกดูไบ เวิลด์ ซูเปอร์ซีรีส์ ไฟนอลส์ ซึ่งจะจัดที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นปีสุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวเชื่อมั่นหากสภาพร่างกายสมบูรณ์ก็มีโอกาสกลับไปเป็นมือ 1 โลกได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ “โค้ชเซียะ” ผู้ฝึกสอนแบดมินตันชาวจีน เดินทางมาร่วมงานกับสโมสร บ้านทองหยอด ตั้งแต่ พ.ศ. 2534 และรับหน้าที่ดูแล “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ
พร้อมพาขนไก่สาวไทย คว้าแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยติดในปี 2009, 2010, 2011 รวมทั้งแชมป์โลกปี 2013, แชมป์เอเชีย 2015 นักแบดมินตันคนแรกของโลกที่สามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์สามรายการติดต่อกันใน 3 สัปดาห์ ที่ประเทศอินเดีย, มาเลเซีย และ สิงคโปร์, ครองมือ 1 โลกในประเภทหญิงเดี่ยว
