เอเยนซี - วัฒนธรรมการเหยียดสีผิวเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ และยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมตะวันตก ไม่เว้นกระทั่งแวดวงกีฬา บางครั้งอาจทำให้หลายคนเชื่อว่า บุคคลต่างสีผิว มิอาจใช้ชีวิตร่วมกันบนโลกแห่งความจริง ทว่าไม่ใช่กรณีของ เดิร์ก โนวิตซ์กี ซูเปอร์สตาร์รุ่นเก๋าแห่งศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ที่พิสูจน์แล้วว่าสีของผิวพรรณที่ต่างกันไม่ใช่อุปสรรคขัดขวางความรัก
สหรัฐอเมริกา ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจลำดับต้นๆ ของโลก ขนานนามประเทศของตัวเองเป็น “ดินแดนแห่งเสรีภาพ” และพยายามรณรงค์เกี่ยวกับการเคารพสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ยังมีปัญหาดูหมิ่นดูแคลนชาติกำเนิดทั้งที่เป็นคนบ้านเดียวกัน ซึ่งประเด็นที่ถูกกล่าวขานกันมากสุดของลีกกีฬาอาชีพ ฤดูกาลที่แล้ว คือ การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ เมื่อปี 2016 จนมีผู้เสียชีวิต ทำให้เหล่านักบาสเกตบอล NBA เช่น เลอบรอน เจมส์ และ คาร์เมโล แอนโธนี แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยและเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิต
ขณะที่ฝั่ง อเมริกันฟุตบอล NFL โคลิน เคเปอร์นิก อดีตควอเตอร์แบ็ก ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ปฏิเสธยืนเคารพเพลงชาติ สหรัฐอเมริกา ตลอด เรกูลาร์ ซีซัน 2016 ต่อต้านการพฤติกรรมน่ารังเกียจของ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กรณีเข่นฆ่าคนผิวสี แม้จะต้องแลกกับการที่แม่ทัพวัย 29 ปี ยังเป็นผู้เล่นฟรีเอเยนต์แต่เจ้าตัวก็ภูมิใจกับสิ่งที่ทำ
แม้ทุกวันนี้ความแตกต่างทางสีผิวจะเป็นตัวแบ่งแยกในสังคมอเมริกา แต่ไม่ใช่กับ โนวิตซ์กี ฟอร์เวิร์ด ดัลลัส มาเวอริกส์ เจ้าของผลงานผู้ทำคะแนนสูงสุดของแฟรนไชส์ 30,260 แต้ม , ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2007 , แชมป์ NBA ปี 2011 และติด ออล-สตาร์ ทั้งหมด 13 สมัย และเลือก เจสซิกา โอลส์สัน สาวลูกครึ่งสวีดิช-เคนยา มาเป็นคู่ชีวิต
ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในอีเวนท์การกุศลของ “Sports for Education and Economic Development (SEED) Project” เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 ก่อนจะสร้างความฮือฮา ที่งานประกาศผลรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม “อีเอสพีวาย (ESPY)” เดือนกรกฎาคม 2011 หลัง โนวิตซ์กี ควงแขน เจสซิกา เปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรก
เจสซิกา มีมารดาเป็นชาวเคนยา และบิดาชาวสวีเดน แถมยังมีน้องชายฝาแฝด เล่นฟุตบอลอาชีพอยู่ที่อังกฤษ คือ มาร์คัส โอลส์สัน แบ็กซ้าย ดาร์บี เคาน์ตี และ มาร์ติน โอลส์สัน ปราการหลัง สวอนซี ซิตี ขณะที่ ฟอร์เวิร์ดวัย 38 ปี เกิดที่วูร์ซบวร์ก เมืองเล็กๆ ในประเทศเยอรมนี จำนวนประชากรราว 1.25 แสนคน โดยความแตกต่างด้านสีผิว ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตคู่
เดิร์ก กล่าว “เธอเป็นคนน่าดึงดูด แน่นอนมันเป็นส่วนหนึ่ง ผมคิดว่าเราแค่คลิกกันลงตัว เธอชอบศิลปะ กับ กีฬา พี่น้องของเธอก็เล่นฟุตบอลอาชีพ เธอเติบโตขึ้นท่ามกลางสิ่งแวดล้อมด้านกีฬา เราชอบเล่นเทนนิส , ท่องเที่ยว , รักเด็ก และครอบครัว ความจริงไม่มีใครพูดกับผมทำนองเหยียดสีผิว ทุกคนที่พบภรรยาของผม บอกว่าเธอวิเศษมาก ดังนั้นผมไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้น ผมแน่ใจว่า อาจมีคนบางคนที่คิดอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้มาพูดต่อหน้าต่อตา”
“ผมเติบโตขึ้นที่เยอรมนีควบคู่กับการเล่นบาสเก็ตบอล เราอยู่ในสังคมที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติ ตอนผมเล่นให้ทีมชาติเยอรมนี ก็มีเพื่อนๆ หลายคนมาจาก ยูโกสลาเวีย ดังนั้นเรื่องสีผิว หรือเชื้อชาติไม่ใช่ปัญหาเลย คุณเป็นทีมเดียวกัน ก็เหมือนกับการแต่งงาน คุณต้องพยายามประคับประคองไปให้ได้ และมีความเข้าใจตรงกัน”
โนวิตซ์กี กับ โอลส์สัน จูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ เดือนกรกฎาคม ปี 2012 ตามธรรมเนียมชาวเยอรมัน และเคนยา ปัจจุบันมีทายาท 3 คน แบ่งเป็น ลูกสาวคนโต กับ น้องชายอีก 2 คน ซึ่ง เดิร์ก มักจะพาลูกๆ เดินทางไป เคนยา และ เยอรมนี เพื่อรู้จักกับเครือญาติ ถึงแม้จะคุณแม่ของฝ่ายหญิง จะเสียชีวิตไปแล้ว นับตั้งแต่งานมงคลสมรส
“ซัมเมอร์ที่แล้ว เราอยู่ เคนยา 2 สัปดาห์ เธอ (เจสซิกา) มีลุงป้าน้าอา และลูกพี่ลูกน้องมากมาย คุณยายของเธอก็ยังมีชีวิตอยู่ ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีความหมายต่อครอบครัวเรา เราอยากให้ลูกพบญาติๆ ของพวกเขา ดังนั้นเราจะแบ่งเวลาเพื่อไป เคนยา ทุกฤดูร้อน บางทีเราอาจสร้างบ้านที่นั่น เราอยากให้ลูกเรียนรู้วัฒนธรรม และภาษาที่แตกต่าง เมื่อลูกเติบโตขึ้น ก็ปล่อยให้ตัดสินใจเองว่า อยากอยู่ที่ไหน หรือทำอาชีพใด” จอมยัดห่วงชาวเยอรมัน แสดงทรรศนะทิ้งท้าย
