ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - เอ่ยชื่อองค์กรมวยสากลสมัครเล่นระดับโลก อย่าง ไอบ้า (AIBA) ภายใต้การดูแลของ ชิง กั๊วะ วู ประธานใหญ่ น่าจะเรียกเสียงยี้จากแฟนมวยมากกว่าชื่นชมเพราะสร้างวีรกรรมทางลบมากมาย จนแทบเอ่ยไม่หมด ทว่า ท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวหลายปี สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนชาติสมาชิกต่างๆ เริ่มเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าถึงเวลาที่พวกเขาต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง อันส่งผลต่อเก้าอี้ของผู้นำชาวไต้หวันอย่างน่าลุ้นระทึก
หากจะยกตัวอย่างความเสื่อมเสียจากน้ำมือ ไอบ้า เชื่อว่า คงเล่าได้ไม่สิ้นสุด แต่จะยกมาสัก 2 กรณี เอาแบบที่โลกและคนไทยจดจำ เริ่มที่ โอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ การชิงเหรียญทองรุ่น ไลท์ ฟลายเวต ระหว่าง แก้ว พงษ์ประยูร กับ ซู ชิหมิง ยอดนักชกชาวจีน ตลอดการชก กำปั้นชาวไทย ออกอาวุธสู้ไม่ถอย ขณะที่ “อาหมิง” สเต็ปหนีมากกว่าตอบโต้ สุดท้ายผู้ตัดสินให้นักสู้แดนมังกรชนะแบบค้านสายตาจน แก้ว ทรุดคาเวที แม้ต้องโทษทีมงานของไทยส่วนหนึ่งที่ยื่นผลประท้วงช้า แต่ผลที่ออกมาก็ทำให้ชาวต่างชาติไม่พอใจเช่นกัน
อีกเคสฉาวระดับโลก คือ โอลิมปิก 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ไมเคิล คอนแลน นักชกหนุ่มชาวไอริช แจกของชำร่วยใส่ทีมผู้ตัดสินหลังอีกฝ่ายชูแขน วลาดิเมียร์ นิคิติน คู่ต่อสู้จาก รัสเซีย เป็นผู้ชนะ 3-0 เสียง ทั้งที่กำปั้นหมีขาวถูกต่อยเลือดอาบ แน่นอนว่า ทีมงานจาก ไอร์แลนด์ ย่อมไม่พอใจไปประท้วงแต่สุดท้าย ไอบ้า ก็ยืนยันคำตัดสินเดิม พร้อมลงโทษผู้ตัดสินแบบพอเป็นพิธี พ้นโทษก็กลับมาตัดสินใหม่สบายใจ
แม้จะมีเหตุฉาวมากมาย รวมถึงการสร้างรูปแบบการตัดสินมวยสากลสมัครเล่นที่ไม่มีการขึ้นคะแนนให้เห็นแบบสดๆ เหมือนแต่ก่อน ใช้สายตากรรมการอย่างเดียวจนทุกชาติเอือมระอา แต่เก้าอี้ของ ชิง กั๊วะ วู ก็ยังอยู่ดีมีสุขไม่มีใครมาเลื่อยขา อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงที่มีเริ่มสั่นคลอน เมื่อคณะกรรมการผู้บริหารของ ไอบ้า ลงมติไม่ไว้วางใจให้ประธานใหญ่ชาวไต้หวันทำงานต่อไป จาก 20 คน ลงมติไม่เอาถึง 13 คน ไม่มาประชุม 4 คน แต่เห็นด้วย ส่วนอีก 2 คน งดออกเสียง แต่ 1 เสียงที่เหลือ คือ ชิง กั๊วะ วู เลือกให้คะแนนไว้วางใจตัวเอง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่งสัญญาณให้เห็นว่า ไอบ้า กำลังจะถูกปฏิวัติครั้งใหญ่ เพราะผู้บริหารทั้ง 17 คน ยื่นเรื่องต่อศาลในสวิตเซอร์แลนด์ไม่ให้ “ประธานวู” ได้ทำหน้าที่และเข้าถึงคลังการเงิน พร้อมกับขอเป็นฝ่ายดูแลองค์กรชั่วคราว ส่วนนายใหญ่จากไต้หวันก็ยื่นเรื่องต่อสู้เช่นกัน สุดท้ายศาลแดนนาฬิกา มองว่า ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ขอเก็บไว้ก่อน ส่วนผลการพิจารณาต้องรอดูอีกทีคาดว่าไม่เกินเดือนกันยายนน่าจะรู้ผลว่าใครอยู่ใครไป
ณ ปัจจุบัน ชิง กั๊วะ วู ยังมีสิทธิ์ในการบริหาร ไอบ้า เต็มเปี่ยม ขณะเดียวกัน ทางองค์กรกำลังจัดศึกใหญ่ชิงแชมป์โลก วันที่ 25 สิงหาคม - 2 กันยายน นี้ ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี น่าจะถือเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญที่บิ๊กใหญ่จากไต้หวัน ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ชาวโลกเห็นว่าองค์กรของตนนั้นโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซื่อตรง สุจริต รวมถึงทีมผู้ตัดสินต้องทำหน้าที่แม่นยำ แต่หากเกิดเรื่องฉาวขึ้นมาก็จะกลายเป็นการโยนโอกาสให้ทีมผู้บริหารที่เห็นต่างยิ้มร่า และศาลจาก สวิตเซอร์แลนด์ ตัดสินใจง่ายขึ้น
พิจารณาจากการตัดสินหากถึงคราวที่ ชิง กั๊วะ วู พ่ายแพ้เดินจากไป ก็ต้องหาประมุขคนใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครจะกล้าเข้ามารับงานล้างบางองค์กรมวยสมัครเล่นที่คนทั่วโลกขาดความศรัทธาแบบนี้ แต่แน่นอนว่า ต้องสรรหาล่วงหน้าไว้แล้ว ขณะเดียวกัน หาก ประธานวู ได้รับเลือกการทำงานต่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมไหม ที่แน่ๆ ตอนนี้หลายคนคงเชียร์ให้ฝ่ายผู้ประท้วงคว้าชัยชนะมากกว่า
สิ่งที่เห็นจาก ไอบ้า ทำให้นึกถึงองค์กรลูกหนังโลกอย่าง ฟีฟ่า ยุคที่ เซปป์ แบล็ตเตอร์ เป็นประธาน ซึ่งก็เคยมีเรื่องราวอื้อฉาวมากมาย ทั้งทุจริตและรับสินบนจากชาติต่างๆ จนท้ายที่สุดก็ถึงคราวที่ทุกฝ่ายลุกฮือช่วยกันชนิดที่ แบล็ตเตอร์ และพรรคพวกถูกแบนห้ามทำกิจกรรมใดในวงการลูกหนังอีกพร้อมตั้งผู้นำคนใหม่ขึ้นมา ส่วนกรณีของ ไอบ้า แม้ยังเดินไปไม่ถึงตรงนั้น แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการล้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ใสสะอาด กลับมาเป็นที่ยอมรับอีกครั้ง
เรื่องโดย - วัลลภ สวัสดี
