คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
นับตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งผู้นำสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มาเป็นยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือ "พี่อ๊อด" พี่ๆ น้องๆ นักข่าวจะเรียกขาน หรือเรียกอำกันลับหลังว่า "พ่ออ๊อด" ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการย้ายที่ทำการสมาคม การปรับเปลี่ยนโลโก้ลีก การทำงานมีการตั้งธง วางแผนอย่างเป็นระบบ แน่นอนว่าหลายอย่างปรับเปลี่ยนในทางที่ดูแล้วเห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากกว่ายุคก่อนๆ แต่การจะไปให้ถึงจุดหมายด้วยการยกระดับฝีเท้านักฟุตบอลจนพาทีมชาติไทยไปถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั้นไม่ง่าย สิ่งหนึ่งที่ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคในการพัฒนาคือ "ระบบอุปถัมภ์"
ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ เองก็เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่าการมาของ "เอคโคโน่" บริษัท ลูกหนังสัญชาติสเปน ที่ได้รับการว่าจ้างมาวางระบบฟุตบอลระดับเยาวชนในประเทศไทย ส่วนหนึ่งก็คือการล้างระบบดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา การคัดเลือกนักฟุตบอลทุกระดับจะมีปัญหาเรื่อง "เด็กเส้น" ใครเป็นโค้ช ก็จ้องแต่จะเอาเด็กของตัวเอง เลือกลูกรักมาติดทีมก่อน ทั้งที่มีนักเตะรายอื่นให้เลือก แต่ไม่รู้เวรกรรมอะไรไปบังตา ยกตัวอย่าง อดีตโค้ชทีมชาติบางคน เลือกแต่นักฟุตบอลที่ตัวเองเรียกไปถ่ายงานโฆษณาได้มาติดทีมชาติอยู่นั่นแหละ ทั้งที่ฟอร์มก็ดิ่งเหว ขณะที่นักเตะคนอื่นฟอร์มดีกลับไม่เรียก ไม่ให้โอกาส บอกว่าดูบอลอยู่บ้าน ได้ดูไฮไลท์ เห็นกันทุกสัปดาห์ ให้ไปสนามดูฟอร์มก็ไม่เอา ไปแล้วไม่ได้ตังค์ ไปแต่สนามที่มีผู้สนับสนุนรายใหญ่ชวนไปถ่ายโฆษณาถึงจะไป
ทีนี้พอได้บริษัทวางระบบฟุตบอลจากแดนกระทิงดุมาแล้ว คนไทยด้วยความที่เกรงใจฝรั่ง เขาเลือกใครติดทีมชาติก็ไม่ก้าวก่ายลบข้อครหาต่างๆ มลายสิ้น ทีนี้ถ้าผลงานของทีมชาติเยาวชนชุดต่างๆ ไม่ดี หรือดูไร้ทิศทางมันก็มีทางเลือกคือไม่ต่อสัญญาเมื่อครบปีสามารถเลิกได้ ก็เป็นหนึ่งในการล้างการยึดติดกับตัวบุคคล หรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งเหมือนในอดีต
แต่อย่างว่าระบบอุปถัมภ์ในวงการฟุตบอลไทย มันไม่ได้มีแค่โค้ช ลามไปถึงตำแหน่งผู้จัดการทีมด้วย ซึ่งสมัยก่อนหากจำกันได้หลายครั้งพอโค้ชเรียกผู้เล่นมา ปรากฎว่าพอถึงเวลาประกาศตัว นักเตะบางรายที่มีข่าวว่าจะเรียกมาซ้อมกลับไม่มีชื่อ แต่กลับไปมีชื่อใครอีกคนที่ถูกคอถูกใจกับผู้จัดการทีมมากกว่า ซึ่งคนเป็นโค้ชก็มักเกรงใจคนกระเป๋าหนักที่มาดูแลทีมชาติ สุดท้ายก็ไปไม่ถึงไหน ดังนั้นระบบนี้จึงถูกโละในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งแม้ "คุณเดียร์" วทันยา วงษ์โอภาสี จะเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของทีมชุดแชมป์ซีเกมส์ แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ต่อ เพราะต่อจากนี้จะมีทีมงานของสมาคมฟุตบอลฯ ลงมาดูแลทุกอย่างให้เป็นระบบมากขึ้น
พอพูดแบบนี้อ้าว...เห็นวันก่อนยังมีการแชร์รูป "น้องพลอย" รัมภา สาวแว่นใส เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอายุไม่เกิน 16 ปี ของสมาคม แน่นอนว่าตำแหน่งผู้จัดการทีมนั้นต้องมี แต่สถานภาพจะไม่เหมือนเดิม ไม่ต้องเป็นคนมีเงิน เสี่ยกระเป๋าหนัก หรือคอยหาเงินมาอัดฉีด โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ภายในสมาคมนี่แหละ มารับหน้าที่ เพื่อประสานงานและคอยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องรวย เนื่องจากใช้เงินสมาคมเบิกจ่ายทุกอย่างให้ถูกต้องครบถ้วนเป็นพอ
ถึงตรงนี้มีความสงสัยว่าแล้ว "มาดามแป้ง" ล่ำซำ คนสวยแห่งบริษัทประกันยักษ์ใหญ่นี่ก็เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงอยู่เหมือนกัน จะต้องลงจากเก้าอี้ไหม อันนี้ วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมฝ่ายพัฒนาเทคนิค ยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน ยังคงอยู่ที่เดิม ตำแหน่งเดิม เพราะดูแลกันมาตั้งแต่ต้นไม่แซะเก้าอี้มาดาม เนื่องจากแกก็ไม่มีเวลามายุ่มย่ามกับทีมมาก ส่งทีมงานมาดูแลไม่ต่างกับทีมงานของสมาคมเหมือนกัน เป็นอันว่าชัดเจนกับการล้างระบบอุปถัมภ์ในสมาคมฟุตบอลแล้วนะ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *